ทำไม
พระอริยคุณาธาร(ปุสโสเส็ง
)พระอาจารย์ของพระอาจารย์สิงห์จึงต้องไปสืบปฏิปทาหลวงพ่อวัดปากน้ำในทางลับ
คณะสงฆ์ทั้งฝ่ายมหานิกายและคณะธรรมยุติได้ส่งสายมาสืบปฏิปทาหลวงพ่อในทางลับ
เมื่อคำว่า “ธรรมกาย” แพร่หลายออกไป
ถึงกับเข้าหูท่านผู้เป็นนักปราชญ์มหาบัณฑิต
ทำความฉงนสนเท่ห์ให้เกิดในคณะสงฆ์
บางท่านปลงใจว่าหลวงพ่อมีความรู้และปฏิบัติธรรมเกินธง
ถึงกับมีประชุมลับกันในพระเถระผู้ใหญ่และผู้เชี่ยวชาญกรรมฐาน
ส่วนมากลงความเห็นหนักไปทางการละเมิดพระวินัย
เข้าขั้นอวดอุตริมนุสธรรม ยกโทษสูงถึงเพียงนั้น
ท่วงทีก็หาทางเพื่อจะคว่ำบาตรหลวงพ่อ
สงฆ์คณะมหานิกาย “มีพระเถระรูปหนึ่ง ได้รับเกียรติเข้าประชุมอยู่ด้วย
ท่านผู้นี้พูดว่าอันอุตริมนุส ธรรมนี้เป็นคำที่แปลว่า
เป็นธรรมของมนุษย์อันยอดยิ่ง
คือเป็นธรรมสูงสุดของมนุษย์ทางพระพุทธศาสนา
เมื่อใครผู้ใดเข้าถึงแล้วย่อมข้ามพ้นโอฆะทั้งมวลถึงฝั่งพระนิพพานอันไม่มีภพชาติสืบต่อไป
แต่ผู้ที่จะเข้าถึงอุตริมนุสธรรมต้องเป็นคนที่มีบารมีสูง
มีความเพียรมาก งามทั้งปริยัติ งามทั้งปฏิบัติ งามทั้งศีลาจารวัตร์
ต้องมีสัจจะประจำสันดาน ไม่ใช่วิสัยคนพอดีพอร้าย ต้องเป็นคนใจกล้า
เสียสละ มีเมตตาสูง
เจ้าคุณวัดปากน้ำ เป็นคณาจารย์กล้าพูดกล้าสอน
ไม่มีความครั่นคร้ามต่อใครผู้ใด เมื่อเห็นดีอย่างไร
ก็ปฏิบัติไปตามความเห็น น่าจะมีความบริสุทธิ์ใจตามความรู้ความเห็น
แม้แต่พระพุทธเจ้าเมื่อจะทรงประกาศสัจจะธรรมก็ตรัสแก่เบญจวัคคีย์ว่า
เมื่อญาณทัศนะยังไม่บริสุทธิ์ตราบใด
เราก็ไม่สามารถปฏิญาณความเป็นพระสัมพุทธะแก่สมณพราหมณ์ ประชาชน
แก่เทวดา และมนุษย์โลก มารโลก พรหมโลกได้ ที่พระองค์กล้าปฏิญาณได้
ก็เพราะได้ญาณทัศนะ รู้ความจริงแล้ว
นี่เป็นข้อความที่จำต้องคำนึงถึงเป็นบทมาติกาก่อน
เจ้าคุณวัดปากน้ำตามเสียงพูดกันมีเมตตาธรรมสูง ให้การศึกษาทั้งปริยัติ
ทั้งการปฏิบัติแก่ภิกษุสามเณรวัดปากน้ำไม่น้อยกว่า๓๐๐รูป
สอบนักธรรมและบาลีในสนามหลวงได้จำนวนตั้ง ๑๐๐ ลองตรึกตรองดูบ้างว่า
ในประเทศไทยวัดไหนทำประโยชน์ศาสนาถึงขนาดนี้
ถวายอาหารบิณฑบาตแก่พระภิกษุสามเณรทุกวัน ทุกเวลา เป็นจำนวนตั้ง ๓๐๐
ถึง ๔๐๐ องค์ ใครทำได้อย่างนี้
เจ้าคุณวัดปากน้ำจะเข้าขั้นไหนเราไม่ทราบ
แต่ควรคิดไว้ก่อนว่า สำนักวัดปากน้ำสอนมานาน พูดมานานแล้ว
ธรรมวัดปากน้ำยังไม่เสื่อม มีแต่เพิ่มผู้ปฏิบัติยิ่งขึ้น
ท่านยังตั้งเจตนาจะรับพระภิกษุสามเณรให้เข้ารับการศึกษาถึง ๕๐๐ องค์
เฉพาะวัดปากน้ำ ลักษณะนี้น่าจะมีอะไรดีอยู่มาก
ถ้าเป็นเจตนาลวงโลกคงอยู่ไม่ได้ถึงเพียงนี้
เท่าที่พบมาพระอาจารย์ลามกอยู่ได้ ๕ – ๖ ปีก็สาบสูญไป
แต่วัดปากน้ำสู้หน้าโลกโดยไม่ตกต่ำ
ก็น่าจะมีอะไรดีเป็นหลักประกันอยู่มาก
พวกเราที่มาพิจารณาโทษวัดปากน้ำทั้งหมดนี้
ความจริงก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางพระกรรมฐานมากนัก รู้พอรักษาตัวรอดได้
