สวัสดีครับ จากที่ได้อ่านบันทึก

     ไข้หวัด 2009 : ลดความเหลื่อมล้ำทางความรู้ด้วยการช่วยกันแนะนำวิธีการดูแล และป้องกัน ของน้องมะปรางเปรี้ยว

 ขอรวบรวมวิธีการข้างล่างก็แล้วกันนะครับ

1. ล้าง มือบ่อย เพราะว่าไวรัสหวัดหรือไข้หวัดใหญ่นั้น มักจะติดต่อโดยทางตรง บางคนใช้มือปิดปากขณะจาม แล้วก็เอามือไปจับโทรศัพท์ คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ หรือทำครัวต่อ ก็เป็นการพาเชื้อโรคไปยังสิ่งอื่น เชื้อโรคพวกนี้มีชีวิตอยู่ได้หลายชั่วโมง บางกรณีอยู่ได้ถึงหลายสัปดาห์ พอคนอื่นมาหยิบจับสิ่งของนั้นต่อไปก็ได้รับเชื้อโรค ดังนั้น การล้างมือบ่อยๆ จึงเป็นการป้องกันหวัดได้

2. อย่าใช้มือปิดปากขณะจามและไอ แต่ให้ใช้กระดาษทิชชูรองไว้อีกชั้นหนึ่ง เพราะถ้าเราใช้มือเปล่าปิดปากขณะไอจาม เชื้อโรคก็ยังจะติดอยู่ที่มือ และส่งผ่านเชื้อโรคต่อไปให้คนอื่นได้ ดังนั้น ถ้ารู้สึกว่าจะจามหรือไอก็ให้รีบดึงทิชชูมาไว้ใกล้ตัว ใช้เสร็จแล้วทิ้งทันที แต่ถ้าหากระดาษทิชชูไม่ทันก็ต้องหันหน้าไปทางอื่นที่ไม่มีคนอยู่ใกล้

3. อย่าใช้มือสัมผัสใบหน้า เนื่องจากไวรัสหวัดและไข้หวัดใหญ่นั้นจะเข้าสู่ร่างกายคนเราผ่านทางตา จมูกหรือปาก การใช้มือจับใบหน้าจึงเป็นหนทางหลักที่คนเราจะติดหวัดกัน

4. ดื่มน้ำมากๆ เขาให้คำอธิบายว่า การดื่มน้ำจะช่วยชะล้างระบบในร่างกายให้สะอาด ขับพิษ ให้ความชุ่มชื่น โดยทั่วไปแล้วผู้ใหญ่ควรดื่มน้ำให้ได้ วันละ 8 แก้ว แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราได้รับน้ำเพียงพอหรือยัง ก็ให้สังเกตสีของปัสสาวะถ้าสีใสก็แสดงว่าใช้ได้ แต่ถ้าสีเหลืองเข้มแสดงว่ายังต้องการน้ำอีกมาก

5. เข้าเซาน่า แม้นักวิจัยจะยังอธิบายได้ไม่ชัดเจนนักว่าเซาน่าป้องกันหวัดได้อย่างไร แต่ การศึกษาของเยอรมันเมื่อปี 2532 พบว่า คนที่อบไอน้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เป็นหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่ได้เซาน่าถึงครึ่งหนึ่ง พอจะอธิบายได้ว่าการหายใจเอาอากาศร้อนเข้าไปทำให้ไวรัสหวัดทนไม่ได้

6. อยู่ในที่มีอากาศสดชื่น การได้รับอากาศบริสุทธิ์สดชื่นเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเย็น

7. ออกกำลังแอโรบิกเป็นประจำ การออกกำลังกายแบบนี้จะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ปริมาณของเลือดที่สูบฉีดก็จะมากขึ้น หายใจเร็วขึ้นเพื่อช่วยส่งออกซิเจนจากปอดไปยังเลือด และการออกกำลังอย่างนี้ก็จะช่วยให้เหงื่อออก เมื่ออุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น ก็จะช่วยให้ปราบไวรัสในร่างกายไปตามธรรมชาติ

8. กินอาหารที่มีไฟโตเคมีคอล คำว่า“ไฟโต” หมายถึงพืช และสารเคมีตามธรรมชาติในพืชที่จะให้วิตามินในอาหารเพิ่มขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือเลือกกินพืชผักผลไม้ที่มีสีเขียว สีแดง สีเหลือง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดีกว่ากินวิตามินเป็นเม็ด

9. กินโยเกิร์ต คำแนะนำนี้เขาบอกว่ามาจากการศึกษาหลายชิ้นที่พบว่าการกินโยเกิร์ตไขมันต่ำวันละถ้วย ช่วยลดการเป็นหวัดได้ 25 เปอร์-เซ็นต์ นักวิจัยคิดว่าแบคทีเรียในโยเกิร์ตมีประโยชน์ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ต่อสู้กับโรค

10. อย่าสูบบุหรี่ ข้อนี้อธิบายได้สั้นมากเพราะจากสถิติบอกว่า คนสูบบุหรี่จัดมักเป็นหวัดอย่างรุนแรงและเป็นบ่อย

11. ควรลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากการดื่มหนักจะไปทำลายตับ ซึ่งเป็นตัวกรองขั้นต้นในระบบร่างกาย ผลก็คือคนที่ดื่มเหล้าหนักมักจะติดเชื้อได้ง่าย และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ทำ ให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งไม่ เป็นผลดีต่อร่างกายเลย

 
12. ทำตัวให้ ผ่อนคลาย ปล่อยวาง ถ้าสอนตัวเองให้ทำอย่างนี้ได้ ก็จะสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มโรคได้ตามที่ต้องการ การผ่อนคลายนั้นเป็นเรื่องที่ฝึกฝนกันได้ แต่มิได้หมายถึงว่าไม่ทำอะไรเลย ถ้าคนที่นั่งอยู่เฉยๆ แต่ที่จริงแล้วรู้สึกเบื่อหน่าย สารเคมีในเลือดก็จะไม่เปลี่ยนแปลงเลยด้วย อาจเริ่มหัดผ่อนคลายด้วยการนึกถึงภาพความสุขสงบ ลองทำสักวันละ 30 นาที เป็นเวลาหลายเดือน สักวันหนึ่งก็จะถึงระดับผ่อนคลายแบบสั่งได้

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านครับผม