Scene :
พื้นที่ความเป็นอิสรภาพของหัวใจและอาณาจักรความยิ่งใหญ่ของชีวิตในชนบทแห่งหนึ่งที่เหมือนกับอีกหลายแห่งของประเทศ
Actors : การงานและธรรมะจัดสรรให้เราต่างได้มาเจอกัน
ชาวบ้าน อสม. ผู้นำชุมชน
เครือข่ายประสานงานและเครือข่ายวิจัยของโครงการวิจัยโครงการหนึ่งที่ผู้เขียนได้เป็นผู้ร่วมทำวิจัยด้วย[๑]
Location : หมู่บ้านสหกรณ์ ตำบลป่าตุ้ม [๒] และตำบลเขื่อนผาก อำเภอพร้าว
จังหวัดเชียงใหม่
Prop and Custumes : ตามที่เห็น ที่มี
ที่เป็นอยู่ ของชาวบ้าน
Technique : กล้องดิจิตัลราคาถูก
หากเสียก็พร้อมโยนทิ้งเพื่อซื้ออย่างดีและถูกกว่าเดิมเข้าไปอีก
แสงธรรมชาติ
Studio Works, CGA and Post-Production : ทำงาน
Post-Production บน Photo-Shop ใช้หลายฟังชั่นเพื่อทำ Croping
จัดวางองค์ประกอบ ลดคอนทราสต์ ลด High-Ligth เล็กน้อย เป็นบางส่วน
คงรายละเอียดและสภาพเดิม ย่อภาพที่ความกว้าง ๕๐๐
Date/Times : ๒ วัน
ฤดูฝนและกาลแห่งการทำนาทำสวน พฤหัสบดีที่ ๙ - ศุกร์ที่ ๑๐ กันยายน
๒๕๕๓
Artist, Dialogues and Narration
: วิรัตน์ คำศรีจันทร์
SFX : ความเป็นธรรมชาติ สว่างไสว มีชีวิตชีวา
เต็มไปด้วยพลังชีวิต เบิกบานแจ่มใส รื่นรมย์ กว้างใหญ่
กลมกลืนเป็นพื้นหลัง
Acknowledgement :
ขอบคุณข่ายประสานงานสุขภาพภาคประชาชน[๓]
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ อบต. อสม. อดีตกำนัน พ่อหลวง
กลุ่มแม่บ้าน หมออนามัย หมู่บ้านสหกรณ์ ตำบลป่าตุ้มและตำบลเขื่อนผาก
อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
๑ โลกและชีวิต ที่ดีงามและงดงามด้วยรัก
รูปเขียนสีน้ำมันเล็กๆที่มุมหนึ่งของบ้านหลังเล็ก ทำด้วยปีกไม้และเครื่องไม้ไผ่ ซ่อนตัวอยู่ในแมกไม้ ต้นลำใย เรื่องราวเป็นทิวทัศน์และวิถีชีวิตชนบท โครงเรื่องอย่างนี้ เป็นโครงเรื่องของโฟล์คอาร์ตที่มีอยู่อย่างมั่งคั่งของสังคมล้านนา ทั้งบนเกวียน เครื่องมือเกษตร จ้อง[๔] ศาสนสถาน ศิลปะการตบแต่งบ้านเรือน สื่อสะท้อนโลกรอบข้างซึ่งแวดล้อมด้วยขุนเขา ผืนป่า ธารน้ำ ละแวกบ้านยังคงอวลด้วยบรรยากาศท้องถิ่นชนบท.......ความรักร่ายรำไปบนสรรพชีวิต
๒ ยากแค้น อยู่ต่ำ แต่วิหารใจนั้นยิ่งใหญ่งดงามสุดชีวิต
บ้านหลังหนึ่งของชายวัยกว่า ๗๐ ปี สติไม่ดีมาแต่รู้ความ แต่ก็อยู่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้าน ขออาศัยอยู่บนที่สวนของชาวบ้านผู้เผื่อแผ่เมตตาแบ่งปันให้อาศัย เมื่อหลายสิบปีก่อน ชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างบ้านหลังนี้ให้แกได้อยู่อาศัยและใช้แรงงานแลกข้าวกินไปตามบุญกรรม ปีนี้ อสม. ๑๑๑ คนของทั้งชุมชน ก็รวมเงินกันคนละ ๕ บาท พร้อมกับระดมทุนจากชาวบ้าน ได้เงินและวัสดุมาทำส้วมให้แกอีก ๑ หลัง ตัวแกเองก็สร้างถาวรวัตถุในอุดมคติของแก...ศาลพระภูมิและบ้านผีสางเทวดาอารักษ์ ทำด้วยปี๊บ ๑ ใบอย่างสุดฝีมือ
