เราๆ ท่านๆ คงจะได้ยินได้ฟังโฆษณา "ลดความอ้วน" แบบอาหารจานด่วน (ฟาสต์ฟูด) มาแล้วไม่มากก็น้อย วันนี้มีข่าวดีสำหรับท่านที่ลดน้ำหนักแบบใจเย็นครับ…
จดหมายข่าวโรงพยาบาลโฮลีครอส สหรัฐฯ แนะนำว่า การลดน้ำหนัก หรือลดความอ้วนแบบเร่งด่วนอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วถุงน้ำดีได้
ถุงน้ำดีอยู่บริเวณกึ่งกลางชายโครงขวา ทว่า… เวลาเกิดนิ่วขึ้นมาอาจทำให้เกิดอาการหลายอย่าง อาการที่พบบ่อยได้แก่
น้ำดีคนเราประกอบด้วยเกลือน้ำดี โคเลสเตอรอล และน้ำปนกัน… น้ำดีทำหน้าที่คล้าย "สบู่" หรือ "ผงซักฟอก" ทำให้น้ำมันกับน้ำรวมตัวกันได้เป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลทำให้น้ำย่อยเข้าไปย่อยไขมันได้อีกต่อหนึ่ง
ตับของเราสร้างน้ำดีคราวละเล็กละน้อย ทยอยสะสมไว้ในถุงน้ำดี
เวลาเรากินอาหารที่มีไขมัน หรือโปรตีน… ถุงน้ำดีก็จะบีบตัว ทำให้น้ำดีไหลเข้าสู่ลำไส้เล็ก ช่วยย่อยไขมันอีกต่อหนึ่ง
โรคอ้วน หรือมีน้ำหนักเกินมีส่วนทำให้ตับสร้างโคเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น จึงอาจเกิดการตกตะกอนเป็นนิ่วถุงน้ำดีได้
คนที่ลดความอ้วน หรือลดน้ำหนักจะเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วถุงน้ำดีมากขึ้นในกรณีดังต่อไปนี้
อาจารย์ท่านแนะนำว่า การลดน้ำหนักแบบต่อไปนี้ปลอดภัยกว่า และไม่ทำให้เสี่ยงต่อนิ่วถุงน้ำดีเพิ่มขึ้นได้แก่…
อาจารย์ท่านแนะนำว่า การลดน้ำหนักให้ได้ 5-10% ของน้ำหนักเดิมในระยะยาว หรือนาน 6 เดือนขึ้นไปมีส่วนช่วยให้สุขภาพดีในระยะยาว
เป้าหมายสำคัญคือ การลดน้ำหนักได้เป็นบางส่วน และมีสุขภาพดีในระยะยาว ไม่ใช่ตัวเลขน้ำหนักที่ลดลงฮวบฮาบ และมักจะไม่ยั่งยืนอะไร… แถมยังเสี่ยงหนังย่น หน้าซูบซีดเนื่องจากการลดน้ำหนักเร็วเกิน และเสี่ยงเจ็บชายโครงขวาจากนิ่วถุงน้ำดีอีกต่างหาก
แหล่งที่มา:
เรียน นพ.วัลลพ ครับ
ผมไม่ได้ลดความอ้วน แต่ผมป่วยเป็นโรคลิ่มเลือดและไปทำอุลตราซาวด์ ดันไปพบก้อนนิ่วในถุงน้ำดีขนาด 2 ซ.ม. ครับ และต้องตัดถุงน้ำดีออกในเดือนนี้
คำถามคือ เมือร่างกายไม่มีถุงน้ำดีแล้ว ตัวเราจะเป็นอย่างไร หากทานอาหารที่มีไขมันเข้าไปแล้ว จะเป็นอย่างไร
ขอขอบคุณครับ
ขอขอบคุณ... คุณ sinth และท่านผู้อ่านทุกท่าน...
ถุงน้ำดี...
วิธีง่ายๆ...
ขอให้มีสุขภาพดีครับ...
ขอขอบคุณ... คุณสิงห์ป่าสักและท่านผู้อ่านทุกท่าน
ท่านอาจารย์...
ขอบพระคุณมากครับ
ขอขอบคุณอาจารย์สิงห์ป่าสักและท่านผู้อ่านทุกท่าน...