ขอบคุณครับท่านอาจารย์หมอ JJ สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากสำหรับเราทีม NUKM แล้วทางเราจะทำการประสานงานต่อไปครับ
ขอบคุณคุณบุญถึงครับ ที่กรุณาพูดคุยกับผมในเรื่องนี้ และต้องขอโทษด้วยที่ตอบช้าไปหน่อย
ผมไม่ทราบว่าคุณบุญถึงเข้าไปทั้งสองพื้นที่ในช่วงเวลาไหนครับ
ผมเข้าไปตอนที่ทุกอย่างมันสาหัส ต้องการน้ำใจจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน กลับมาเขียนบันทึกลง blog จึงไม่มีบทวิเคราะห์ที่จะต้องไปหาความผิดเอาอะไรจากใคร มันเป็นเรื่องของกาลเทศะ และถ้าจะให้วิเคราะห์กันในเชิงวิชาการจริง ๆ ผมก็ยอมรับว่า ผมไม่ใช่นักวิชาการด้านนี้ แต่เท่าที่ผมฟัง ๆ มาจากคนอื่น ๆ ก็จะมีความเห็นเหมือน ๆ กับที่คุณบุญถึงวิเคราะห์ทุกประการ ตัวผมเองก็เห็นด้วย
ปัญหาเรื่องการตัดไม้ทำลายป่ามีอยู่ทั่วไปในประเทศไทย ไม่เฉพาะแต่ที่ท่าปลากับลับแล เพียงแต่ว่าทั้งสองพื้นที่นี้โชคไม่ดีที่ฝนมาตกลงมาหนักมาก หนักติดต่อกันหลายวันเป็นประวัติการอีกด้วย และที่สำคัญคือเป็นช่วงต้นฤดูฝนอีกด้วย พื้นดินช่วงล่างยังแห้งอยู่ ส่วนช่วงบนเปียกมากและอุ้มน้ำไม่ไหว จึงเกิดการเลื่อนแยกตัวออกจากกัน
ในมุมมองของผม ผมคิดว่า ถ้าปริมาณน้ำฝนไม่หนักมากกว่าทุกปี และถ้าฝนไม่ตกหนักมากตอนต้นฤดูอย่างนี้ เหตุการณ์นี้อาจจะยังไม่เกิด และมันไม่ใช่เฉพาะที่ลับแลกับท่าปลาเท่านั้นครับ ทุกจังหวัดที่มีการตัดไม้ทำลายป่าก็มีโอกาสเกิดเช่นนี้ด้วยกันทั้งหมด
เรื่องการบุกรุกและตัดไม้ทำลายป่านี่ ผมจนปัญญาจริง ๆ ครับ ที่จะให้ความเห็นว่าจะแก้ไขได้อย่างไร ถ้าคุณบุญถึงมีความคิดดี ๆ จะกรุณาพูดคุยกันต่อ ก็จะขอบคุณมากเลยครับ จะได้แก้กันถึงต้นเหตุของปัญหากันจริง ๆ สักที
วิบูลย์ วัฒนาธร