๓ เมตตาธรรมและความรักที่ค้ำจุนสุขภาวะของโลก
แม่อุ๊ยคนหนึ่งวัย ๗๔ ปี[๕] ลูกสาวคนหนึ่งพิการมาแต่กำเนิด นอนและเคลื่อนไหวไม่ได้ ลูกคนอื่นออกเรือนและแยกบ้านไปแล้ว เหลือแม่อุ๊ยขออยู่กับลูกผู้พิการ แม่อุ๊ยต้องลากอยู่ในบริเวณบ้านตั้งแต่ตัวเล็กๆกระทั่งเจริญวัยอายุ ๓๘ ปีและน้ำหนักมากกว่าแม่อุ๊ยเกือบ ๓ เท่า แม่อุ๊ยก็ฟูมฟักและลากจนตนเองหลังก่องมากว่า ๒๐ ปี เมื่อแก่ตัวและชีวิตไม่แน่นอน แม่อุ๊ยเคยร่วมมือกับทางการนำลูกไปอยู่ในความดูแลของศูนย์สงเคราะห์ผู้พิการที่ปากเกร็ด กรุงเทพฯ แต่แม่อุ๊ยก็พบว่าชีวิตแม่อุ๊ยไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อีกหากขาดลูก แม่อุ๊ยถึงกับต้องยอมขายเครื่องสูบน้ำที่เพิ่งได้จากรางวัลชิงโชคไป ๒,๐๐๐ บาทเพื่อเป็นค่ารถไปรับลูกกลับมาอยู่ด้วยกันและจะไม่ทิ้งกันไกลอีกจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง เพื่อนบ้านและ อสม. ลูกหลาน เห็นความลำบากและความรักความผูกพันอันยิ่งใหญ่ของแม่อุ๊ย จึงรวมตัวกันออมเงินและวัสดุไปสร้างบ้าน ทำลานคอนกรีตให้ลูกผู้ทุพลภาพของแม่อุ๊ยได้นอน แม่อุ๊ยออกปากว่าเหมือนตายแล้วได้เกิดใหม่ ดูแลคนหนึ่ง ก็ส่งผลความสุขความดีงามไปถึงคนรอบข้าง รวมทั้งชุมชน
๔ พลังชีวิตและสำนึกร่วมทางสังคม
แม่อุ๊ยอีกคนหนึ่งอายุเกือบ ๘๐ ปีแล้ว ผัวแกเสียชีวิตไปก่อนหลายปี แกอยู่กับลูกชายและหลานชายตัวเล็ก ๑ คน รับสานตะกร้าไม้ไผ่ ใบละ ๔-๕ บาท ได้วันละ ๑๐-๑๕ ใบ ทุกวัน บนตู้ไม้เก่าๆข้างในบ้านที่แม่อุ๊ยนั่งพักผ่อน เลี้ยงหลาน และทำงานสานตะกร้า มีรูปหล่อของหลวงปู่แแหวนและพระพุทธเจ้าหลวง วางอยู่คู่กัน
๕ นางฟ้าและสายธารแห่งรักของชุมชน
ชุมชนตั้งสถานีอนามัยสหกรณ์รองรับชุมชนชาวบ้านสหกรณ์ที่ใช้บริการสุขภาพคร่อมพื้นที่บางส่วนของ ๒ ตำบล ราชการสร้างสถานีอนามัยให้ส่วนหนึ่ง ชาวบ้านเองก็ร่วมกันทำบุญและระดมทุนสร้างชั้นล่างพร้อมจัดหาข้าวของมาช่วยหมออนามัยของชุมชน อีกทั้งอาสาเป็นเครือข่ายสร้างสุขภาพ จัดการสุขภาพและสาธารณสุขท้องถิ่นร่วมกับหมออนามัย หลังสถานีอนามัยนั้น กำนันคนแรกและผู้เฒ่าผู้แก่ของชุมชนก็ปลูกป่าสักทิ้งไว้ให้เติบโตตามธรรมชาติมา ๒๐ กว่าปี จนเหมือนป่าร่มรื่น หมอเยาวลักษณ์ แม้กำลังอยู่ในภาวะบำบัดฟื้นฟูขาหักจากการถูกรถพุ่งเข้าชนซ้ำในขณะที่เธอกำลังกู้ภัยผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุ กับ อสม.ทีมงานและเพื่อนชุมชนของเธอ พากันเดินออกจากสถานีอนามัยและตระเวนเดินไปเยี่ยมชาวบ้านในชุมชน ทั้งชุมชนเรียนรู้ที่จะร่วมกันเป็นหมอ พยาบาล และสาธารณสุขชุมชน ดูแลกันและกันช่วยเธอและพึ่งตนเองในสิ่งที่ทำได้ทั้งชุมชน
