ผมเป็นครูบ้านนอกสอนในระดับมัธยมศึกษาจังหวัดที่ติดชายแดนทางภาคตะวันตก หลังจากจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตรมาได้ 5 ปีต้องการเรียนต่อ...แต่ไม่มีโอกาส เนื่องจากผู้บริหารไม่อนุญาตให้สมัครเรียนต่อ โชคดีที่เข้าร่วมงานวิจัยของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา(สกศ)ได้พบกับรองศาสตราจารย์ ดร.พวงเพ็ญ อินทรประวัติอาจารย์บอกว่าที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีหลักสูตรปริญญาเอกวิชาภาษาอังกฤษ ผมได้แต่หวังว่าอยากไปเรียนจัง วันหนึ่งตอนอยู่บนภูเขาช่วงที่ไปเยี่ยมนักเรียนที่ป่วย ได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริลักษณ์ อุตสาหะ จึงตัดสินใจว่าเป็นตายอย่างไร...จะต้องสมัครเรียนต่อแน่นอน ขออนุญาตผู้บริหารโรงเรียนไปสมัครสอบท่านก็อนุญาต ไปสอบท่านก็อนุญาตอีกแต่เมื่อสอบได้ปรากฎว่าจะไม่อนุญาต...ผมอยากเรียนต่อมากตั้งใจว่าจะลาออก...ไปตายเอาดาบหน้า... แต่ในที่สุดต้องใช้คณะกรรมการโรงเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษายกมือ vote อนุญาต...ถึงได้มาเรียน...หลังจากนั้นผมก็สมัครทุนโครงการพัฒนาอาจารย์สาขาขาดแคลนจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ปรากฎว่าสอบได้ ...ต้องลาออกจากราชการถูกปรับจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 166,850 บาท(เนื่องจากทำสัญญาลาศึกษาต่อ)....ต้องใช้เงินกบข. ชดใช้ทุน...เห็นไหมว่ากว่าจะได้มาเรียนปริญญาเอก...ยากเหลือเกิน...ตอนนี้มีเพื่อนร่วมชะตากรรม 13 คน เป็นคนจีนจากมหาวิทยาลัย กุ้ยโจ 6 คน…ครั้งต่อไปจะเล่าเรื่องที่เป็นวิชาการก็แล้วกันครับ นี่ไงครับจากคำถาม...นักวิชาการไทยไม่กล้าเขียนบล็อกจริงหรือ? (ผมครูบ้านนอกไม่ใช่นักวิชาการนะจะบอกให้....)
ลิงค์ของชุมชนนศ.ป.เอกค่อนข้างจำยากนะคะ อย่างนี้จะใช้โปรโมทลำบากคะ อยากให้อ.ขจิตเปลี่ยนใหม่คะ เช่น
ผมเห็นความพยายามของอ.ขจิต ที่จะมาเรียนต่อป.เอกแล้ว ขอเอาใจช่วยครับ อย่างไรก็ตามเรื่องขนาดตัวอักษรลองอ่าน เทคนิคการ copy ข้อความฯ ดูนะครับ
ผมก็มีส่วนคล้ายกับ อ.ขจิต มากทีเดียว มีอุปสรรคมากมาย สำหรับการที่เราจะพัฒนาศักยภาพ โดยการเรียนในระดับที่สูงขึ้น
ว่างๆขออนุญาต เมลไปคุยกับอาจารย์ขจิต นะครับ
ผมได้อ่านเรื่องของอาจารย์คนหนึ่งในชุมชนBlog นี่แหละ ข้อเขียนนี้ทำให้ผม ตัดสินใจคิดเปลี่ยนตัวเอง เพื่อหาคำตอบให้กับชีวิต
ข้อเขียนที่ว่า คือ "เลือกทำในสิ่งที่ชอบ...คำตอบของชีวิต" ครับ
ว้า! อุปสรรคเยอะดีเนาะ แต่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ ที่สมหวังในเบื้องต้น แถมได้เปลี่ยนที่ทำงานใหม่ด้วย ดีจริงๆ ต่อไปก็เหลือเรียนให้จบนะคะ จะได้เป็น ดร. สมดั่งใจ เมื่อถึงวันนั้น จะมามอบช่อดอไม้ (ผ่านระบบ) นะคะ
ประเทศไทยจะได้มีคุณครูสอนภาษาอังกฤษ เก่งๆ สอนให้นักเรียนไทยเก่งภาษาอังกฤษ ต่อไป
...จะต้องสมัครเรียนต่อแน่นอน ขออนุญาตผู้บริหารโรงเรียนไปสมัครสอบท่านก็อนุญาต ไปสอบท่านก็อนุญาตอีกแต่เมื่อสอบได้ปรากฎว่าจะไม่อนุญาต...ผมอยากเรียนต่อมากตั้งใจว่าจะลาออก...ไปตายเอาดาบหน้า... แต่ในที่สุดต้องใช้คณะกรรมการโรงเรียนและคณะกรรมการสถานศึกษายกมือ vote อนุญาต...ถึงได้มาเรียน...
จากข้อความข้างบน ผมเข้าใจว่า
1. ผู้บริหารคงไม่อยากเสียบุคลากรจึงไม่อนุญาต(ครูบ้านนอกขาดแคลน เพราะนโยบายนายก)
2. อาจารย์อยากเปลี่ยนสายงานมาระดับอุดมฯ หรือเปล่า เพราะผมมีเพื่อนร่วมรุ่นที่อยากไปสอนในเมือง จึงไปเรียนต่อกัน(แต่ก็เป็นสิทธิ์ของท่านที่อยากก้าวหน้าทางหน้าที่การงาน)
3. อาจารย์มาเรียนโดยมีข้อตกลง หรือเงื่อนไขกับโรงเรียนและคณะกรรมการฯ ที่รับรองให้ท่านมาเรียนหรือเปล่า (จบเอกคงไม่กลับบ้านนอกแล้ว แต่ก็ยังช่วยพัฒนาการศึกษาไทยได้ใช่ไหมครับ)
ครับ เหมือนแถวๆ นี้(ที่ผมอยู่)เลยครับ
มีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่อยู่ริมทะเล(โคลน) อาจารย์ท่านนึงเล่าให้ฟังว่า จะขอไปเรียน ป.เอก แต่ผู้บังคับบัญชาไม่ให้ไป ก็ต้องดิ้นรนขวนขวายอยู่พักใหญ่ๆ จนวันนี้ท่านจบ ป.เอกแล้วครับ
ไม่รู้ว่ายังมีอย่างนี้ที่ไหนอีกบ้างน้อ
อะไรที่ได้มาด้วยความยากลำบาก ย่อมมีค่าเสมอครับ ก็ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์เรียนจนสำเร็จสมความปรารถนา และนำความรู้ที่ได้มา ช่วยกันพัฒนาชาติให้ดียิ่งขึ้นไปครับ
เอ... ผมจะมีโอกาสดีๆ อย่างอาจารย์บ้างรึปล่าวก็ไม่รู้เหมือนกันครับ
รู้จักคนที่จบปริญญาเอกหลายคน บอกตรงๆ ผิดหวังนะ
แต่ยังคงหวังว่า ... คนได้ปริญญาเอกนี่ ... อีคิวจะดีกว่านี้ ...เฮ้อ...
สวัสดีค่ะคุณครูขจิต
สวัสดีค่ะ
ตามคุณพี่ท่านข้างบนเข้ามาค่ะ
ได้ยินเรื่องไม่อนุญาตให้เรียนมาค่อนข้างเยอะ จนทำให้สงสัยว่า
ทำไมผู้บริหารในระดับสูงของหน่วยงานต่างๆ ในบ้านเราไม่สนับสนุนเรื่องการศึกษาต่อของบุคลากร
ขอบคุณทุกๆๆท่านเลยครับ แล้วจะไปทักทาย ความก้าวหน้ามาด้วยเลือดและน้ำตาครับ
สวัสดีค่ะคุณครูขจิต
โห...เพิ่งรู้ว่ากว่าอาจารย์ขจิตจะได้มาเรียนป.เอก ยากขนาดนี้เลยเหรอ
นับถือๆ ค่ะ มีความมุ่งมั่นจริงๆ ^_^
ขอบคุณคนไร้รากจะตามไปดู
ขอบคุณน้องปิ๊กมาก กว่าจะได้เรียน เกือบตาย
จริงจ๊ะ..จริงจิงจ๊ะท่าน ดร.นักวิชาการไทยไม่กล้าเขียน Blog นี่ครูลี่หนีลูกสาวมาเขียนนะ อย่าเอะอะไป เดี๋ยวโดนดุ
เป็นกำลังใจให้ผมด้วยคนครับ
