คติที่ ๒๓ ทำความดีอะไรก็ทำเถิด แต่เรื่องทานอย่าละทิ้ง ฯ
ทำความดีอะไรก็ทำเถิด แต่เรื่องทานอย่าละทิ้ง
นอกจากเป็นการสงเคราะห์เอื้อเฟื้อกั
เมื่อไปเกิดในภพชาติต่อไป จะได้ไม่แห้งแล้ง(ยากจน)
นี่เป็นคำสอนของหลวงพ่อ จะทำความดีอะไรก็ทำไป แต่อย่าลืมสร้างทานบารมี เพราะทานบารมีจะส่งผลไม่ให้เกิดความขัดสนในภพเบื้องหน้า
หากจะว่าไปแล้ว งานของหลวงพ่อก็คือเจริญทาน เจริญศีล เจริญภาวนา อันเป็นข้อประพฤติของโพธิ์สัตว์ แต่ทานบารมีเป็นฐานของบารมีทั้งหลาย หากไม่มีทานบารมีรองรับแล้ว บารมีอื่นบำเพ็ญได้ยาก เมื่อเกิดความขัดสนขึ้นแล้วไม่ว่าจะทำการใดๆ จะขัดข้องด้วยประการทั้งปวง หลวงพ่อท่านสร้างทานบารมีด้วยการตั้งโรงครัวประกอบอาหารเลี้ยงพระ ดังที่เราทราบนั้น อุบาสิกาญาณี ศิริโวหาร เล่าว่าเริ่มเลี้ยงมาตั้งแต่ มื้อละ ๒ บาท เดี๋ยวนี้ไม่ทราบว่ามื้อละกี่หมื่นบาท
ความรู้ว่าด้วยทานบารมีนี้ เคยได้ยินอุบาสิกาถนอม อาสไวย์เล่าให้ฟัง หลวงพ่อท่านทราบว่าอุบาสิกาถนอมจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยงพระท่านเรียกไปสอนว่า ถ้าจะเลี้ยงต้องเลี้ยงให้เหลือเฟือ เราจะได้ไปพบแต่เหลือเฟือ หากเราเลี้ยงแบบพอดี หมูหมากาไก่ก็ไม่ได้กินกับเขา
บารมีทานนี้สร้างได้ยาก ต้องมีนิสัยปัจจัยมาแต่ปางหลังจึงจะทำได้สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์ ท่านใส่บาตรทุกวัน ตอนเช้าท่านไปยืนหน้าวัด พระกลับจากบิณฑบาตตัองไปรับอาหารใส่บาตรจาดท่านก่อนจะเข้าวัด ทรงเล่าว่า วันใดไม่ได้ใส่บาตรเกิดความไม่สบายใจ
อีกรูปหนึ่ง จำลองแบบหลวงพ่อทีเดียว หลวงพ่อทำอย่างไรท่านก็ทำตาม หลวงพ่อตั้งสำนักบาลี ท่านก็ทำตาม หลวงพ่อมีโรงครัวท่านก็ทำตาม แต่วิปัสสนาธุระ ท่านมอบให้ข้าพเจ้าไปสอนที่วัดของท่าน ท่านผู้นี้ก็คือ ท่านเจ้าคณะอำเภอป่าโมก (พระครูปาโมกข์คณารักษ์) จังหวัดอ่างทอง ชีวิตข้าราชการของข้าพเจ้าย้ายไปเป็นศึกษาธิการอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ได้รู้จักท่าน และก็ชอบพอกัน ท่านตั้งโรงครัวเลี้ยงพระ มีพระ ๖๐ รูป สามเณร ๑๐๐ รูป เด็กวัด ๒๐๐ คน วันใดมีราชการไปตรวจโรงเรียน ถือโอกาสเยี่ยมวัดด้วย เห็นท่านมีโรงครัว ท่านบอกว่าทำมานานแล้ว เอาแบบหลวงพ่อวัดปากน้ำ พระเณรของท่านมีจำนวนมากจะพึ่งอาหารบิณฑบาตไม่ได้ จึงตั้งโรงครัวขึ้น ทำมานานแล้ว สำนักเรียนบาลีของท่าน ได้เปรียญ ๙ ประโยคไปหลายรูปแล้ว พูดถึงเปรียญ ๙ ประโยคแล้ว ท่านดีใจมาก ท่านบอกว่าตัวท่านความรู้แค่ นธ.เอก แต่ทำให้ลูกศิษย์เป็นเปรียญไปมากแล้ว หากพูดถึงเปรียญแล้วเป็นที่ถูกใจและคุยกันได้นาน คุยไปคุยมา จึงทราบว่าท่านพระครูปาโมกข์ ฯ ศรัทธาสมเด็จป๋า
สมเด็จป๋าทรงมีเสน่ห์อย่างไรไม่ทราบ ไม่ว่าใครนิยมท่านทั้งนั้น ส่วนใหญ่เขาเรียกป๋า นานๆ จะได้ยินสมเด็จป๋า ทางฝ่ายสงฆ์มักเรียกสมเด็จป๋า แต่ฆราวาสแล้วเห็นเรีบกป๋ากันทั้งนั้น ใครจะเรียกอย่างไรป๋าขนารับทั้งนั้น