๖ อาหารหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณและพลังแห่งขวัญชีวิตเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุข
พ่ออุ๊ย-แม่อุ๊ย อีกคู่หนึ่ง อายุกว่า ๘๐ ปีทั้งคู่ อยู่กันสองเฒ่า รอบข้างเป็นบ้านของลูกหลาน ทำนา ทำสวน รับจ้าง พออยู่พอกินและพอได้ดูแลกันไปตามอัตภาพ มาเมื่อหลายปีมานี้ แม่อุ๊ยนอกจากเป็นเบาหวานและความดันแล้ว ก็หกล้ม ลูกเพียรปรับปรุงบ้าน ทำราวให้เดินจับไปทั่วบริเวณเพื่อได้อยู่และช่วยตนเองได้ อสม.และชาวบ้านก็ร่วมลงแรงมาปรับปรุงบริเวณบ้าน แวะเวียนมาเยี่ยมยามกันให้เป็นกำลังใจและขวัญชีวิต ทุกวันพ่ออุ๊ยนั่งจักทางมะพร้าวทีละซี่-ละซี่ ได้วันละ ๑-๓ พันซี่ แล้วก็รวมกัน ๒-๓ วันขายให้กับชาวบ้านด้วยกันที่ช่วยเข้ามาซื้อได้ ๔๐-๕๐ บาท
บนหิ้งและฝาผนังเหนือหัวนอนและที่นอนหมอนมุ้งสีซีดจาง ขาดวิ่น มีพระพุทธรูป รูปในหลวงและราชินี รูปครูบาศรีวิชัย หลวงปู่แหวน บรรพบุรุษและตัวพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยเอง
แจกันที่ปักแซมด้วยใบไม้สดอย่างบรรจง รวมทั้งการให้ที่ทางอันพิเศษและการจัดวางอย่างมั่นคงงดงามหมดจรดที่สุดของบ้าน สื่อสะท้อนว่าแกร่วมสานสำนึกและบำรุงรักษาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตวิญญาณทางสังคม ทั้งเพื่อตนเองและเพื่อผู้อื่นเป็นอย่างดี สูงที่สุดและมากที่สุดในทุกสิ่งที่มีในชีวิตของแก.
..............................................................................................................................................................................
[๑] โครงการวิจัยนโยบายเพื่อพัฒนาศักยภาพ
อสม.สู่ระบบบริการสุขภาพชุมชน
ดำเนินการโดยคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
และสำนักงานวิจัยเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพ
นักวิจัยหลักและหัวหน้าโครงการวิจัย :
รองศาสตราจารย์ ดร.ลือชัย ศรีเงินยวง
สาขาวิชาสังคมศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข
[๒] ตุ้ม ต้นไม้ชนิดหนึ่งลักษณะใบและลำต้นคล้ายต้นสักและต้นรัง
ในภาคกลางเรียกต้นตะกู ในภาคเหนือนั้น
จะพบชื่อพื้นที่หรือชื่อหมู่บ้านหลายแห่งว่าป่าตุ้มโฮ้ง
ป่าตุ้มดอน ก็จะบ่งบอกลักษณะดั้งเดิมของพื้นที่ด้วย
กล่าวคือ โฮ้ง
หมายถึงพื้นที่ลุ่มสลับกับแอ่งน้ำที่มีต้นตุ้มหนาแน่นเป็นป่าตุ้ม และ
ดอน
หมายถึงที่เป็นเนินสูงที่มีต้นตุ้มขึ้นหนาแน่นเป็นป่าตุ้มดอน
[๓]
คุณจิดาภา
พวงเพ็ชรและคณะ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
[๔] จ้อง คือ
ร่ม ในภาษาไทยกลาง
