มนต์เรียกเครื่องบิน


ปีก่อนโน้น อ่าน Surely You're Joking, Mr. Feynman ! เรื่องมนต์เรียกเครื่องบิน แล้วก็ขำกลิ้ง ว่าสงสัยเรื่องแต่ง

ไม่ได้พูดถึงตรงนี้ที่เดียว ไปเขียนถึงอย่างละเอียดไว้อีกที่หนึ่ง ใน "The Pleasure of Finding Things Out" ในบท Cargo Cult Science เพื่อสะท้อนให้เห็นความล้มเหลวในวิธีจัดการระบบการศึกษา-ระบบการวิจัย

แต่เรื่องนี้ มีคนเล่าให้ฟังว่า น่าจะเป็นเรื่องจริง

ฟายน์แมนเขาเล่าว่า มีชาวเกาะแห่งหนึ่ง ช่วงสงครามเขาใช้เกาะนี้เป็นจุดพักเครื่องบิน มีเครื่องบินมาแวะลง มีของฟรีแจกชาวเกาะให้อยู่ดีมีสุข (เอาใจคนท้องถิ่น งานจะได้ราบรื่น) พอสงครามเลิก ก็ไม่มีเครื่องบินมาลงอีก

คราวนี้ก็เดือดร้อนละสิ เริ่มติดใจของฟรีเข้าแล้วนี่ อยากให้เครื่องบินมาลงแบบนั้นอีก พร้อมของแจก

อ้าว ทำไงดี ?

เขาก็ทำเลียนแบบทุกอย่างที่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ เช่น สร้างเลียนแบบรันเวย์ ก่อไฟขนาบข้าง สร้างกระต๊อบเลียนแบบหอบังคับการ ให้คนสวมโครงไม้เลียนแบบอุปกรณ์สื่อสารแบบครอบที่มีไมโครโฟน

ทำกันจนกลายเป็นลัทธิประจำเกาะไปเลย

แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่มีเครื่องบินแบบนั้นมาลงอีก

(ผมลองนึกดูเล่น ๆ ว่า หมอผีประจำเกาะ อาจเถียงกันว่า ที่ไม่ได้ผลน่ะ อาจเพราะลงทุนน้อยไปหน่อย 0.15 % ของ GDP เองนะ น่าจะเพิ่มให้เป็น 2 % ของ GDP ^ ^!)

ได้ยินว่า คนในบางประเทศก็อยู่แบบเดียวกับชาวเกาะนั้นแหละ ไปดูงานต่างประเทศมา เห็นระบบจัดการอะไรของฝรั่งเขาดี กลับมาก็รีบเลียนแบบแทบจะถอดพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นการกระต๊อบเลียนแบบหอบังคับการ ให้คนสวมโครงไม้เลียนแบบอุปกรณ์สื่อสารแบบครอบที่มีไมโครโฟน

เผื่อจะมีเครื่องบินมาลงเพื่อแจกของ  เผื่อจะทำให้ระบบบริหารดีขึ้น

เล่าเรื่องนี้เสร็จ ไปอ่านเจอเรื่ององค์กรมีชีวิตที่เพิ่งมีผู้เขียนเสร็จ เขาเล่าถึงผลสรุปขององค์กรที่เปลี่ยนระบบบริหารเพิ่มสมรรถนะ  เปลี่ยนระบบใหม่เร็วกว่าคนทำงานจะเปลี่ยนรองเท้า ประเภทที่เห่อระบบใหม่แบบตามแห่กันร้อนแรง ^ ^

ปรากฎว่า สามในสี่ ล้มเหลว และได้รอยแผลเป็นทางใจตราตรึงผู้คนในองค์กรแถม

อ่านแล้ว ฮาจุกอกอีกรอบ

คำสำคัญ (Tags): #kpi#qa#tqf
หมายเลขบันทึก: 302190เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2009 18:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ฮา...แล้ว รู้สึก จุกๆในช่วงท้าย ครับ :)

  • ผมเองไม่ค่อยได้เห็นเรื่องฮาจุกอกทำนองนี้บ่อยเท่าไหร่
  • คงเป็นเพราะไม่ค่อยได้เดินทาง
  • คุณเอกอาจเห็นเรื่องเล่าแนวนี้เยอะ ลองเล่าสู่กันฟัง
  • คงมันส์...

ที่เกาะ Tanna เลยครับ ผมพึ่งรู้ว่าลักษณะเช่นนี้เขาเรียกว่า cargo cult ครับ ... อืมม... cargo cult science ฟังดูดีอยู่ครับ ....