แต่พออ่านแล้ว ไฟลุกโชติช่วงในดวงใจขึ้นมาเลยเชียวครับ
สู้ คำนี้ที่ต้องการครับ
สวัสดีครับอาจารย์ ผมนี่อยากเรียนปริญญาเอกมากๆๆ จบปริญญาโทจากอินเดีย เสร็จแล้วก็มาเป็นอาจารย์อัตราจ้างอยู่มหาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ได้ปีกว่าๆๆ อาจารย์คิดว่าผมน่าจะลาออกเรียนต่อดีไหมครับ คือตอนนี้ผมอายุ 30 ปีเต็มครับ คือผมอยากเรียนต่อที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เหมือนกันครับ มีทุนไม่เยอะครับ 2 แสนกว่าบาทเองครับ อาจารย์คิดว่าผมจะทำอย่างไรดีครับ
สวัสดีคะมาเป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่ะ
อยากเรียนต่อ แต่ทำไงดีคะไม่มีทุนเหมือนกัน
องค์กรคงให้ลาเรียนยาก
สู้ๆและอดทนคร๊า
สักวันหนึ่งต้องเป็นวันของเรา
สวัสดีค่ะ
ตอนนี้เรียนใกล้จบรึยังคะ
เป็นกำลังใจให้นะ
ถ้ามาทุนอาจารย์มหาวิทยาลัยอย่างนี้ก็บอกกันบ้างนะคะ
อย่างที่อาจารย์เคยประสบเหมือนกัน คือ ดิฉันรับราชการสังกัด สพฐ
ป.ตรี ภาษาอังกฤษ จาก มศว.สงขลา (ทักษิณ - ปัจจุบัน)
ป.โท การสอนภาษาอังกฤษ จาก ม.ศิลปากร
รับราชการที่กำแพงแสน
เมษายน 51 สอบได้ทุนระดับ advance ไป new zealand มาค่ะ
กำลังคิดและตัดสินใจอย่างหนัก ว่าจะเรียนต่อด้านใด และที่ไหนดี
หาแหล่งทุนมากมายทั้งในและต่างประเทศ
สงสัยว่าคงจะต้อง ใช้เงิน กบข.ใช้หนี้เขาเหมือนที่ อาจารย์ทำแน่เลย (ถ้าไม่มีทางออก)
จริงๆ แล้วน่าจะเป็นเหมือนเมื่อก่อนเนอะ โอนย้ายระหว่างสังกัดได้
แย่จัง
ทั้งๆที่ก็กลับมาพัฒนาเด็กไทยเหมือนๆ กัน
(ปรับทุกข์นิดหน่อย)
รบกวนอาจารย์ตอบกลับด้วยนะคะถ้ามีเวลา
ขอบคุณค่ะ
คนที่กำลังสับสน
* ศรัทธาแก่กล้าอย่างนี้..เมื่อโอกาสเปิด...และมีปัจจัยเกื้อหนุน..อ.ขจิตย่อมไปถึงเป้าหมายอย่างดีเยี่ยมแน่นอนนะจ้า...
* ปริญญาเอกเป็นเพียงกฏเกณท์ที่สังคมกำหนดเพื่อแสดงภาพลักษณ์ระดับหนึ่ง แต่ตัวตนที่แท้จริงที่อ.ขจิตได้เอื้อเฟื้อแก่สังคมทางด้านการศึกษาด้วย "ใจ" ที่ทุ่มเทตลอดมานั้น.. พี่ใหญ่ว่านั่นต่างหาก เป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งกว่านะจ้า...ขอบอก..