ความนิยมในสมเด็จป๋ามีอย่างไร แม้ท่านพระครูปาโมกข์ ฯ ยังเล่าถึงว่า
"ศึกษา ฯ รู้ไหม"
"อะไรหรือใต้เท้า"
"ป๋าเราเฮี้ยนใหญ่แล้ว"
"เฮี้ยนอย่างไรหรือใต้เท้า"
"เวลานี้ใครจะถ่ายรูปป๋า ถ้าป๋าไม่อนุญาตแล้ว ถ่ายรูปไม่ติด"
เราฟังแค่นี้ก็ทราบความ พระในบังคับบัญชาของป๋า รักป๋าทั้งนั้น จะไม่ให้คนนิยมป๋าได้อย่างไร ก็หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านติวเข้มป๋ามาตลอด เรื่องราวของป๋ากับหลวงพ่อยังสนุกอีกมาก โปรดอ่านหนังสือ "อภินิหารหลวงพ่อวัดปากน้ำ" ได้บรรยายละเอียดแล้วในหนังสือเล่มนั้น รับรองว่าสนุกและบัณเทิง สมเด็จป๋าเป็นคู่บารมีของหลวงพ่อวัดปากน้ำ
ชีวิตราชการของข้าพเจ้า ย้ายไปเป็นผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เผยแพร่วิชาธรรมกายที่วัดท่านเจ้าคณะจังหวัดคือวัดเจษฎาราม ซึ่งท่านเจ้าคุณราชสาครมุนี เป็นเจ้าอาวาส การเผนแพร่ดำเนินมาถึงจุดหนึ่ง ได้ปรารภต่อเจ้าคุณว่า ควรอาราธนาพระเถระที่เป็นธรรมกายมาเลี้ยงที่วัดเรา ก็จะเป็นทานอันใหญ่ ท่านเจ้าคณะจังหวัดขานรับทันที ได้อาราธนาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ครั้งนั้นยังเป็นพระพรหมคุณาภรณ์) สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ครั้งนั้นยังเป็นพระธรรมธีรราชมหามุนี) และพระเถระอื่น งานถวายทานพระที่เป็นธรรมกายเสร็จไปแล้ว ยังมีผลให้งานเผยแพร่วิชาธรรมกายกว้างไกลไปด้วย ต่อมาข้พเจ้าย้ายไปเป็นผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดจันทบุรี การติดต่อระหว่างข้าพเจ้ากับท่านคณะจังหวัดชักเหินห่างกัน แต่งานเผยแพร่วิชาธรรมกายยังประสานกันอยู่ แต่ก็เกิดเหตุขัดใจกันขึ้นโดยบังเอิญ คือท่านเจ้าคณะจังหวัดจัดบรรพชาสามเณรฤดูร้อน ข้าพเจ้ารับคำว่าจะไปสอนวิปัสสนาให้ ถึงขนาดว่า กระทรวงศึกษาธิการทำหนังสือขอตัวไปที่จังหวัดจันทบุรี ข้าพเจ้ามีความตั้งใจจะมารับใช้ แต่เกิดเหตุทางราชการขึ้น ข้าพเจ้าเดินทางไปรับใช้ท่านเจ้าคณะจังหวัดไม่ได้ จึงเกิดการขุ่นใจกันมาแต่วันนั้น
การติดต่อระหว่างข้าพเจ้าและท่านเจ้าคณะจังหวัด ไม่เสมอต้นเสมอปลายเหมือนกาลก่อน เพราะเราอยู่กันคนละจังหวัด ท่านเจ้าคณะจังหวัดคงเคืองข้าพเจ้า แม้อาพาธก็ไม่บอกให้ข้าพเจ้าทราบ ข้าพเจ้าทราบข่าวมรณภาพจากหนังสือพิมพ์ ทันใดที่ทราบข่าว เพราะเป็นข่าวด่วน เนื่องจากท่านเจ้าคณะจังหวัดเป็นพระเถระสำคัญ ข้าพเจ้ารับเข้าวิชาธรรมกายทันที เข้าปกป้องท่านเจ้าคณะจังหวัดอย่างทันด่วน ท่านเจ้าคณะจังหวัดไปไหน อยู่ที่ใด เรื่องนี้ขอให้อ่านหนังสือ "อภินิหารหลวงพ่อวัดปากน้ำ" ได้กล่าวละเอียดแล้วในหนังสือที่กล่าวนั้น ข้าพเจ้าต้องปกป้อง เพราะท่านเจ้าคณะจังหวัดช่วยข้าพเจ้าเผยแพร่วิชาธรรมกายมาด้วยกัน
*****************************************************************************
ข้อมูลจาก หนังสือคติธรรม คตินิยม การดำเนินชีวิต ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ
ไม่มีความเห็น