สวัสดีครับ เอ (แม่นีโอ)
ขอบคุณมากครับ ทำให้มีกำลังใจเยอะขึ้นทีเดียว ^__^
เรื่องนี้ยังมีอีกหลายแง่มุมมากทีเดียว
1. ต้องขอบคุณ คนที่ใช้ชื่อ ศล ซึ่งเปิดประเด็นเอาไว้ใน Pantip.com ห้องหว้ากอครับ (อ้างอิง 1 และ อ้างอิง 2) เขาลุกขึ้นมาเพื่อทำสิ่งที่ถูกต้อง และยับยั้ง "หายนะทางปัญญา" ที่จะเกิดกับเด็ก เยาวชน และใครก็ตามที่อ่านหนังสือ ฟิสิกส์นิวตัน ของ ทพ.สม
พี่พยายามติดต่อเขา แต่ยังทำไม่ได้ จึงขอแสดงความคารวะเอาไว้ ณ ที่นี้ (จะหาโอกาสทำแบบเป็นเรื่องเป็นราวอีกที)
2. ในมุมของพี่เอง พี่กำลังเผชิญหน้ากับ 3 อย่างใหญ่ๆ ทั้งนั้น
2.1 "นักเขียนดาวรุ่ง" ที่มีผลงานโดดเด่น (ในแง่ยอดขาย) และมีผู้คนศรัทธามากมาย
2.2 บริษัทเอกชนขนาดใหญ่ที่สั่งสมความดีงามมาอย่างยาวนาน จนมีความเป็นองค์กร และมีภาพลักษณ์เป็นองค์กรที่มีคุณภาพ
2.3 ผู้คนที่ศรัทธา และ "เชื่อมั่น" ใน 2.1 และ 2.2
คิดๆ ดูแล้ว เราก็แค่นักวิชาการตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ไม่อยากจะไปผิดใจกับอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 อย่างนี้พร้อมๆ กันหรอกครับ
3. แต่เมื่อ 2.1 และ 2.2 เริ่มรู้ตัวแล้ว ก็ยังเหลือ 2.3 นี่แหละครับที่จะยังคงมีโมเมนตัมอยู่มาก ส่วน 2.1 และ 2.2 จะทำอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่เขาต้องตัดสินใจเอง
หากการตัดสินใจนั้น เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยลดตัวตนและไม่ติดยึดในผลประโยชน์จนเกินงาม ทุกฝ่ายก็ย่อมจะอนุโมทนา
แต่หากการตัดสินใจนั้นผิดพลาด ทำให้สังคมได้รับความเสียหายต่อไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรต่อไป
4. ในมุมของคนอื่น....ไม่อยากคิดแทนเขาแล้วครับ เพราะเราไม่ใช่คนก่อปัญหา และไม่ใช่คนที่อาจจะสร้าง "หายนะทางปัญญา" ให้แก่สังคมไทย
แต่ก็นั่นแหละครับ การที่ลุกขึ้นมาขวาง "หายนะทางปัญญา" ที่หนุนด้วยแรงขับเคลื่อนหลายมิติ (ศรัทธา ผลประโยชน์ทางธุรกิจ ความอยากรู้อยากเห็นของสังคม ฯลฯ) นั้น....
คนที่ลุกขึ้นมา ก็อาจจะเจ็บตัวได้เหมือนกัน (โดนขว้างด้วย "ก้อนหิน" ก้อนเล็กๆ ใน VCharkan.com ไปบ้างแล้ว ยังดีที่หลบทัน ไม่ไปยุ่งด้วย)
ตอนนี้พี่ก็ทำในสิ่งที่ต้องทำต่อไป เพื่อให้สังคมไทย (ส่วนหนึ่ง) ฉุกคิดบ้าง
แต่จะถึงกับ "ตาสว่าง" หรือไม่นั้น ก็แล้วแต่เหตุปัจจัยครับ