[๕] อุ๊ย หมายถึงผู้สูงอายุ
ตา-ยาย
ในภาษาไทยกลาง
แอบดูรูปตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ เป็นภาพแห่งความงดงามในชนบท ตอนแรกมีคำถามว่าปี๊บที่หน้าบ้านคืออะไร แต่พออาจารย์อธิบายพอเข้าใจได้ ในภาพที 7 เจอข้อความหน้ารูปหลวงปู่แหวนและพระพุทธเจ้าหลวง ขายผ้าเอา...รอดใช่ไหมครับ
การส่งเสริมให้ อสม ทำงานแบบจิตอาสา ช่วยเหลือกัน เป็นการทำงานเชิงลุก(ลุกจากที่งานของสาธารณสุข) ได้ดีทีเดียว สิ้นเดือนนี้จะไปเริ่มงานกับ อสม สมุทรสาคร และโรงพยาบาลสมุทรสาคร แล้วจะเล่าให้อาจารย์ฟังนะครับ
ศิลปแห่งชีวิต งดงามแม้ขาดวิ่น
ขอบคุณบันทึกนี้ของอาจารย์ค่ะ
สวัสดีค่ะ
เพราะความรักของแม่อุ้ยนะคะ ทำให้แม่อุ้ยลากลูกสาวจนหลังก่อง หมายถึงหลังค่อม ใช่ไหมคะ "งดงามทุกถ้อยคำ" ค่ะ
ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เอื้ออาทรทำให้ชุมชนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
น่าใจหายนะคะถ้าสิงเหล่านี้จะจางหายไปจากสังคมไทย
ขอบคุณเรื่องเล่าดีๆที่สะท้อนความเอื้ออาทรระหว่างเพื่อนมนุษย์ค่ะ..
ในด้านของโลกที่แหว่งวิ่น ชีวิตที่ลำเค็ญ กลับเป็นโอกาสให้หัวใจของคนได้สัมผัสกัน
เพราะเธอขาด ฉันจึงมีโอกาสเติม แล้วจึงเต็มหัวใจไปด้วยกัน..
โลกวันนี้ที่ขาดแคลน คือความเป็นชุมชนทางใจให้แก่กันและกัน
ผู้คนจึงมักรู้สึกโดดเดี่ยวท่ามกลางฝูงชน
สถานการณ์ที่ดูคล้ายเลวร้าย มักเป็นโอกาสกระชากน้ำใจงาม ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายในใจออกมา เหมือนดั่งเช่นที่เราเห็นจากเหตุการณ์สึนามิ
คงจะดีไม่น้อย หากไม่จำต้องรอให้เหตุการณ์ย่ำแย่ แต่ผู้คนมีหัวใจที่ละเอียดอ่อนพอจะเอื้อเฟื้อต่อกันเป็นอาจิณ..
..............
เล่าเรื่องผ่านชีวิตแบบนี้ ได้อารมณ์ดีไปอีกแบบนะคะอาจารย์ ..^__^..
สวัสดีครับอาจารย์ภูสุภาครับ ไปเห็นแล้วรู้สึกอยากนำมาแบ่งปันกันดูน่ะครับ ดีใจนะครับที่อาจารย์ได้เข้ามาอ่านและชมรูปถ่ายหาความคิดดีๆงามๆด้วยกันครับ
สวัสดีครับคุณ naree suwan ครับ
วิถีชีวิตชุมชนอย่างนี้ ก็สามารถทดแทนสิ่งที่ชุมชนในชนบทหลายแแห่งไม่มีอย่างโลกภายนอก ได้อย่างไม่ด้อยไปกว่ากันนะครับ ก็ไม่มีหลายอย่างอย่างโลกภายนอกแต่ก็มีหลายอย่างที่ซื้อหาไม่ได้จากที่ใด
ดูแล้ว ทำให้ได้ความรื่นรมย์ในชีวิตที่ดีอย่างหนึ่งเหมือนกันนะครับ เลยเอามาฝากอีก ๒ รูปครับ
สวัสดีครับคุณพี่นงนาทครับ ชุมชนนี้น่าเรียกชุมชนเอื้ออาทรไม่ทอดทิ้งกันอีกชุมชนหนึ่งมากจริงๆครับ
ความงามที่ขาดวิ่น
...
ขอบคุณ บันทึก ที่เติมเต็ม จิตวิญญาณและพลังแห่งชีวิต ได้มากเหลือเกิน
....
อาจารย์ สบายดี นะครับ
ด้วยความรักและเคารพ
สวัสดีค่ะ แวะเข้ามาอ่านหลายรอบแล้ว อาจารย์บรรยายได้ซาบซึ้งค่ะ