เดือนนี้ ผมได้ร่วมแสดงงานศิลปะที่สวนสัตว์ดุสิต เขาดินวนา เป็นการได้ร่วมแสดงงานที่ผมประทับใจและมีความภาคภูมิใจเป็นที่สุดงานหนึ่ง ด้วยสาเหตุหลายอย่าง.......
อย่างแรก เป็นการได้แสดงงานกับรุ่นพี่อาวุโส ศิษย์เก่าเพาะช่าง รุ่นปี 2508-2510 การได้ร่วมแสดงงานครั้งนี้ เกิดขึ้นอย่างเกินความคาดหมาย เพราะงานนี้เป็นการทำงานด้วยกันของกลุ่มศิษย์เก่า รุ่นปี 2508-2510 แล้วก็เปิดโอกาสให้รุ่นอื่นๆ ได้มีส่วนร่วมบ้างตามความสะดวก
ผมเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนเพาะช่างด้วยเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบรุ่นแล้วก็ห่างไกลกันลิบลับ เพราะผมเป็นรุ่น 2522-2524 ห่างกัน 1 รอบนักกษัตริย์ ยิ่งเมื่อเทียบประสบการณ์และบทบาทความเคลื่อนไหวที่มีต่อสังคมแล้ว ก็มิบังอาจคิดแม้เฉียดเข้าไปไกล้เลยทีเดียว
สมาชิกของกลุ่มแสดงงานครั้งนี้ก็เช่น ศาสตราจารย์ ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร นักการศึกษา ศิลปิน นักวิจารณ์ ผู้บุกเบิกและสร้างความเคลื่อนไหวในวงวิชาการศิลปะ ร่วมก่อตั้งคณะศิลปกรรมศาสตร์ และวางรากฐานศิลปศึกษาของประเทศมากมายหลายอย่าง
อาจารย์สมศักดิ์ คงรัตนสมบูรณ์ ผู้อำนวยการกองวิจัยและพัฒนา พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย แกนประสานงานและเป็นเลขานุการของกลุ่มนี้ ซึ่งอาจารย์สมศักดิ์นี้ เป็นผู้หนึ่งที่ร่วมบุกเบิกคิดค้นการทำหุ่นไฟเบอร์กลาสแทนหุ่นขี้ผึ้ง และจัดพิพิธภัณฑ์ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ของสังคม มีชื่อเสียงไปทั่วโลก*
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทวีเกียรติ ไชยยงยศ แห่งคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร นักการศึกษาและนักวิชาการศิลปะแถวหน้าของประเทศ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิวัฒน์ กุลจันทร์ ผู้สืบทอดแผนกวิชาการถ่ายภาพของเพาะช่างต่อจาก ศาสตราจารย์พูน เกษจำรัส และเป็นนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยคนที่ผ่านมา
แล้วก็อีกหลายท่าน ซึ่งกระจายออกไปมีบทบาททั่วประเทศ อีกทั้งเป็นกลุ่มที่รวมทุกสาขาของเพาะช่างและเป็นคนต้นฉบับของหลายเรื่องในประเทศไทย ทั้งในเรื่องการพัฒนาทางศิลปศึกษาของประเทศ วงการสื่อศิลปะและโฆษณา หนังสือแและตำรา การ์ตูนและแอนนิเมชั่น การทำภาพยนต์
ผมบังเอิญได้รับเชิญจากรุ่นพี่ท่านหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มรุ่นพี่กลุ่มนี้ และเป็นอดีตนักวิชาการโสตทัศนศึกษาของกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งเป็นรุ่นพี่ของผมที่โรงเรียนเวชนิทัศน์ ของมหาวิทยาลัยมหิดล คือ อาจารย์สมปอง หมั่นดี ให้ไปเป็นวิทยากร อบรมเครือข่ายคนทำสื่อเผยแพร่องค์ความรู้ทางด้านการแพทย์ให้แก่สังคม ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คุยกันไปมาก็เลยถามไถ่ไร่เรียงรุ่นกัน กระทั่งเลยไปถึงเรื่องการแสดงงาน
พี่เขาเห็นผมทำงานศิลปะและแสดงงานกันไปด้วย ก็เลยเล่าถึงกลุ่มรุ่นพี่รุ่นใหญ่ของพี่เขากันบ้าง ทำให้ผมสนใจในความที่รุ่นนี้เป็นคนต้นเรื่องหลายเรื่องของสังคมไทย เลยก็ออกปากว่า หากมีการพบปะและทำอะไรกันแล้ว ขอให้หนีบผมไปด้วยสักคนหนึ่ง ให้ผมไปชงเหล้า เป็นเลขาการประชุม หรือขับรถให้ก็ได้ทั้งนั้น ผมจะขอเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพวกพี่ๆไว้ ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้เพียงไหนแต่ขอทำสิ่งที่ใกล้มือไว้ก่อน
ทางหนึ่งก็ถือว่าเป็นรุ่นพี่เก่าแก่ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ คนในกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเชื่อมต่อระหว่างคนรุ่นเก่ายุค ศาสตราจารย์เฉลิม นาคีรักษ์ ของโรงเรียนเพาะช่าง สถาบันการศึกษาทางศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ และกลุ่มลูกศิษย์รุ่นบุกเบิกของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี แห่ง มหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันการศึกษาศิลปะสมัยใหม่ของประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ใกล้ชิดกับพัฒนาการต่างๆทางศิลปะที่สำคัญที่สุดกลุ่มหนึ่งของสังคมไทย
มีหลายอย่างที่ผมคิดว่าอยากมีประสบการณ์ตรงกับพวกพี่ๆ เพื่อที่จะนำไปมองผลงานอีกหลายอย่างของเครือข่ายคนทำงานศิลปะร่วมสมัยในรุ่นพวกพี่ๆรุ่นอาวุโส แล้วก็ถ่ายทอดไว้ให้สังคมเท่าที่ตนเองจะมีโอกาสทำ
แน่นอน ผมต้องผสมผสานและเชื่อมโยงกับหน้าที่การงานที่ผมทำไปด้วยได้แน่ๆ เพราะผมถือเป็นหน้าที่(ของชีวิต)อย่างหนึ่งที่จะต้องช่วยทำงานความรู้และวางพื้นฐานวิธีคิด รวมทั้งทำหน้าที่สื่อสารเรียนรู้ ในแนวที่จะสร้างพลังทวีคูณและก่อเกิดการถักทอกันหลากหลายของชุมชนและวงวิชาการคนละสาขา ที่อยู่บนเส้นทางชีวิตและการงานของผม ซึ่งจะช่วยเสริมพลังของสังคม และชีวิตส่วนรวมของสังคม ให้เข้มแข็ง
พี่เขาก็เลยบอกให้ทราบว่า ทางกลุ่มของพี่ๆ กำลังจะแสดงงานกันที่สวนสัตว์เขาดินวนา แต่แทนที่จะชวนไปสังเกตการณ์อย่างที่ปวารณาตัวไว้ พี่เขาก็กลับชวนไปแสดงงานด้วยเสียเลย ก็ไปสิครับ
การทำอย่างนี้ต้องถือว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ร่วม แม้จะเป็นเพียงบางส่วนก็ยังนับว่าดีกว่าการเป็นผู้ดูเฉยๆ หากเป็นการวิจัยเขาก็ถือว่าพอจะมีจุดยืนร่วมกับผู้สร้างงานและผู้ชมได้ลึกซึ้งกว่าการใช้แนวคิดและความรู้ทางทฤษฎีมามองอย่างเดียว
เลยก็นำเอางานไปร่วมแสดงกับพี่เขาชิ้นหนึ่ง เป็นรูปควายที่บันทึกเป็นรูปเขียนจากการไปศึกษาเรียนรู้ชุมชนสาคลี อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่ดันเปลี่ยนกรอบให้ดูดีกว่าเดิมก่อนนำไปติดตั้ง แล้วก็จำไม่ได้ว่าเปลี่ยนกรอบ ถึงเวลาไปติดตั้งก็หาไม่เจอ เลยเอาอีกรูปไปแทนซึ่งก็เป็นรูปสีน้ำและพอจะเข้ากับบรรยากาศในการรำลึกถึงสวนสัตว์เขาดินวนาอยู่เหมือนกัน ถือเป็นเหตุแห่งความประทับใจแรกครับ
อย่างที่สอง ไปร่วมจัดกิจกรรมตอบแทนบุญคุณความเป็นครูและแหล่งเรียนรู้ให้กับสวนสัตว์ดุสิตเขาดินวนา สวนสัตว์เขาดินกับนักเรียนศิลปะทุกคนของโรงเรียนเพาะช่างนั้นมีความผูกพันกันอย่างแนบแน่น เพราะพอเริ่มฝึกฝนในทุกด้านอย่างได้ที่พอสมควรในสตูดิโอและห้องเรียนแล้ว ก่อนจะไปแตกฉานในการเขียนภาพกลางแจ้งจำพวกทิวทัศน์และสิ่งมีชีวิตต่างๆ ของโลกภายนอก ก็จะเริ่มก้าวเดินออกจากโรงเรียน มายังสวนสัตว์ดุสิตเขาดินวนา แล้วจึงจะนำไปสู่การเขียนภาพนอกสถานที่อื่นๆ อีกต่อไป
ทุกรุ่นจึงผูกพันกับสวนสัตว์ดุสิต ประหนึ่งเป็นห้องปฏิบัติการศิลปะกลางแจ้งและเป็นแหล่งเรียนรู้การเขียนภาพสัตว์ ทั้งในเชิงการศึกษากายวิภาคและการศึกษาโครงร่างความเคลื่อนไหวของสัตว์นานาชนิด เป็นแหล่งเรียนรู้ภาคสนามของนักศึกษาศิลปะจากเพาะช่างมาอย่างยาวนาน
งานศิลปวิจิตรเกี่ยวกับภาพสัตว์ สื่อศิลปะ รวมไปจนถึงการ์ตูน ที่มีอิทธิพลต่อเด็กไทยและคนไทยหลายยุคหลายสมัย ทั้งต่อการเรียนเขียนอ่าน การจินตนาการ มีจำนวนไม่น้อยที่จิตรกรผู้วาด เกิดการเรียนรู้และหาความบันดาลใจไปจากสวนสัตว์ดุสิตเขาดินวนานี่เอง
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้อำนวยการคนที่ผ่านมาของสวนสัตว์ดุสิต เขาดินวนา ก็เป็นศิษย์เก่าของเพาะช่างและอยู่ในกลุ่มจิตกรกลุ่มนี้อีก จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่จะได้รำลึกถึงและร่วมกันขอบคุณสวนสัตว์ที่อยู่เบื้องหลังการเรียนรู้ของชาวเพาะช่างหลายรุ่นและสร้างคนทำงานทางศิลปะของประเทศมายาวนานพอๆ กับพัฒนาการที่ดำเนินมาอย่างสืบเนื่อง 71 ปี
สูจิบัตรนิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยศิษย์เก่าเพาะช่าง "เขาดินรำลึก" ครั้งที่ 2 โดยชมรมศิษย์เก่าเพาะช่าง 2508-2510 ณ ศูนย์อาหารสวนสัตว์ดุสิต เขาดินวนา ประธานพิธีเปิดงาน เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2552 โดย ดร.โสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการสวนสัตว์ดุสิต เขาดินวนา คนปัจจุบัน
ภาพเขียนสีน้ำ วัด ของ ศาสตราจารย์เฉลิม นาคีรักษ์ ครูเก่าแก่ของโรงเรียนเพาะช่าง
ลอกเลียนแบบลายตู้พระธรรมวัดเชิงหวาย : เทคนิคเลียนแบบลานรดน้ำ โดย สมศักดิ์ คงรัตนสมบูรณ์
รัสเซีย : เทคนิคสีน้ำมันบนผ้าใบ โดย ศาสตราจารย์ ดร.วิรุฬ ตั้งเจริญ
นกกาบบัว : เทคนิคสีน้ำบนกระดาษ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทวีเกียรติ ไชยยงยศ
พระพุทธรูปบนทราย : เทคนิคสีน้ำมันบนทราย โดย เจริญ พัฒน์ทอง
เชียงตุง : เทคนิคสีน้ำบนกระดาษ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิวัฒน์ กุลจันทร์
ครอบครัวช้าง : เทคนิคสีน้ำบนกระดาษ โดย ประณต ชื่นปรีดี
Black or White : เทคนิคสีอะครายลิคบนแคนวาส โดย อัศวิน อรุณแสง
กุหลาบแดง : เทคนิคสีน้ำบนกระดาษสา โดย นิยม กันตะโอภาส
เขาดิน : เทคนิคสีน้ำบนกระดาษ โดย สมบัติ จำนงนรินทร์รักษ์
อย่างที่สาม ได้ร่วมทำหน้าที่สืบสานบทบาทอย่างคนรุ่นก่อนที่ได้เคยทำให้เราในวัยเด็ก ผู้คนในวัยเด็กของสังคมไทย โดยเฉพาะคนต่างจังหวัดบ้านนอกคอกนา ย่อมมีสวนสัตว์เขาดินวนาในความคิดคำนึงเหมือนดินแดนแห่งเทพนิยาย ที่มีพี่สิงโต พี่กระต่าย พี่ช้าง เก้ง กวาง พี่เสือ พี่นกยูง พี่ยีราฟ ฮิปโป ลิง ค่าง และสารพัดสัตว์ ซึ่งคิดและคุยกับมนุษย์ โดยเฉพาะกับเด็กๆ ได้รู้เรื่อง
ความเป็นสวนสัตว์เขาดินวนาในด้านหนึ่งที่เด็กได้รับ จึงเป็นสิ่งที่คนรุ่นที่มาก่อนของสังคม ช่วยทำและดูแลการมีกิจกรรมปฏิสัมพันธ์กับสังคม สร้างโลกแห่งการเรียนรู้ให้แก่เด็ก อีกทั้งสร้างเสริมสุขภาวะให้แก่ผู้คน ครอบครัว และกลุ่มก้อน
เป็นแหล่งทำให้สาธารณะมีความสุข หรือ สุขภาวะสาธารณะ (Healthy Public) ทำให้เกิดความผูกพันกันยาวนาน และได้ความสุขเป็นพลังชีวิต กลับออกไปทำการงานและดำเนินชีวิต ร่วมกันสร้างสรรค์ความสงบสุขให้แก่สังคมอย่างพอควรแก่อัตภาพ
แล้ววันหนึ่ง ตนเองก็ได้ไปร่วมแสดงงาน เพิ่มสีสันและบรรยากาศให้กับสวนสัตว์และเขาดินวนา เพื่อให้เด็กๆ ครอบครัว และผู้คนทั้งจากในเมือง เมืองหลวง และชนบท ได้มาเที่ยว มาพักผ่อน ได้อยู่ในบรรยากาศผ่อนคลายหลากหลาย และได้ดูงานศิลปะที่เดินเข้าหาประชาชนพลเมือง กลมกลืนกับบรรยากาศความเป็นสวนสัตว์ดุสิตของประชาชน
นับว่าได้ก่อเกิดโครงสร้างความความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปเป็นอีกด้านหนึ่ง จากอดีตที่เคยเป็นผู้ได้รับ หรือเป็นผู้รับ ผู้บริโภค ที่คนอื่นเขามีน้ำใจช่วยกันทำสิ่งดีๆให้กับสังคมในยุคที่เราเป็นเด็ก
ทว่า เมื่อเติบโต (และแก่เฒ่า) แล้ว ก็กลับได้มาร่วมเป็นผู้ให้ ทำให้ผู้อื่นได้เดินเข้ามาชมและสัมผัสสิ่งดีๆจากเราบ้าง ซึ่งจะว่าไปแล้ว ในจำนวนคน 64 ล้านคนของประเทศ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่จะมีโอกาสได้ทำอย่างนี้
จึงเป็นอีกเหตุแห่งความประทับใจและภาคภูมิใจต่อการได้ร่วมแสดงงานศิลปะรำลึกเขาดิน 71 ปี ครั้งนี้
ของเล่นเด็กทำจากสังกะสี : โดย จรรยา บุณณาศักดิ์
ม.ม้าคึกคัก : เทคนิคสีแท่ง Pastel โดย ทิวาศรี ปิยะพันธ์
ริมน้ำ : เทคนิคสีน้ำบนกระดาษ โดย วีระ จันทรสมวงษ์
ดอกบัว : เทคนิคสีน้ำบนกระดาษ โดย สังฆะ ชุ่มธรรม
พระพุทธรูปปางประทานความสำเร็จ : เทคนิคหล่อปูนปลาสเตอร์ โดย บำรุงศักดิ์ กองสุข
งานแสดงไปแล้วเมื่อ 18-30 มีนาคม 2552 ที่ศูนย์อาหาร ของสวนสัตว์ดุสิตเขาดินวนา ผมตั้งใจว่าจะช่วยเผยแพร่ให้ผู้สนใจในเว็บศิษย์เก่าเพาะช่าง แต่ไม่รู้ว่าเว็บดังกล่าวได้ล่มหรือหายไปไหนเสียแล้ว เลยก็นำมาบันทึกไว้ให้คนที่สนใจที่นี่นะครับ
ขอให้มีความสุข ได้ความรื่นรมย์และความชุ่มชื่นใจจากการชมงานศิลปะรำลึกเขาดิน 71 ปี ที่นำมาแบ่งปันกันในครั้งนี้นะครับ.
