เมื่อวันที่   25  กรกฎาคม  2550  ที่ผ่านมา  ผมได้จัดสัมมนาวิชาการยุวเกษตรกร  ในระดับจังหวัดขึ้น  ที่ห้องประชุมของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร    โดยมีเป้าหมายจากเดิมที่กรมฯ ได้กำหนดไว้ ประธานสภายุวเกษตรกรอำเภอละ 1 คน  ผมก็ได้ขออนุมัติ ผวจ.ใหม่เป็น  22 คน  คือ เอาประธานจากทุกกลุ่มที่ได้ดำเนินการในปีนี้  อีกทั้งได้เชิญนักส่งเสริมการเกษตรที่ดูแลงานนี้มาร่วมด้วยอีก  11 คน

          กิจกรรมที่ผมได้ดำเนินการสัมมนาฯ ประธานกลุ่มยุวเกษตรกรในโรงเรียน  จำนวน  22 กลุ่ม คือเป็นประธานกลุ่มฯ จากทุกกลุ่ม/โรงเรียนในวันนั้น มีดังนี้ครับ

          เริ่มต้น  หลังจากประธานได้มากล่าวเปิดแล้ว  ด้วยการทักทายพูดคุยเล่าความเป็นไปเป็นมาของกลุ่มยุวเกษตรกร และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การไปฝึกงานของเยาวชนเกษตรที่ประเทศญี่ปุ่น  โดยคุณรังสรรค์  เลิศสูงเนิน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรจากสำนักงานเกษตรอำเภอไทรงาม  ซึ่งได้ไปฝึกงานที่ครอบครัวเกษตรกรที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 8 เดือน  และพอจะสรุปให้น้องๆ ยุวเกษตรกรที่มาร่วมสัมมนาได้ว่า  คนญี่ปุ่นนั้นมีความซื่อสัตย์  ตรงต่อเวลา  มีความขยัน อดทน และไม่อายที่จะประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร 

 
คุณรังสรรค์  เลิศสูงเนิน เล่าประสบการณ์

         จากนั้น ก็มาถึงบทบาทของครูใหญ่จากเกาหลีครับ  ด้วยการนำเสนอวีซีดีเรื่อง  "เสียงกู่จากครูใหญ่"  ซึ่งได้เรียกเสียงหัวเราะ และให้แง่คิดดีๆ  จากการสะท้อนข้อคิดที่ได้รับจากการชมวีซีดีของยุวเกษตรกรทุกคน  เป็นทั้งการฝึกการจับประเด็น-การฝึกความกล้าแสดงออกด้วยการให้พูดเสนอความคิดเห็นทุกคน

 
ชมวีซีดี "เสียงกู่จากครูใหญ่"

ลุงๆ ป้าๆ นักส่งเสริมการเกษตรจากอำเภอ/กิ่งอำเภอ ก็ชมวีซีดีไปพร้อมๆ กัน

          ภาคบ่าย เป็นการคัดเลือกประธานสภายุวเกษตรของจังหวัด  โดยให้ทุกคนที่เข้าร่วมการสัมมนาสมัครเพื่อคัดเลือกเป็นประธาน  ปรากฎว่า มีน้องๆ เสนอตัวเพื่อสมัครเป็นประธานฯ ถึง  6  คน  งานนี้ก็เลยต้องลงคะแนนแบบเปิดเผย  กิจกรรมการคัดเลือกประธานฯ นี้ คุณบุญช่วย   เข็มคง นักส่งเสริมการเกษตรจากกิ่ง อ.โกสัมพีนคร  และน้อบุญส่ง  จอมดวง นักส่งเสริมการเกษตรจาก อ.พรานกระต่าย  อาสาขึ้นมาทำหน้าที่เป็นคุณอำนวย  จนคัดเลือกประธานและ ประธานก็ได้ประชุมเพื่อมอบหมายหน้าที่ ผู้ที่สมัครทุกคนเป็นคณะกรรมการสภายุวเกษตรกรในระดับจังหวัด

