ตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่สถาบันเอชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) เพราะได้มาเข้ารับการอบรมตามโครงการสร้างและพัฒนาเกษตรกรคลื่นลูกใหม่ รุ่นที่ 7 ระหว่าง 25-30 สิงหาคม 2551 ซึ่งความเป็นมาและรายละเอียดนั้นสามารถอ่านได้เพิ่มเติมที่ เว็บไซต์ของเกษตรกรคลื่นลูกใหม่คลิกที่ http://www.newwavefarmer.com/
ช่วงเช้าของวันนี้ได้มีโอกาสฟัง ศ.ดร.คุนิยะโก๊ะ (อาจเขียนผิดต้องขออภัย) ซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นได้กล่าวในพิธีเปิด (แปลโดย รศ.ดร.สามชาย ชคตระการ) ส่วนหนึ่งของคำกล่าวซึ่งผมเห็นว่าน่าสนใจมาก เป็นทั้งการให้กำลังใจ และกระตุ้นผู้เข้ารับการอบรม ที่เกือบทั้งหมดเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ของบ้านเรา ที่มาจากทุกภาค (ส่วนพวกผมมาอบรมร่วมในฐานะพี่เลี่ยงของแต่ละจังหวัด) ความตอนหนึ่งของคำกล่าวพอจะสรุปได้ดังนี้ครับ
แม้จะฟังจากการแปล แต่ผมคิดว่าเป็นการให้กำลังใจ และกระตุ้นให้เกษตรกรคลื่นลูกใหม่ ได้เป็นอย่างดี ให้ตระหนักถึงความสำคัญของอาชีพการเกษตร ที่เป็นอาชีพหลักของคนไทยมาช้านาน ...แต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่กำลังมองข้ามอาชีพนี้ ต้องขอขอบพระคุณ ศ.ดร.คุนิยะโก๊ะ กรมส่งเสริมการเกษตรและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ได้จัดการอบรมโครงการนี้ขึ้น
แม้ว่าหลักสูตรจะออกแบบไว้ให้กับเกษตรกรคลื่นลูกใหม่ แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าเมื่อเรามาร่วมการอบรมแล้วเราจะไม่ได้อะไรกลับไป แต่หากว่าเราทำตัวเป็น "น้ำที่ไม่เต็มแก้ว เราก็จะได้รับการเติมความรู้อยู่ตลอดเวลา" และได้เรียนรู้อะไรใหม่อยู่ตลอดเวลาเพราะความรู้นั้นมีอยู่ทุกๆ ที่และในทุกๆ คน
คิดว่าญี่ปุ่นจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้เราเรียนรู้เรื่องนี้นะคะ เพราะเขาคำนึงถึงคุณภาพทั้งของเกษตรกร ผลผลิต และสิ่งแวดล้อม เวลาดูสารคดีประเทศญี่ปุ่นเกี่ยวกับการเกษตรและชีวิตชนบทชอบมากเลยค่ะ
แล้วจะมาตามอ่านสรุปสาระการประชุมค่ะ
คุณครู
ดีด้วยนะ อาจารย์ยุทธที่เข้าร่วมอบรมเกษตรกรคลื่นลูกใหม่รุ่นที่ ๗ แล้ว
ผมผ่านมาแล้วเห็นด้วยที่ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมต่อภาคเกษตรกรรมดีกว่าหลายประเทศ
สวัสดีครับสิงห์ป่าสัก ห่างเหินไปนานมีแต่งานยุ่ง ๆ วันนี้พอมีโอกาสเลยแวะมาให้กำลังใจคนเก่งนะ
สวัสดีครับผมรุ่นที่9ครับ ผมเลี้ยงพันธุ์ครับที่สำคัญพิษผึ้งสามารถต่อยรักษาโรคปวดตามข้อหือตามเส้นเอ็นได้ผลอย่างดีเยี่ยม กล้าลองกล้าหาย