 

  • ขอบคุณครับ
  • แหม เสียดายไม่ได้ดูสารคดีเรื่องนี้
  • ผมว่า เป็นบทเตือนใจขั้นเทพ สำหรับการไปดูงานต่างประเทศ
  • ดูงานเมืองนอกมันก็ดีอยู่ ถ้าใช้ต่อยอดสิ่งที่มี
  • แต่ประเภทเห็นอะไรดีแล้วตามแห่ โละทิ้งฐานเก่าที่ดี ๆ ของตัวเอง เห็นน้ำตาตก ช้ำจุกอก มีตัวอย่างมากมายในบ้านเราในหมู่เกษตรกร
  • ได้ยินว่า เริ่มระบาดเข้ามาในแวดวงการศึกษา-การวิจัยด้วย
  • เดี๋ยวก็คงมาถึงเรา
  • ว่าแต่... ความคืบหน้าเขียนเว็บทำ TQF คืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ ^ ^

^ ^!

  • ตำนานเรื่องนี้ ควรอ่านอย่างใคร่ครวญครับ มีข้อคิดที่ลึกซึ้งแฝงอยู่
  • คนที่อยู่ในแวดวงการศึกษา ในแวดวงการวิจัย ถ้าไม่เห็นแง่คิดจากตรงนี้ คงน่าเสียดาย
  • เจอแบบนี้จุกเลยครับ
  • มาบอกอาจารย์ว่า
  • พบรุ่นน้องอาจารย์ด้วย
  • อาจารย์ดังมากเลยนะเนี่ย
  • ไปที่สมุทรสาครมาครับ

■"ผมว่า เป็นบทเตือนใจขั้นเทพ สำหรับการไปดูงานต่างประเทศ" ขอต่อยอดความคิดเห็นของอ.ธวัชชัย ปิยะวัฒน์ นะคะ

งบประมาณการไปศึกษาดูงานมากจริง ๆ แต่น่าจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน อยากให้มีการทำวิจัยดูบ้างจะมีหน่วยงานใดกล้า... !!

  • ตอนเรียนบริหาร ผมได้ไปดูงานที่หอสมุดประชาชนของสิงคโปร์
  • ฟังเขานำเสนอแล้ว สะอึกจุกๆแบบตอนอ่านบันทึกนี้ของอาจารย์เลย
  • เขาบอกว่า มีคณะดูงานจากประเทศไทยไปดูเขาเยอะมากๆ 
  • อึ๊ก.. อึ๊ก
  • สวัสดีครับ คุณหมอเต็มศักดิ์ พึ่งรัศมี
  • ดูงาน ถ้าดูเพื่อ ต่อยอด ทาบกิ่ง เสริมสิ่งที่ตัวเองมี ผมก็ว่าดีครับ และน่าส่งเสริม
  • แต่ปัญหามักเกิด เมื่อไปดูงาน เพื่อตัดยอด
  • คือยอดของตัวเองดี ๆ อยู่ ไปตัดทิ้ง แล้วทำหมวกครอบเลียนแบบยอดของชาวบ้าน (=ใช้ในความหมายว่า ฝรั่ง) มาแปะยอดตัวเอง
  • ดูจากที่ไกล ๆ เราคงไม่รู้หรอกว่า ดูงานคณะไหน ไปเพื่อ ต่อยอด คณะไหน ไปเพื่อ ตัดยอด
  • ถ้าที่ไป ไปต่อยอดหมด ไปดูมาก ๆ ผมก็อนุโมทนา
  • ว่าแต่...คุณหมอ...น้ำเปล่าติดคอเหรอครับ ?

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สวัสดีครับท่าน วิบุล

ผมติดตาม อ่านบทความของท่านอยู่

แต่ยังอ่านไม่จบทุกเรื่อง

ใช้วิธี อ่านของเก่าเก็บ สลับกับอ่านของใหม่

อ่านไป ฮา..ไป

ใครมีกะตัง น่าจะจ้างท่านไปดูงานสัก สามเดือน ผมจะได้ตามอ่านทัน แฮ....

(เห็นคุณค่าบทความท่านวิบุลหรือยัง ทำให้ผมคิดดีแบบไม่ลงทุน อิ.อิ.)

  • ช่วงนี้ ผมก็ไม่ค่อยได้เขียนครับ เดือนสองเดือน เขียนสักเรื่อง (หมดพุงแล้วนะสิ)
  • เพราะฉะนั้น อ่านยังไงก็ทันแน่ครับ ถ้าไม่ถอดใจหยุดอ่านซะก่อน ^ ^

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

พี่ดั้น... มดเพิ่งหัดเขียน ยังไม่รู้หลายเรื่องเลย ของงี้มันอยู่ที่ใจ ...ใจเปลี่ยน องค์กรจึงเปลี่ยนแบบยั่งยืนเนอะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท