พัฒนาขึ้นโดย ผศ. ดร. ศักดา สวาทะนันทน์ คณะศึกษาศาสตร์ มช. โดยท่านอธิบายไว้ในวิดีทัศน์นี้ ได้รับทุนวิจัยตามข่าว (๑) เริ่มในปี ๒๕๖๔ ต่อมาหลักสูตรนี้ขยายไปที่จังหวัดขอนแก่น และปัตตานี ภายใต้การสนับสนุนของแผนงานวิจัยมุ่งเป้า “การพัฒนาระบบบริการสุขภาพด้านการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร จากล่างสู่บน” ที่มี ศ. นพ. สุวัฒน์ จริยาเลิศศักดิ์ เป็นประธานแผนงาน
คำอธิบายผลสำเร็จและข้อเสนอแนะของโครงการอยู่ใน PowerPoint (๒) และมี QR Code สำหรับเข้าสู่สื่อนำเสนอดังในรูป
นี่คือนวัตกรรมด้านการศึกษาที่น่าภูมิใจสำหรับประเทศไทย และวงการศึกษาไทยน่าจะส่งเสริมให้ขยายไปทั่วประเทศ โดยแต่ละจังหวัดนำหลักการนี้ไปปรับใช้ให้เหมาะสมตามบริบท
ผมมองว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมเรียนรู้เชิงรุก (active learning) ที่ดี ที่เมื่อนักเรียนได้ฝึกปฏิบัติแล้วสามารถนำมาฝึกสะท้อนคิดว่าตนเองได้เรียนรู้อะไรบ้างในเรื่อง VASK โดยครูก็ได้ฝึกตั้งคำถามเพื่อให้ศิษย์ได้ใคร่ครวญสะท้อนคิดอย่างลึก เพื่อการเรียนรู้ครบทุกมิติของ VASK
ในมิติของ V - Values - ค่านิยมที่ดี ครูอาจตั้งคำถามว่า หากนักเรียนได้มีโอกาสได้ช่วยชีวิตคนอื่นจริงๆ นักเรียนจะรู้สึกอย่างไร เพื่อสร้างค่านิยมด้านการมุ่งทำประโยชน์แก่ผู้อื่น แก่สังคม
ในมิติของการพัฒนา A - Attitude - เจตคติ หรือวิธีคิดที่ดี ในเรื่องต่างๆ รอบตัว ครูอาจตั้งคำถามให้นักเรียนสะท้อนคิดเรื่องสาเหตุที่วันรุ่นต้องเผชิญภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์คืออะไรบ้าง ที่จะนำสู่อุบัติเหตุทางถนน ที่เกิดจากความประมาทคึกคะนองหรือดื่มสุราของมึนเมา เชื่อมโยงสู่การป้องกันโดยการหลีกเลี่ยงสาเหตุดังกล่าว
ในมิติของ K - Knowledge - ความรู้ มีอธิบายอยู่ใน QR Code 2 วิชาสุขศึกษาและพละศึกษา ที่เชื่อมสู่การเรียนรู้ชีววทยาของมนุษย์ได้มากมาย
ส่วนในมิติของ S - Skills - ทักษะ นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะการช่วยชีวิต โดยเฉพาะการปฏิบัติ CPR ซึ่งครูก็สามารถตั้งคำถามให้นักเรียนสะท้อนคิดเพื่อพัฒนาทักษะให้แม่นยำและว่องไวทันกาลยิ่งขึ้น
ย้ำว่า วงการศึกษาไทยน่าจะดำเนินการขยายผลโครงการนี้ไปทั่วประเทศ โดยอาจขอความช่วยเหลือจาก ๓ จังหวัดที่มีประสบการณ์ดำเนินการแล้ว รวมทั้งขอความร่วมมือจากคณะศึกษาศาสตร์ มช.
วิจารณ์ พานิช
๕ มี.ค. ๖๗ ห้อง ๑๐๑๘ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว
QR code
ไม่มีความเห็น