...........................................................................................................................................................................
*พิพิธภัณฑ์ลู๊ฟ ของประเทศฝรั่งเศส ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิก มีชื่อเสียงเป็นผู้นำของโลกในการทำหุ่นขี้ผึ้งและจัดแสดงให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงประวัติศาสตร์ ทั้งประวัติศาสตร์บุคคลผู้มีชื่อเสียงสาขาต่างๆของโลก ประวัติศาสตร์สังคมโลก และงานที่สามารถทำให้จินตนาการสัมผัสได้ด้วยหุ่นขี้ผึ้ง แต่ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ขี้ผึ้งจะละลาย จึงใช้กรรมวิธีแบบพิพิธภัณฑ์ลู๊ฟไม่ได้ กลุ่มผู้บุกเบิกซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าของเพาะช่างและศิลปากร ได้พัฒนาเทคนิคการทำหุ่นเหมือนจริงด้วยไฟเปอร์กลาส ทำให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ก่อนที่การทำหุ่นไฟเบอร์กลาสจะแพร่หลายในเวลาต่อมา
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย (ตั้งอยู่ถนนพุทธมณฑลสาย 5 อำเภอนครชัยศรีเชื่อมต่อกับอำเภอพุมธณฑล จังหวัดนครปฐม) จัดว่าเป็นแหล่งการเรียนรู้ทางสังคมในหลายมิติ ที่มีชื่อเสียงมากคือ การทำให้เรื่องประวัติศาสตร์ วรรณคดี ความรู้ทางสังคม ซึ่งเป็นเรื่องไม่น่าสนใจ กลายเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากการเรียนรู้ที่คุ้นเคยของคนทั่วไป
จัดว่าเป็นงานบุกเบิกของกลุ่มศิลปิน ที่สะท้อนพลังสร้างสรรค์อย่างที่สุด ทั้งในการผสมผสานการศึกษาค้นคว้า จินตนาการ ความพิเศษทางศิลปะทุกแขนง ความสามารถในการจัดแสดง ความสามารถในการจัดการ และความเป็นผู้บุกเบิก ริเริ่ม รอคอย เพื่อก่อให้เกิดสิ่งที่ตนเองต้องการทำให้กับสังคม
มาชม
ภาพศิลป์ล้วนสวยงาม...
สวนสัตว์นี้ ผมเคยเข้าชมท้ายสุดประมาณปี พ.ศ. 2525 ครับ
เพิ่งได้ทราบจากทางผู้ประสานงานของกลุ่มและทางสวนสัตว์ดุสิต เขาดินวนาว่า จะขอให้ทางกลุ่มพี่ๆเขาขยายการแสดงงานงานศิลปะออกไปอีก เพราะคนกำลังเริ่มเข้ามาเที่ยวสวนสัตว์มากขึ้น ยิ่งในช่วงสงกรานต์ก็จะยิ่งเยอะ
เลยไม่ได้ปิดการแสดงตามกำหนดการเดิมคือเมื่อวานนี้ แต่จะแสดงไปจนถึงสิ้น เดือนเมษายน 2552 นี้เลยนะครับ
คอศิลปะ และท่านที่สนใจ ยังสามารถไปชมได้อีก ใครไม่ได้ไปเขาดินมานานแล้ว ก็แวะไปรำลึกความทรงจำอันสวยงามได้นะครับ ที่ศูนย์อาหาร ของสวนสัตว์ดุสิต เขาดินวนา ครับ
งานผมที่นำไปร่วมแสดง ดูในนี้ครับ http://www.oknation.net/blog/silpa
จัดหน้าและเกลาบันทึกนี้ให้ใหม่แล้วครับ เลยนำมาขึ้นให้อีกทีหนึ่ง เมื่อวานตัวหนังสือและรูปภาพกระจายไปหมดเลยดูทั้งไม่สวยและไม่รู้เรื่อง ตอนนี้จัดให้ใหม่หมดแล้ว คนที่ชอบงานศิลปะและเรื่องราวอย่างนี้ จะได้ดูให้ได้ความซาบซึ้งและได้ไอเดียดีๆสำหรับนำไปใช้ทำงานนะครับ
สวัสดีค่ะ อ.วิรัตน์
ทั้งอ่านและชมภาพแล้ว ก็น่าชื่นชมยินดีไปกับอาจารย์ด้วยที่ได้ร่วมแสดงงานครั้งนี้ จะว่าไปแล้วอาจารย์เป็นคนที่มีพลังสร้างสรรค์อะไรมากมายเลยนะคะ น่าทึ่งค่ะ
"Love the art in yourself, not yourself in the art." : Konstantin S. Starnislarski
นำคำคมมาฝากค่ะ อ่านพบจากจุลสาร "BackStage" ฉบับ 1 เป็นจุลสารสร้างเสริมสุขภาวะด้วยศิลปะการละครค่ะ คิดว่าคนรักงานศิลปะทั้งหลายน่าจะชอบ มันลึกซึ้งจริง ๆ ..^__^..
สวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้าเช่นกันค่ะ..