ความรู้ทางธรรมปฏิบัติก็มีความลุ่มลึกสุขุมแตกต่างกัน
แม้พระอรหันต์ก็ยังต่างกันโดยคุณสมบัติ
อุตริมนุสธรรมนั้นผู้ปฏิบัติพึงรู้พึงถึง
ต้องสามารถดำเนินปฏิปทาทางจิต มีวิริยะอย่างอุกฤษฏ์
พวกเรายังปฏิบัติไม่เข้าขั้นเช่นนี้
จะไปลงโทษผู้เชี่ยวชาญกรรมฐานได้อย่างไร เอาความรู้อะไรไปลงโทษเขา
ที่ประชุมยอมรับความเห็นนั้น และให้พระเถระรูปนี้มาสอบสวนเป็นทางลับ
และท่านมาในฐานะเป็นผู้สนใจในการปฏิบัติธรรม
ในที่สุดเรื่องร้ายไม่เกิดขึ้น
และไม่ถูกสงสัยในแง่อุตริมนุสธรรมอีกต่อไป”
(สมเด็จพระสังฆราชปุ่นครั้งมีสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระวันรัต, ๒๕๒๙,
ประวัติพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ)และอนุภาพธรรมกาย ใน
พระมงคลเทพมุนี ประวัติหลวงพ่อ และคู่มือสมภาร. วัดปากน้ำ, ภาษีเจริญ,
และสมาคมศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ ไทยวัฒนาพานิช
จำกัด, หน้า๑๐๖ )
สงฆ์คณะธรรมยุต
ท่านเจ้าคุณพระอริยคุณาธาร(ปุสโสเส็ง )หรือฤาษีสันตจิต
ท่านเป็นศิษย์รุ่นแรกของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ท่านเป็นอาจารย์ของพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม
แม่ทัพธรรมสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชชาทิพยอำนาจ เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๔๙๓
ท่านได้มีโอกาสเข้ามาในพระนคร ได้ยินเสียงโจษจันกันถึงเรื่องที่
หลวงพ่อวัดปากน้ำ
ได้พบเห็นเฝ้าแหนพระพุทธเจ้าและแสดงปาฏิหาริย์ให้คนเห็นพระพุทธเจ้าด้วย
มีพระเถระชั้นผู้ใหญ่สงสัย และได้ปรึกษาเรื่องนี้กับท่าน
ท่านแนะนำว่าควรไปสืบดูก่อน
อย่าด่วนโต้แย้งคัดค้าน
เมื่อท่านไปพบหลวงพ่อแล้ว
ท่านจึงเข้าใจหลวงพ่อด้วยดี ในกรณีของหลวงพ่อ
แสดงปาฏิหาริย์ในเรื่องพระพุทธเจ้านั้น เข้าใจว่าท่านมุ่งต่อต้าน
ปรับปวาท (คือวาทะของผู้เป็นปฏิปักษ์ต่อพระพุทธศาสนา
ซึ่งกำลังมีอิทธิพลและได้รับความสนับสนุนอย่างดีในระยะกาลนั้นเป็นประมาณ
ไม่ได้มุ่งอวดอ้างเพื่อลาภสักการะยศศักดิ์แต่ประการใด
ท่านจึงได้อนุโมทนาและได้ช่วยยับยั้งพระเถระผู้ใหญ่
มิให้แสดงปฏิกริยาเป็นปฏิปักษ์ต่อหลวงพ่อ
ดังใจความที่คัดจากหนังสืออิทธิปาฏิหาริย์ เกจิอาจารย์ ของดวงธรรม
โชนเชิดประทีป, ๒๕๐๗, กรุงเทพฯ: บรรณาคาร, หน้า ๓ –๖ มีความว่าดังนี้
:
“ เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ข้าพเจ้า( พระอริยคุณาธาร ปุสฺโสเส็ง )
ได้มีโอกาสเข้าไปในพระนคร ได้ยินเสียงโจษจันกันถึงเรื่องที่
หลวงพ่อวัดปากน้ำ
ได้พบเห็นเฝ้าแหนพระพุทธเจ้าและแสดงปาฏิหาริย์ให้คนเห็นพระพุทธเจ้าด้วย
มีผู้สงสัยกันมาก พระเถระชั้นผู้ใหญ่ก็สงสัย
บางท่านทำทีจะโต้แย้งคัดค้าน และได้ปรึกษาเรื่องนี้กะข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าแนะนำว่าควรจะสืบสวนให้รู้ถ่องแท้ก่อน อย่าด่วนโต้แย้งคัดค้าน
เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรู้ลึกซึ้ง
อันยากแก่การพิสูจน์อิทธิวิสัย เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึง
และอภิญญาเป็นวิชชาชั้นสูงในพระพุทธศาสนา
ถ้าเรารู้ไม่ถึงแล้วด่วนคัดค้านโต้แย้ง อาจได้รับความอับอายภายหลัง
ท่านผู้นั้นขอร้องข้าพเจ้าให้เป็นผู้สืบสวน
ข้าพเจ้ารับภาระนั้นด้วยเห็นแก่ความสวัสดีของพระพุทธศาสนา
วันหนึ่งข้าพเจ้ามีโอกาสดี ให้คนไปพบปะสนทนากับหลวงพ่อ ท่านนัด ๑๖. ๐๐
น. ข้าพเจ้าไปวัดปากน้ำตามเวลานัด
ขณะนั้นหลวงพ่อยังอยู่ในที่ฝึกภาวนาแก่ภิกษุสามเณร อุบาสก-อุบาสิกา
ข้าพเจ้ารอคอยอยู่ที่รับแขกราวครึ่งชั่วโมง มีคนไปบอกหลวงพ่อ
ท่านออกมาปฏิสันถารเมื่อรู้ว่าเป็นบุคคลที่นัดไว้
จึงนำไปที่กุฏิของท่าน เพื่อมีโอกาสสนทนาโดยเฉพาะ
เมื่อผ่านการปราศัยไต่ถามชื่อเสียงเรียงนามตำแหน่งแห่งที่พอรู้เรื่องแล้ว
หลวงพ่อพูดถึงแนวการปฏิบัติและแนวการสอนของท่าน
พร้อมกับเล่าเรื่องไปเฝ้าพระพุทธเจ้าให้ฟัง
ข้าพเจ้าสอบถามพระพุทธลักษณะกับหลวงพ่อเล็กน้อย
ท่านชี้ให้ดูพระพุทธรูปว่ามีลักษณะอย่างนั้น และมีพระเกตุมาลายอดแหลม
เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า หลวงพ่อให้หนังสือ “ธรรมกาย” แก่ข้าพเจ้า ๑
เล่ม ส่วนข้าพเจ้าได้ตอบแทนท่านด้วยหนังสือ “สีลวัต” ๑ เล่ม
จากคุณ : ธารณธรรม
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
อ่านแล้วรู้สึกทึ่ง..
คนเรามีหลายแบบ ที่ใช้ปัญญาไตร่ตรองก็มี ที่ไม่รู้แล้วพูดก็มี ที่ไม่รู้แล้วทำลายล้างและทำให้คนอื่นอคติได้ก็มี
ผู้ปฎิบัติจริงย่อมเข้าใจซึ่งกัน
ผู้ที่ไม่ได้ปฎิบัติ ก็ควรทำ ให้รู้กับตนก่อนค่อยกล่าวหา บาปจะได้ไม่เกิด
ขอบคุณคุณปราชญ์ขยะมากค่ะ
1.ปราชญ์ กับปราชญ์ ย่อมหยั่งรู้ถึงกัน (พระอริยคุณาธาร เส็ง ปุสโส กับหลวงพ่อ)
2.ปี พ.ศ.2517-2518 ข้าพเจ้าเคยเรียนถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำว่า หลวงพ่อวัดปากน้ำเก่งไหม ท่านบอกว่าอาตมารับรองว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำเก่งมาก แต่ศิษย์รุ่นหลังๆ ไม่รับรอง (เข้าใจว่าศิษย์รุ่นหลังๆนั้นเก่งไม่เท่าหลวงพ่อฤาษี)
สรุป -เมื่อได้ยินพระอริยทั้งสองรูปรับรองแล้ว ไม่ต้องไปสนใจลูกนกลูกกาที่ยังเดินต้วมเตี้ยมมากล่าวโทษหลวงพ่อ เลย เพราะลูกนกลูกกาเหล่านั้น ยังเทียบไม่ได้กับพระอริยะทั้งสองรูปนั้นเสียด้วยซ้ำไป
3.เคยอ่านประวัติหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่องเจ้าคุณลงนรก มาแล้ว ปัจจุบันก็คงจะมีอีก
(วิบากกรรมที่ได้ล่วงเกินพระอริยบุคคล (ระดับพุทธภูมิ)
(ต้องขอโทษศิษย์หลวงพ่อฤาษีด้วยที่เอ่ยนามท่าน แต่หลวงพ่อฤาษีก็ยกย่องบูชาหลวงพ่อตลอดเวลา และข้าพเจ้าก็เคารพบูชาทั้งหลวงพ่อ และหลวงพ่อฤาษีด้วยเช่นกัน)