nongnarts
หนทางวิบากเหมือนวิ่งแข่งวิบากในวันเด็กเลย
แต่สุดท้ายด้วยความมุ่งมั่น ก็ชนะแม้ใจตนเอง
เยี่ยมมากค่ะ
ครูต้อยโชคดีที่เลือกที่ปรึกษาไม่ผิดตัว
เลือกได้ตรงเผงเลย อิอิ ตายังดีอยู่
ใจมันบอก
เดินหน้าต่อไป
ชอบใจๆ
อาจารย์คะเป็นครูของสพฐ.หากจบโท อยากโอนไปเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยได้หรือเปล่าคะ
ครูอิงลิช หมิว
สวัสดีค่ะอาจารย์
***แวะมาดูหนทางของคนขยันเรียน
*** ชอบเรียนรู้นอกระบบและใช้เวลาแก้ปัญหาให้คนอื่นมากไป...สุดท้ายได้กระดาษแค่แผ่นเดียว
*** อยากได้ปริญญาหลายๆใบแต่เรียนไม่เก่ง จะต่อโท ตอนอายุ 50 ปี จะไหวมั้ยเนี่ยอาจารย์
หนูกำลังจะก้าวไปเป็นนศ.ป.เอกสาขาภาษาอังกฤษค่ะ รอเปิดเทอมค่ะมีนศ.จีนร่วมชะตาด้วยเช่นกัน ไม่ว่าการเรียนจะหนักแค่ใหนหนูก็คงสู้กันให้ตายไปข้างค่ะ ป.เอกถือเป็น highest degree anyone can earn คงต้องทุ่มเท ทั้งกายใจ เต็มที่
สวัสดีครับพี่ สบายดีนะครับ
สวัสดีค่ะพี่ๆ ทุกคน ตอนนี้หนูกำลังหาที่เรียนต่อป.โทสาขาภาษาอังกฤษ กะว่าจะขอลาทางโรงเรียนอ่ะค่ะ พอดีเจอสาขาภาษาอังกฤษศึกษาของ มทส. สนใจค่ะแต่อยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับสาขานี้มากกว่านี้ อยากรู้ว่าเรียนอยากมากมั้ย เรียน 2 ปีจะจบมั้ย(เพราะลาเรียนได้ 2 ปีค่ะ) เป็นหลักสูตรนานาชาติอย่างเดียวเลยรึป่าว แบ่งเทอมยังงัยคะหนูเห็นเปิดรับปีหนึ่งหลายช่วงค่ะ พี่คนไหนที่กำลังเรียนหรือเรียนจบจากสาขานี้แล้วขอความกรุณาให้คำปรึกษาด้วยค่ะ ช่วยทิ้งอีเมลไว้ด้วยนะคะขอบพระคุณค่ะ
บทความนี้นี่มันเขียนเกือบเจ็ดปีแล้วนะครับ แต่ผมเพิ่งผ่านทางมา (ไปหลงทางอยู่ที่ไหน?) แต่อ่านแล้วให้กำลังใจในการเรียนได้ดิ่งลึกเชี่ยวครับ ขณะที่เขียนความเห็นนี้กำลังตรวจทานโครงร่างวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของตนเองอยู่
ลักษณะอาการผมคงคล้ายๆกับ อาจารย์ขจิตนี่แหละครับ คือแน่วแน่ว่าจะไปสายวิชาการมาตั้งแต่เรียนจบ ป.ตรี แต่ไปสอบรับราชการครูอยู่ไกลถึงจังหวัดปัตตานี 3-5 ปีแรกๆขอลาศึกษาต่อ ผอ.กี่คนไม่เคยอนุญาต ให้เหตุผลว่าสาขาที่เรียนไม่ตรงกับงาน (ผมสอนวิทยาศาสตร์ ขอลาไปเรียนด้านสิ่งแวดล้อม) จนปี 48 ถูกคุกคามจนต้องย้ายออกมานอกพื้นที่ คราวนี้ขอลาศึกษาต่ออีก ก็ไม่ได้รับอนุญาตตามเคย เลยกระเสือกกระสนไปเรียนหลักสูตรเสาร์-อาทิตย์ ที่ มอ.(ด้านสิ่งแวดล้อม-ทำวิทยานิพนธ์) จนจบ ป.โท (3 ปี) 2-3 ปีที่แล้วขอลาศึกษาต่อระดับ ป.เอก (สาขาด้านสิ่งแวดล้อมเหมือนเดิม) แน่นอนครับคำตอบคือไม่ได้รับอนุญาต ผมไตร่ตรองชั่งน้ำหนัก คำนวณ บำเหน็จ + เงินเก็บแล้ว เลยลาออกราชการหอบหิ้วเมียหนึ่ง-ลูกสามไปตายดาบหน้าแทน ปัจจุบันเรียน ป.เอกด้านการจัดการทรัพยากรทะเลและชายฝั่งอยู่ที่ มอ.หาดใหญ่ เดือนหน้า จะสอบโครงร่างและคิดว่าอีกไม่เกินสองปีน่าจะเข้าจบตามตั้งใจ เงินทุนส่วนตัว+เงินเก็บร่อยหรอจนตัวลีบ แต่ผมโชคดีที่มีกัลยาณมิตรมาก ทั้งครูบาอาจารย์ เพื่อนฝูง รุ่นพี่ รุ่นน้อง เลยพอมีงานเล็กน้อยๆทำพอยังชีพและเรียนหนังสือ หลายวันมานี้รู้สึกเหนื่อยที่สุดในชีวิต ผ่านมาอ่านบทความของอาจารย์ ใจมันสั่นสู็เชียวครับ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆ (หรือแย่ๆ) ที่แบ่งปันกัน