"สู้เวลามาแต่กี้มีแต่ก่อน ไม้ทุกท่อนกร่อนคร่ำกรำแดดฝน
โค้งสะพานผ่านคลองสองตำบล เชื่อมสัมพันธ์ชุมชน-คน-สะพาน
แต่ยังเล็กเด็กน้อยค่อยเกาะก้าว ตราบหนุ่มสาวเท้าทางก็ย่างผ่าน
ยามชราเรื่องราวยังยาวนาน อยู่คู่เหย้าคู่ย่าน..สะพานเดิม
คนยังแก่แม้สะพานถึงกาลเก่า ควรที่เราร่วมมือรื้อซ่อมเสริม
ทุน-เวลา-ปัญญา-แรง ต่อแต่งเติม ทีละน้อยค่อยเพิ่มค่อยเริ่มลอง
เพื่อสะพานเคยผุพังยั้งยืนหยัด เป็นประวัติหน้าใหม่ให้เราผอง
เชิญเถิดพร้อมซ่อมสะพานสานฝันปอง เชื่อมฟากคลองสองฝั่ง..ทั้งเชื่อมใจ"
ส่งความสุขวันปีใหม่ไทยโบราณค่ะ
ภาพนี้เป็นภาพแห่งความสุขของน้องสาวค่ะพี่ชาย
ในชนบทที่แสนจะมีความหมายมากๆค่ะ
http://www.oknation.net/blog/moy
http://www.oknation.net/blog/silpa
พี่วิรัตน์
สวัสดีค่ะ...หนูอยากจะทราบคุณณรงค์ ผ่องอำไพ และคุณศิริวัฒน์ ท้าวประยูร...ยังมีชีวิตอยู่หรือป่าวค๊ะ..พอดีว่า 2 ท่านนี้ เคยเป็นคณะทีมงานด้านฉากภาพยนตร์ของคุณเชิด ทรงศรี สมัยถ่ายทำภาพยนต์เรื่อง แผลเก่า น่ะค่ะ..ซึ่งในตอนนั้นทั้งสองท่านเพิ่งจบจากเพาะช่างค่ะ..โดยภาพยนตร์เรื่องแผลเก่านี้ได้มาปักหลักถ่ายทำที่ ต.โพหัก จ.ราชบุรี เกือบตลอดทั้งเรื่อง เมื่อปี 2521- 2522 แล้วอ่ะค่ะ..หนูยังไม่เกิดเลยค่ะ...แต่คุณพ่อซึ่งเป็นคนในตำบล และอยู่ในวัยหนุ่ม ณ ขณะนั้น ทำให้ได้รับการว่าจ้างให้ช่วยเป็นทีมงานสร้างฉากภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย...แต่พอการถ่ายทำเสร็จสิ้นก็ไม่ได้เจอะเจอกันอีก..และในสมัยก่อนการติดต่อสื่อสาร และการคมนาคมก็ไม่ได้สะดวก รวดเร็วเหมือนตอนนี้ ทำให้ขาดการติดต่อกันไป โดยที่หลังจากนั้นอีก 3 -4 ปีหลังจากการถ่ายทำเรื่องแผลเก่าเสร็จสิ้น คุณศิริวัฒน์ ท้าวประยูร ยังกลับมาพบคุณพ่อที่ ต.โพหัก อีกคร้ง โดยจะมาหา Location สำหรับภาพยนตร์เรื่องอื่นจากนั้นท่านก็กลับไป และก็ไม่ได้กลับพบกันอีกเลย..ความทรงจำเก่า ๆ ทำให้คุณพ่ออยากพบทั้งสองท่านมาก เพราะระยะเวลาในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแผลเก่า ยาวนานพอสมควร ทำให้มีหลายเรื่องราวที่เป็นที่น่าจดจำของท่าน และยังคงพูดถึงให้ลูก ๆ ฟังอยู่เสมอ...ลูก ๆ เองพอได้ฟังบางครั้งก็อินไปกับท่านจริงๆ ค่ะ..จึงอยากทำให้คุณพ่อสมหวัง ที่จะได้พบมิตรเก่าอีกซักครั้งหนึ่งค่ะ...
หากท่านใดพ่อทราบ ขอโปรดตอบกลับด้วยนะคะ
ขอขอบพระคุณมากนะคะ
ขอบพระคุณอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ...
สุธิชา เพิกจินดา
VGI Global Media Co., Ltd.
Office 0-2273-8884 ext: 167
Fax 0-2273-8883
Email: [email protected]
ขอบคุณมากค่ะ...
พอดีว่าเพิ่งหายป่วยน่ะค่ะ..พอดีป่วยเป็นไข้หวัด (ธรรมดานะคะ).เลยไม่ได้เข้ามาอ่านเลยค่ะ..
ข้อมูลข้างต้นเป็นประโยชน์มากค่ะ...ถ้ายังไงจะพยายามสืบหา และคลำทางดูจากข้อมูลที่ให้มาค่ะ...
หากมีอะไรเพิ่มเติมจะเรียนกลับมาอีกทีนะคะ...
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
สุธิชา เพิกจินดา
ครูม่อยชื่อจริง...วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ..งิๆมิน่าถึงบอกว่าอาจใกล้ๆกันเน๊าะยินดีที่ได้รู้จักค่ะ...
ขอคารวะ ศาสตราจารย์ ดร.วิรุฬ ตั้งเจริญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
http://gotoknow.org/blog/sto/291054
ครูม่อยเห็นด้วยไหมคะ..
ชอบมากเลย..ขอบคุณค่ะครูม่อย..อ้อยยิ้มใหญ่เลยหุบไม่ลงเลยค่ะเห็นจินตนาการของคุณครู..ยิ้มหน้าบานแบบสุดๆเลยค่ะ
เปรียบเทียบได้แบบความคิดเห็นต่อยอดกันเลยค่ะครูม่อย..เมื่อความเจริญมาถึงแต่บุคคลยังมีพื้นฐานทางจิตใจที่ดีมาจากประสบการณ์ของตนเองตามสภาพแวดล้อมที่ดีบ้างไม่ดีบ้างจากเล่ม2-3และ4 กลั่นกรองคิดวิเคราะห์เห็นความเป็นจริงของสังคม เห็นความเป็นจริงของการอยู่ร่วมกัน เห็นความเป็นจริงของชีวิตอันเป็นสัจจะธรรม..การพบกันในที่นี้ของความเป็นเพื่อนใหม่..จึงเรียกว่าเป็นมิตรภาพระดับเสมือนก็เป็นได้ค่ะ แต่สำหรับเกลอเก่าอย่างท่านกู้มันเป็นประสบการณ์ตรงที่ไม่มีภาพเสมือนใดๆมาเทียบได้จึงแตกต่างกว่าดังว่าค่ะ...เพราะเรามีความจริงเป็นฐานข้อมูลที่เหนี่ยวแน่น..ไวรัสจึงเจาะทำลายฐานข้อมูลได้ยากค่ะ..เพราะเรามีโปรแกรมกาลเวลาเป็นตัวสแกนไวรัสให้ค่ะ...อิๆๆๆ
เขาดินนี่แหล่งวาดรูปเก่าของหนูเองค่ะ ใช้บริการบ่อย ไปวาดภาพสัตว์และบรรยากาศตอนสมัยเรียน อ.ทวีเกียรตินี่ก็อาจารย์หนูเองค่ะ เคยเรียนวิชาวาดเส้นด้วยสองปี ส่วนน้องชายก็จบจากเพาะช่างเหมือนกัน แต่รุ่นห่างกับอาจารย์เยอะค่ะ รุ่นปี 41 เวลาเจอคนเรียนศิลปะบนเว็บนี่จะดีใจมาก เหมือนเจอญาติ
ถ่ายเมื่อไหร่คะนี่ ช็อคเพราะหน้าตาอ.ทวีเกียรติไม่เปลี่ยนไปเลย สต๊าฟไว้เหมือนเมื่อสิบสี่ปีที่แล้ว เหมือนเดิมเป๊ะ แต่อาจารย์คงจำลูกศิษย์ไม่ได้แล้วเพราะเยอะ และหนูนิสัยไม่ค่อยดีตอนเรียน ไม่เชื่อฟัง และเถียงแบบสม่ำเสมอตอลดสี่ปี ท่านอาจจะยิ่งอยากจะลืมเป็นพิเศษก็ได้ 555 ตอนนี้สำนึกผิดแล้วที่เถียงครูบาอาจารย์ แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะเถียงอยู่ดี (แต่จะเปลี่ยนคำให้สวยขึ้นเป็นคำว่าแลกเปลี่ยนเรียนรู้) เพราะแนวความคิดไม่ตรงกัน ; P
พอไปอ่านประวัติอาจารย์แล้วทึ่ง อยากให้มีโอกาสรู้จักกับอ.พิชัย เพราะเห็นว่าอาจารย์มีบ้านอยู่เชียงใหม่และสนใจธรรมะกับศิลปะ คือเจอคอเดียวกันเลย อ.พิชัยจบภาพพิมพ์ศิลปากร ตอนนี้เป็นคณบดีมนุษย์ศาสตร์อยู่มรภ.เชียงใหม่ สิ้นกันยานี้ก็คงเกษียณแล้ว
ท่านกู้เกียรติท่านก็มาร่วมโหวตให้ด้วยนะคะ..เพาะช่างภูมิใจในคุณภาพของรุ่นพี่ค่ะ..
ขอบคุณทั้งสองสหายผู้น้องครับ
มาเรียนรู้ มุมมอง มุมคิดของท่านค่ะ
ขอบคุณค่ะ
กลัวหายค่ะ..เลยเอามารวมกันไว้ก่อนค่ะ..
ปี ๒๕๕๖ เป็น ๑๐๐ ปี หรือ ๑ ศตวรรษของโรงเรียนเพาะช่าง โรงเรียนศิลปะ ๔ แผ่นดินของสยามประเทศ
ท่านอาจารย์รุ่นน้องไม่สบายค่ะ...
ขอบคุณครับคุณครูอ้อยเล็ก ได้แวะไปเยี่ยมมาแล้วครับ ดีครับ การมีน้ำใจให้กันนี่เป็นยาวิเศษที่สุดสำหรับทุกคนครับ
เมื่อวานได้รับ สคส ๒๕๕๓ จากแกนประสานงานหลักของพี่ๆกลุ่มดอกยี่โถ คือ อาจารย์สมศักดิ์ คงรัตนสมบูรณ์ ด้วยความประทับใจ ทั้งเนื่องจากมีความศรัทธาและนับถือพี่สมศักดื์เป็นทุนเดิมอยู่เป็นส่วนตัว และรูปใน สคส ซึ่งเป็นพระรูปไฟเบอร์กลาส สมเด็จพระพี่นางฯ ทรงประทับนั่งพับเพรียบอยู่บนพื้นเบื้องพระพักตร์สมเด็จพระบรมราชชนนีฯ ซึ่งทั้งสวยงามและมีความน่าอัศจรรย์ในแง่ศิลปะที่พี่สมศักิด์และทีมของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยเชี่ยวชาญ และความเป็น สคส ที่ให้ความเป็นสิริมงคลที่ได้รับและได้เห็น
เลยก็เพิ่งนึกขึ้นได้อีกรอบว่าผมลืมไปเอารูปที่ร่วมแสดงกับพี่ๆเขาที่สวนสัตว์ดุสิตเขาดินวนากลับมาหลังจากแสดงงานเนื่องใน ๗๐ ปีของสวนสัตว์ฯแล้ว สงสัยจะดีใจมากไปหน่อยที่ได้ร่วมแสดงงานกับกลุ่มพี่ๆนะครับ
