- มาบอกอีกครั้งว่าถ้าโครงการผ่าน
- จะชวนคนนี้มาดวนกันปั่นขึ้นดอย
- ไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ
- อิอิ ....เอาให้จุกอกกันไปข้างนึง
- ขู่ น้องชายไว้ก่อน
ผู้เขียนกำลังตั้งสติว่า ผู้เขียนได้รับความรู้อะไรบ้างจากการเรียนรู้กับโครงการพัฒนาโรงพยาบาลคุณภาพด้วยความรักและความดีที่โรงพยาบาลสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนได้คือเรื่องของ Dialogueที่ ปกติผู้เขียนได้ทดลองใช้กับคุณครู นิสิตและนักศึกษา กลุ่มของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย แต่ครั้งนี้เป็นพี่ๆน้องๆจากโรงพยาบาล ได้เรื่องดีๆๆที่เป็น reflection ของพี่ๆน้องๆจากโรงพยาบาลเอง
ผู้เขียนพบว่าความไว้วางใจซึ่งกันและกัน(Mutual Trust) เป็นผลให้ทุกๆๆคนเปิดใจ พูดออกมาจากใจและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่างเป็นธรรมชาติ (ผู้เขียนเลยไปเปิดคู่มือ KM(ภาคปฏิบัติ)วันละคำของ ศ. นพ.วิจารณ์ พานิช 2550:13) พบว่า สุนทรียสนทนา(dialogue) เรื่องเล่า AARและPeer Assist เป็นต้น เป็นเครื่องมือสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันได้ดี
หัวข้อที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สะท้อนออกมาในเรื่องเล่าคือ
- ประทับในทีมงานเช่น ทีมซักฟอกของโรงพยาบาลได้นำเงินของคนไข้ที่ลืมมาคืน
- ความประทับใจของพยาบาลท่านหนึ่งที่ดูแลครูภาษาอังกฤษที่ป่วยและเคยสอนพยาบาลท่านนี้มา โดยคุณหมอแจ้งว่าอยู่ได้ไม่เกินสามเดือน พยาบาลท่านนี้บอกว่าได้ทดแทนคุณครูด้วยความกตัญญูขนคุณครูอยู่ได้ถึง 9 ปีแล้วจากไปอย่างสงบ
- พยาบาลท่านหนึ่งเล่าว่า ประทับใจหมอที่สามารถสอนเด็ก 9 ขวบให้สามารถฉีดอินซูลินเองได้และมีความผูกพันกับเด็ก
- พยาบาลอีกท่านหนึ่งเล่าว่า ประทับพยาบาลที่โรงพยาบาลได้ refer ยายที่ป่วยไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง โดยตาและยายบอกว่าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเพราะไม่มีเงิน ถึงแม้จะไม่ใช่หน้าที่พยาบาลท่านนั้นก็ยินดี โดยพาไปทำบัตร และส่งยายไปโรงพยาบาลอีกโรงพยาบาลหนึ่งด้วยความเต็มใจ
จริงๆๆแล้วมีตัวอย่างเรื่องเล่าดีๆๆอีกมากเลย ถ้าผู้เขียนเล่าก็คงอีกหลายวัน อิอิๆๆ ในส่วนของ AAR นั้น ผู้เข้าร่วมกิจกรรมบอกว่า
- ได้รับกระบวนการใหม่ ได้มีโอกาสสะท้อนความคิดของตนเอง
- ได้ความรู้ว่าควรมองอะไรในด้านจิตใจมากขึ้นกว่าเดิม
- ได้เรียนรู้ว่า ควรใช้วิชาการและใจในการบริการผู้ป่วย
- คิดว่าจะนำเอากระบวนการใหม่นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านงานบริการ
- ได้เรียนรู้ว่าควรมีความรักกับทุกคนในครอบครัวและที่ทำงานทำให้ตนเองได้ย้อนกลับมานั่งคิดและมองตนเองมากขึ้น
นี่เป็นเพียงบางส่วนของ AAR ที่ผู้เขียนจับประเด็นได้ ต่อไปคงต้องใช้เทคนิคของคุณหมอนนทลี คืออัดเสียงไว้แล้วมาถอดเสียงทีหลัง
ในท้ายสุดของงานเมื่อถ่ายรูปรวมกัน และก่อนจากกันมีการร้องเพลง จับมือกันและกอดกันก่อนจาก ผู้เขียนไม่อยากบรรยาย ให้ดูสายตาผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามชุกและแววตาของผู้เข้าร่วมอบรมดีกว่า
ขอบคุณท่านอาจารย์ยงยุทธ น้องพอลล่า พี่ปู้ น้องปอนด์และพี่น้องๆๆจากโรงพยาบาลทุกๆๆท่านที่ให้โอกาสผู้เขียนได้เรียนรู้สิ่งใหม่เสมอๆๆ(อยากไปอีก อิอิๆๆ)
เป็นทีมงานที่สุดยอดครับพี่น้อง................ คราวหน้าอย่าพลาด...อิอิ.. ระ.แกลง อีกสองรอบ ดีไหมคะ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ขจิต
รักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ
ขอให้มีความสุขน่ะค่ะ....จากใยมด
สวัสดีค่ะ อาจารย์ แวะมาชมกิจกรรม อิอิ อย่างนนี้ต้องมีโครงการ2ค่ะ ฮิๆๆ
สวัสดีครับ
-เรียนรู้ไปกับอ.ขจิต
-อยากบอกว่า แวะไปบล็อกอ.หมอวิจารณ์มา
-หนังสือแนะนำมีมาก ยังอ่านไม่หมด
-AAR และ PEER ที่ทำให้คนเราเกิดภาวะการไว้วางใจกัน
-หากนำPEER ใช้กับผู้เรียน ก่อเกิดความรัก และไว้วางใจ ครูจะได้ใจจากนักเรียนมากโข นักเรียนมีทัศนะคติบวกช่วยเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ได้มากขึ้น
-ขอบคุณค่ะ
มาส่งความคิดถึงค่า...อิอิ - - ขออุ๊บอิ๊บบอกอาจารย์หน่อยว่า พี่พอลล่ายังไม่ตื่นเลยอาจารย์ไปจับตัวมาถ่ายรูป โหดร้ายจิงๆ อิอิ...ตาคนสวยเยิ้มเหมือนเพิ่งตื่นอะค่ะ
พี่พอลล่าขนาดง่วงยังแจ่มเลยนะเนี่ย...
สุดยอดการจัดอบรมนะคะ ผู้เข้าอบรมร้องไห้ ไม่อยากจากวิทยากร
ชอบบรรยากาศแบบนี้จังเลย..
ได้มีโอกาสต้องจัดอบรมคุณครู เรื่อง ครูแกนนำรู้ทันเกม ให้กับ สวช.
อยากขอคำแนะนำ อ.จังเลยค่ะ
สวัสดีคะ..พี่ขจิต
สุดยอด ..เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมาก
เป็นกำลังใจให้กับพยาบาลทุกท่านคะ
สวัสดีค่ะ
- อ่านแล้วประทับใจ ซึ้งใจจังเลยค่ะ
- อยากให้มีกิจกรรมดี ๆ เกิดที่โนนไทยจังเลยค่ะ
- คนเรามักจะชอบหัวโขนที่สวม จนลืมภาพจริงในชีวิตเราไป