เรื่องที่ท่านอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

                ผมได้มีโอกาสทราบข้อมูลข่าวสารจากโก้  เพื่อนรุ่นน้องที่ทำงานเดียวกัน บอกเล่าเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ และวิถีการดำเนินชีวิตการปฏิบัติงานของพี่ ๆ ทหารตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสิ่งที่พวกเราๆ ท่านๆ ทุกคนที่อยู่แนวหลัง พอจะช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นได้  ไม่ว่าจะเป็นในรูปของเงินบริจาค สิ่งของ ยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์การแพทย์ หรือแม้แต่การส่งจดหมาย  โปสการ์ด เพื่อให้กำลังใจ 

                โก้เล่าข้อมูลเกี่ยวกับชมรมที่คอยช่วยเหลือในสิ่งที่ผมได้กล่าวไว้ในเบื้องต้น  และมีความประสงค์จะช่วยเหลือในสิ่งที่พอจะช่วยได้ นั่นคือการระดมเงินบริจาคเพื่อนำมาซื้อเสื้อเกราะไว้สำหรับปฏิบัติหน้าที่  ราคาตัวละ 5,000 บาท โก้ชวนผมให้สมัครเป็นกรรมการ และชักชวนเพื่อนๆ ที่รู้จักร่วมกันบริจาคเงินคนละเล็กคนละน้อย เพื่อให้ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้  ชมรมที่โก้แนะนำให้ผมรู้จักคือ  “ชมรมไทยช่วยสันติสุข”

          “ชมรมไทยช่วยสันติสุข”  เป็นชมรมของกลุ่มบุคคลที่ต้องการเห็นความสันติสุขเกิดขึ้นพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้  และต้องการแสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจที่เสียสละ และอุทิศตนในการปฏิบัติหน้าที่ กลุ่มบุคคลในชมรมจึงได้รวมตัวกันขึ้นเพื่อทำประโยชน์ต่อสังคม โดยไม่มีการมุ่งแสวงหาผลกำไรทางการค้า หรือธุรกิจ รวมทั้งไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมด้านการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น

จดหมายจากแนวหน้า

                จดหมายจากพี่น้องทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฝากผ่านมายังชมรมไทยช่วยไทยว่า  “พวกเขาเหล่านั้นยังต้องการขวัญ และกำลังใจจากเพื่อนพ้องพี่น้องไทยที่อยู่ยังแนวหลัง ในทุก ๆ ช่วงเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่” 

          ในวันที่ท่านชมการถ่ายทอดกีฬาโอลิมปิค กีฬาแห่งมวลมนุษย์ชาติ  กีฬาที่สร้างมิตรภาพ และความสามัคคี  ท่านก็ได้ส่งแรงใจแรงเชียร์ไปให้นักกีฬาของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกีฬายกน้ำหนัก ท่านก็อาจส่งแรงใจแรงเชียร์ไปให้ให้เขาเหล่านั้นสามารถยกลูกเหล็กขึ้นได้อย่างไม่มีปัญหา  ท่านอาจส่งแรงใจไปให้นักมวยไทย ให้สามารถชกเอาชนะคู่แข่งไปได้อย่างไร้ข้อกังขา  ชัยชนะและความยิ่งใหญ่ที่ได้มา  สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ  และนี่ก็เช่นเดียวกัน จะแตกต่างกันตรงที่พวกเขาเหล่านี้อยู่ในสนามรบโดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน  ไม่มีเหรียญมาคล้องคอ  ไม่มีเงินรางวัลอัดฉีดเป็นหมื่นเป็นแสน หรือเป็นล้าน

                พวกเขาคือตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ ในอันที่จะปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทย  และนำสันติสุขให้กลับคืนมาสู่ด้ามขวานทองนี้อีกครั้ง  นี่คือโอกาสที่ท่านผู้อ่านที่เป็นคนไทย และรักในผืนแผ่นดินไทยจะได้มีส่วนร่วมในการที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาเหล่านี้ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงตามที่ตั้งเป้าหมายไว้  ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมส่งจดหมาย  โปสการ์ด บอกผ่านความรู้สึกและสิ่งดี ๆ ที่จะเป็นกำลังใจให้แก่ทหาร ตำรวจและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคน  ท่านที่อ่านเรื่องนี้แล้วหากสนใจผมอยากเชิญชวนให้เข้าไปดูที่  http://bannpeeploy.exteen.com/  จะมีรายละเอียดต่าง ๆ บอกไว้อย่างครบถ้วน  หรือท่านที่มีความประสงค์จะร่วมแบ่งปันความรู้สึกดี ๆ และกำลังใจฝากไปให้กับพี่ ๆ ที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ ท่านจะเขียนแสดงความคิดเห็นไว้ในบล็อกของกระผมนี้ก็ยินดีครับ  แล้วผมจะได้ส่งผ่านจดหมาย กำลังใจจากท่านไปให้ทางชมรมฯ 

                โอกาสนี้ผมได้เขียนจดหมายไว้ 1 ฉบับ และได้นำมาลงไว้ให้ท่านอ่านด้วย  และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้จดหมายจากเพื่อนๆ เช่นกันครับ

จากแนวหลังถึงแนวหน้า

29  สิงหาคม  2551

ถึง  :  พี่ ๆ ทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกท่าน

                ผมทราบข่าวจากชมรมไทยช่วยสันติสุขว่า ทางชมรมฯ ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้สนใจร่วมส่งจดหมาย โปสการ์ด มาให้พี่ๆ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกท่าน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน  ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในครั้งนี้

                อยากให้พวกพี่ ๆ ทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านทราบว่า  “ท่านคือตัวแทนของพวกเรา ความเสียสละและความกล้าหาญของท่านทำให้พวกเราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นปกติ ปราศจากข้าศึกศัตรู  ผมขอเป็นตัวแทนคนไทยอีกหลายๆ คน ส่งผ่านกำลังใจมาให้แก่ท่าน ขอให้ทุกท่านปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงดังที่ตั้งเป้าหมายไว้ทุกประการ

                และแด่วีรชนผู้ดับสิ้นไป หากแต่พวกเขายังอยู่ในความทรงจำ เราจะสดุดีพวกเขาด้วยอิฐทุกก้อน ทุกๆ ไร่นาที่เราไถพรวน ด้วยทุกทารกที่ถือกำเนิด และเราจะสอนพวกเขาให้รู้จักเสียสละ รู้จักคุณค่าในชีวิตใหม่ที่ได้รับมา...เพราะนี่คือบ้านของเรา ประเทศของเรา

                                                                                                                                ขอบคุณครับ

                                                                          สรายุธ  เกษมอมร