เลยขอถือโอกาสมอบ สคส สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ ทั้งกับพี่สมศักดิ์และพี่ๆกลุ่มดอกยี่โถเลยนะครับ ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย พระบารมีปกเกล้าฯ พระบารมีพระสยามเทวาธิราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลที่ทุกท่านเคารพนับถือ รวมทั้งคุณูปการมากมายที่ทุกท่านได้ทำให้แก่สังคม จงร่วมเป็นพละ ปฏิภาณ วรรณะ สุขะ เกื้อหนุนให้พี่สมศักดิ์และพี่ๆกลุ่มดอกยี่โถทุกท่านให้มีความสุขสดชื่นสมหวัง จงทุกประการในปี ๒๕๕๓ และตลอดไปด้วย เทอญฯ
รูปวาดทั้งชุดนี้ เป็นงานที่ทำขึ้นหลังจากการแสดงงานกับกลุ่มดอกยี่โถที่เขาดินและที่หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผลพวงจากเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเดินบวกความสร้างสรรค์ให้กันในเวทีคนหนองบัว และตอนนี้กำลังจัดเป็นนิทรรศการอยู่ที่ร้านหนังสือเบิกม่าน หน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม แสดงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๒ จนถึงกลางเดือนมกราคม ๒๕๕๓ ครับ อาจารย์ณัฐพัชร์ได้กรุณารวบรวมทำเป็นการ์ดเหมือนกับปฏิทินตามการเสนอความคิดของท่านพระอาจารย์มหาแล ซึ่งเป็นท่านหนึ่งที่ร่วมเสวนาและเป็นที่มาของการวาดรูปชุดดังกล่าวนี้ด้วย ส่วนรูปถ่ายนั้น เป็นรูปดอกบานบุรี ฟอร์มมันเหมือนดอกยี่โถ เป็นดอกไม้ที่บ้านผมที่อำเภอสันป่าตอง เชียงใหม่ครับ ดูแล้วสดชื่นและเห็นพลังความงอกงามดี
ขอส่งความสุขมายังทุกท่านด้วยจิตคาระวะครับ จากทีมวิจัยสร้างสุขภาวะชุมชน สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน | คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล | ชมรมชีวเกษมและเครือข่ายชุมชน : ปรีชา ก้อนทอง | ศราวุธ ปรีชาเดช | สนั่น ไชยเสน | เริงวิชญ์ นิลโคตร | กานต์ จันทวงษ์ | อาจารย์ณัฐพัชร์ ทองคำ | ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์
ภาพนี้ น่าจะทำยาก เพราะเนื้อกระดาษไม่เรียบสม่ำเสมอ
แต่งดงามค่ะ
ขอบคุณมาก สำหรับความรู้เรื่องการรองพื้น แต่ต้องดูที่วัสดุที่เราใช้อีกทีใช่ไหมค่ะ
แต่งานนี้ถ้าเป็นสีน้ำกับกระดาษสา ถึงว่าหินมากๆเลยค่ะ
แล้วถ้าเป็นกระดาษสากับสีฝุุุ่่นล่ะค่ะ
ขอบคุณคุณครูเอที่มาเยือนและนำเรื่องราวต่างๆมาสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันนะครับ
ต้องรบกวนเข้ามาขอคำแนะนำบ่อยๆนะค่ะ ครูเอไปสมัครบล๊อกศิลปะของ อาจารย์แล้วนะคะ่
อาจารย์สมศักดิ์ คงรัตนสมบูรณ์ จากสถาบันหุ่นขี้ผึ้งไทย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม รุ่นพี่อาวุโสของผมจากเพาะช่าง และเป็นสมาชิกของชมรมศิษย์เก่าเพาะช่าง รุ่น ๐๘-๑๐ หรือกลุ่มดอกยี่โถ ได้กรุณาส่งการ์ดบอกกล่าวและชวนเชิญไปร่วมกิจกรรมการแสดงงาน ผมจึงขอช่วยเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ บอกกล่าวต่อๆกันไปทั้งสำหรับชาวเพาะช่างและผู้สนใจศิลปะทั่วไปนะครับ...
องค์พระวิษณุกรรม องค์ซ้าย หน้าโรงเรียนเพาะช่าง
ขอบคุณภาพจาก google
ชมรมศิษย์เก่าเพาะช่าง รุ่น ๐๘-๑๐
ขอเชิญร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน
นิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัยศิษย์เก่าเพาะช่าง ครั้งที่ ๕
ณ หอศิลป์เพาะช่าง ถนนตรีเพชร กทม.
วันอาทิตย์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๔.๐๐ น.
พี่อาจารย์...ไม่มีใครทราบสาเหตุของเว็บเลยค่ะ..อาจหมดสัญญาเช่า..หรือเซิร์ฟเวอร์ล่มก็เป็นได้ค่ะ...