 
ยุวฯ น้อยหารือเพื่อแบ่งหน้าที่กันทำ

          ขั้นตอนต่อมา  เป็นการจำลองการประชุมประจำเดือน เพื่อให้ทุกๆ คนได้เห็นรูปแบบของการประชุมอย่างเป็นทางการ  ของการประชุมยุวเกษตรกร  มีการฝึกร้องเพลงมาร์ชยุวเกษตรกร    การฝึกท่องคำปฏิญาณของยุวเกษตรกร      

การจำลองเพื่อเรียนรู้การดำเนินการประชุมฯ

          สุดท้าย เป็นการนำเสนอความก้าวหน้า  หารือถึงปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะจาก ทุกๆ คนที่มาเข้าร่วมการสัมมนา  ทั้งจากสมาชิกยุวฯ  ครูที่ปรึกษา  และจากนักส่งเสริมการเกษตร  เพื่อกำหนดแนวทางในการทำงานร่วมกันต่อไป

       งานนี้มีสิ่งดีๆ ที่เป็นสัญญาณบอกถึงความสำเร็จของงานในหลายๆ ประเด็นครับ อาทิ

• มีคนมาเข้าร่วมสัมมนาฯ เกินเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ครับ สมาชิกยุวเกษตรกรมาเกินเป้าหมายจาก 22 คน  เป็น 30 กว่าคน  ถามนักส่งเสริมที่พามาเขาบอกว่าอยากมาเรียนรู้
• วันนี้นอกจากจะมีพี่เลี้ยงคือ นวส.ที่ดูแลงานส่งเสริมกลุ่มยุวเกษตรกรมาร่วมทุกอำเภอ/กิ่งอำเภอ จำนวน  11 คน แล้ว ยังมีครูที่ปรึกษา ตามเด็กยุวมาเข้าร่วมสัมมนาอีก  3  ท่านครับ
• การจัดสัมมนาแม้ว่าที่จะคับแคบเพราะจำนวนคนที่มาเกินเป้าหมาย  แต่กิจกรรมต่างๆ ก็ดำเนินการไปด้วยความกระชับและรวดเร็ว
• ทุกฝ่าย ได้มาร่วมกันเรียนรู้ หารือ เพื่อกหนดแนวทางการทำงานร่วมกัน  ซึ่งมีความเห็นพ้องต้องกันว่า  จะทำงานส่งเสริมกลุ่มยุวฯ นี้โดยไม่ยึดติดกับตัว งปม. หรือระยะเวลาของโครงการ  ครูที่ปรึกษาก็เล่าว่าจะทำให้ดีที่สุด  นักส่งเสริมก็อาสาว่าจะเข้าไปติดตามอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
• ก็คงพอจะเห็นทางสว่างรำไรว่าอาชีพการเกษตรนี้ จะยังมีคนเรียนรู้เพื่อเติมในการประกอบอาชีพการเกษตรตามที่ตนสนใจ นอกจากการเรียนในระบบตามปกติ
• งานนี้มีผู้สนใจ วีซีดี "เสียงกูจากครูใหญ่" กันมาก  ผมก็เลยอาสาเขียนแจกให้ทุกอำเภอ/กิ่งอำเภอ เอาไว้ใช้ประโยชน์กันเสียเลยอย่างถ้วนหน้า (ส่วนท่านที่ขอผ่านบล็อกก็รออีกซักนิดนะครับเดี๋ยวจัดส่งให้ครับ)
• ฯลฯ

        แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ของเด็กๆ เยาวชนเกษตร  แต่นักส่งเสริมการเกษตร-นักพัฒนาก็ไม่ควรที่จะมองข้ามนะครับ ต้องให้ความสำคัญ    ปัจจุบันคนกำลังมองข้ามอาชีพการเกษตร เพราะคิดว่าทำงานหนัก-ยากจน    และเยาวชนเกษตร คือกลุ่มยุวเกษตรกรเหล่านี้นี่แหละที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเกษตร  ดังนั้นพวกเขาเหล่านี้ก็คืออนาคตของเรานะครับ

บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ

วีรยุทธ  สมป่าสัก  27 ก.ค. 2550