แวะมาอ่านค่ะ กำลังสมัครเรียนต่อ อ ป.เอกเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าที่หลายๆคนไม่ได้อนุญาตให้เรียนต่อ เพราะผู้บังคับบัญชาอิจฉาหรือเปล่า? ถ้าดิฉันเข้าใจผิดต้องขออภัยค่ะ
คุณ "นายสะอาด" คุณสปิริตแรงกล้ามาก ขนาดคุณมีทั้งลูกสามเมียอีกหนึ่ง
อิฉันก็กำลังจะเริ่มสมัครเรียนค่ะ
จะเก็บเรื่องราวที่ต่อสู้ฝ่าฟันของคุณทั้งหลายไว้เป็นกำลังใจค่ะ
คุณชมพู่ มะเหมี่ยว ครับ
จริงๆแล้วนายสะอาดที่ชื่อ บิดาผม ครับ ท่านมีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่อยากให้ลูกๆทั้ง 11 คนมีโอกาสในชีวิตและด้วยฐานะที่ย่ำแย่ที่สุดในหมู่บ้าน ท่านเห็นว่าทางเดียวที่ลูกๆจะรอดพ้นจากความลำบากคือการศึกษา สองคนผัวเมียที่รวมประกาศนียบัตรทางการศึกษากันแล้วยังไม่จบ ป.4 เลย กัดฟัน ส่งเสียลูกๆจนถึ่งฝั่งฝันไปทุกคน (รวมปริญาญาแล้วสิบกว่าปริญญา) หลายปีก่อนตอนผมทำงานอยู่ต่างจังหวัด สุขภาพท่านไม่ดี ผมกลับไปเยี่ยมท่านที่บ้าน ท่านเปรยๆอยากเห็นลูกสักคนไปถึงขั้นสูงสุดของปริญญา ท่านเห็นว่าผมเองก็มีฝันส่วนตัวอยู่ ท่านเลยบอกว่า อย่ากลัวลำบาก ถ้าจะทำอะไรเพื่อตัวเอง เพราะที่ผ่านมาเราลำบากมามากกว่านี้เรายังผ่านมันมาได้ ก่อนมาตัดสินใจอะไรกับอนาคตตัวเอง ท่านก็จากไปเสียก่อน สองสามปีถัดมาผมก็ตัดสินใจลาออกจากราชการ ช่วงปีแรกกลับมาอาศัยบ้านแม่อยู่ ทิ้งลูกๆไว้กับภรรยา ที่ต่างจังหวัด มันเป็นปีที่มหัศจรรย์มาก ผมกลับบ้านได้เพียงสองเดือน แม่ก็ล้มหมอนนอนเสื่อ และด้วยผมไม่มีภารกิจงานประจำนี่เอง จึงเป็นผมที่ได้ดูแลแม่ตลอดปีนี้ ความสุขที่ได้ดูแลท่าน อาบน้ำ เช็ดตัว ป้อนยา ฯลฯ แม้สุดท้ายทานจะจากไปโดยยังไม่ทันเห็นลูกประสบความสำเร็จตามที่ท่านอยากเห็น แต่ผมพบว่า ชีวิตผมจากวันนี้มา ดีขึ้นมาก มีงานเข้ามาให้ทำ (รายได้มากกว่าที่เคยรับราชการ) การเรียนก็ก้าวหน้า จน ปริญญาที่หวังก็แค่เือื้อมแล้ว ทั้งหมดทั้งสิ้น ผมพบว่า ชีวิตมันมีที่ทาง ทางออกและการคลี่คลายของมันเอง แน่นอนความหวั่นไหว ความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนแปลงย่อมเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ ขอให้กำลังใจนักฝัน ด้วยคำพูดของน้องผู้หญิงที่ลาออกจากราชการมาพร้อมกัน (ปัจจุบันเปิดโรงเรียนเพื่อเด็กยากจน) ว่า "ไม่ต้องกังวลกับชีวิต เพราะไม่มีมนุษย์คนไหนจะปล่อยให้ตัวเองอดตาย"
ขอให้กำลังใจคุณชมพู่มะเมี่ยวลูกชายนายสะอาดครับ
สู้ๆๆครับ
ขอบคุณอาจารย์มากครับ อย่างที่บอกข้อเขียนของอาจารย์ข้างต้นเป็นกำัลังใจในการเรียนและใช้ชีวิตดีแท้ครับ