เสียดายจังเลยนะครับ มีรูปถ่ายและเรื่องราวหลายอย่าง ที่ตั้งใจถ่ายทอดไว้ให้รุ่นน้องๆและคนรุ่นหลังๆ งานของคนอื่นๆก็เป็นงานแบบ Master piece เลย มีมืออาร์ตจากเอเจนซี่ ที่เป็นมืออาชีพในวงการหลายคนมาเขียนเกี่ยวกับการทำงานความคิดที่อยู่เบื้องหลังงานดีๆหลายชิ้น รวมทั้งมีเรื่องราวของคนเพาะช่างเป็นจำนวนมากที่ไม่มีถ่ายทอดและบันทึกไว้ที่ใด
วันนี้ ๗ มกราคม เป็นวันเกิดเพาะช่าง
ขอน้อมบูชาพระวิษณุกรรม เทพและครูแห่งช่าง
ขอน้อมคารวะบูชาดวงวิญญาณศาสตราจารย์ประกิต(จิตร) บัวบุศก์
กราบคารวะครูเพาะช่างทุกท่าน
ขอน้อมรำลึกพี่ๆเพื่อนๆและน้องๆชาวศิลปหัตถกรรมราชบุรี
และคนทำงานศิลปะทุกคน
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ
สวยงามมากค่ะ..... ดูแล้วอยากวาดภาพเป็นจังเลย....มหัศจรรย์จริงๆ........เลย
สวัสดีครับคุณนภาพรครับ
ดีใจครับที่แวะเข้ามาชมแล้วก็ได้ความสุข ได้ความคิดอยากลองทำสิ่งดีๆให้ตัวเอง เมื่อก่อนเวลาอยากดูรูปเขียน ต้องตระเวนหาดูตามแกลลอรี่ ห้องสมุด และขออาศัยไปดูตามบ้านครูอาจารย์ทางศิลปะ หาแหล่งสาธารณะที่จะดูได้ง่ายๆและหลากหลายไม่ค่อยได้เลย เรื่องราวในบันทึกทางศิลปะและชวนคิดชวนคุยทางศิลปะที่ผมทำขึ้น ก็มีที่มาด้วยเหตุผลอย่างนี้ด้วยเหมือนกันครับ อยากให้คนที่เหมือนอย่างที่ตนเองเคยเป็น ได้คงมีความสุขที่จะได้เปิดกว้างไปกับการได้ดูงานและอ่านเรื่องราวทางศิลปะ แต่มีคนช่วยกันสร้างสมไว้ให้หลากหลายมากกว่ายุคของก่อน คนรุ่นหลังๆต้องได้มีโอกาสดีกว่าเรา
๑๖ มกราคม วันครู ๒๕๕๕
และเดือนวันเกิดเพาะช่าง ครอบครอบ ๙๙ ปีเพาะช่าง
ขอน้อมสักการะพระวิษณุกรรมเทพแห่งครูช่าง
และขอน้อมรำลึกถึงพระคุณครูศิลปะทุกท่าน
ผมเพิ่งมีโอกาสได้เปิดเจอและพบว่าคุณสุธิชา เพิกจินดาได้ถามหาพื่อให้พบคุณพ่อ เนื่องจต่อได้หรือไม่ากได้มีโอกาสไปทำฉากภาพยนณ์ของคุณเชิด ทรงศรี ดีใจมากครับที่ยังมีคนคิดถึงเพราะนานมากแล้ว ปัจจุบันภาพยนตร์ท้ายสุดที่ทำ คือ พระนเรศวรมหาราช ของท่านมุ้ย เดี๋ยวผมจะลองติดต่อกลับไปที่คุณสุธิชาไม่รู้ว่าจะติดต่อได้หรือไม่ โอกาสนี้ต้องขอขอบคุณวิรัตน์ เป็นอย่างมากที่ทำให้มีสิ่งดีๆได้คุยกันคนเพาะช่างของเรา ผมดีใจจริงๆ คิดว่าวันเกิดเพาะช่างปีนี้คงมีโอกาสได้ไป ขอบคุณครับ เบอร์ติดต่อ 0898035448,0898216190,021720025
สวัสดีค่ะ คุณอาศิริวัฒน์ ท้าวประยูร
หนูเป็นน้องสาวของคุณสุธิชา เพิกจินดา ที่ได้เขียนโพสต์ข้อความไว้ด้านบน ตามหาคุณอาเมื่อ 4 ปีก่อนนู้น
พอดีว่าวันนี้เมื่อก่อนเที่ยง หนูอยู่บ้านกับพ่อ พ่อำด้เล่าให้หนูฟังว่าพ่อได้คุยกับคุณอาแล้ว พ่อบอกว่าคุยกันนานมาก
เหมือนความรู้สึก และบรรยากาศเก่าๆ ของเค้ากลับมาอีกครั้ง พ่อบอกว่าน้ำเสียงและการพูดคุยของคุณอายังเหมือนเดิมทุกอย่าง
ยังเป็นน้ำเสียงที่จริงใจ ใจเย็น และเป็นกันเองเหมือนเดิม
หนูขอบคุรคุณอามากนะคะ ที่ช่วยส่งเสียงตอบกลับมาให้วันนี้เป็นวันที่พ่อหนูมีความสุขวันหนึ่ง จากหน้าตาที่เคยดูป่วยๆ
วันนี้พ่อหน้ายิ้มขึ้นมาเลยค่ะ ทำหน้าเหมือนมีความหวัง ว่าในเร็ววันนี้เค้าต้องได้พบกับคุรอาแน่ๆ
พ่อบอกหนูว่า ยังคุยกับอาไม่ทันจบดี ยังอยากจะบอกคุณอาอีกว่า หากคุณอาว่าง หรือมีโอกาสผ่านมาทาง จ.ราชบุรี
และหากไม่เป็นการรบกวนคุรอาจนเกินไป อยากให้คุณอาแวะมาเยี่ยมที่บ้านบ้าง พอดีตอนนี้พ่อทำอาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกราม (กุ้งแม่น้ำ)
ก็เลยอยากให้คุรอาแวะมากินกุ้ง มาทานข้าวที่บ้านน่ะคะ ...ที่บ้านโพหักนี้ ยินดีต้อนรับคุณอา และครอบครัวเสมอนะคะ
....หากคุณอามี facebook หนูอยากรบกวนคุณอาให้ช่วยทิ้ง id facebook ไว้หน่อยนะคะ
พ่อเค้าอยากเห็นคุณอาน่ะค่ะว่าเป็นอย่างไรบ้าง ....หนูไม่รบกวนคุรอาแล้วค่ะ สวัสดีค่ะ
facebook หนู sirima phoekchinda
facebook พี่สาวหนู (คุณสุธิชา) jeab phoekchinda
ขอบคุณครับหลานสิริมา บอกคุณพ่อด้วยว่าอาจะไปเยี่ยมและจะพาครอบครัวไปด้วยแน่นอน รอโอกาสอีกหน่อย เฟสของอาไม่มีแต่ติดต่อดูอาได้ที่เฟสข้างบนนี้ เป็นของแฟนอาเอง จะมีรูปลูกชายลูกสาว เว้นคุณภรรยาไม่ยอมเผยโฉม ลองเปิดให้คุณพ่อดูนะ