ธรรมฐิต
พระ(มหา) วิชิต ชิต สมถวิล(ฐิตธมฺโม)

วีซ่าของคนที่จะมาสู่ยังโลกนี้


ดังนั้น..ความรัก(ซึ่งมีหลายแบบหลายมิติ)จึงถือว่าเป็นวีซ่าของคนที่จะมาสู่ยังโลกนี้

เมื่อคืนอากาศเป็นใจเลยนอนพักหน่อยเดียว

นั่งวิจัยลมหายใจเข้าออกแล้ว อ่านหนังสือทบทวนความรู้ที่ผ่านมา

เพื่อจะไม่ลืมเลือนและมีความเข้าใจบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่แจ่มชัด

หากเรารัก(ฉันทะ)ที่จะทำอะไรสักอย่างด้วยความตั้งใจจริง

สิ่งนั้นที่เราทำด้วยความรักจะตอบแทนเราเองโดยไม่ต้องคาดหวัง


เราทุกคนที่อยู่บนพื้นพิภพนี้คือผลิตผลแห่งความรักทั้งสิ้น

ดังนั้น..ความรัก(ซึ่งมีหลายแบบหลายมิติ)

จึงถือว่าเป็นวีซ่าของคนที่จะมาสู่ยังโลกนี้
แต่หากพูดถึงคำว่า..รัก(แท้)..คงไม่มีคำว่าเศร้า..ทุกข์..ขื่นขม..
เพราะ..รัก(แท้)มีแต่สิ่งดีๆเสมอในกันและกัน
แต่สิ่งที่บางคนว่าไม่ดีนั้นเกิดจาก..ความที่เขาคนนั้น..ตั้งความคาดหวัง..ไว้มากกว่า

ที่จะเกิดจาก..รัก(แท้)..เพราะเขาคิดว่าถ้ารักกันต้องทำให้กันได้ทุกอย่าง..

ในความเป็นจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่..ความคาดหวังเกิดขึ้นกับเราได้ทุกขณะ

บางครั้งอาจมาในรูปแบบของความใคร่หาใช่.รัก(แท้).ไม่ ..

แต่ทว่า..หากความคาดหวังของคนสองคนที่บอกว่ารักกัน

ต่างขั้วต่างมุมกันอะไรจะเกิดขึ้น...
บางครั้งเราอาจจะทำอะไรให้คนที่เราคิดว่าเรารัก

แต่สิ่งที่ทำไปนั้นมันไม่ตรงกับคนที่เรารักได้คาดหวังไว้สิ..อะไรจะเกิดขึ้น 

บางครั้งกำลังใจของคนที่ทำก็หมดไป..

แล้วอาจจะกลายกลับเป็นการเรียกร้องจากฝ่ายหนึ่งก็เป็นได้
และบางครั้งอีกฝ่ายก็กำลังทำอะไรให้เราแต่ไม่ตรงกับสิ่งที่เราคาดหวังไว้

เพราะเพียงแค่..คนสองคนคิดไม่ตรงกันจากการคาดหวัง..

หาใช่..รัก(แท้)..อย่างที่คิดไม่

เมื่อเป็นเช่นนี้..คำว่าเศร้า..ขื่นขม..และความทุกข์ต่างๆ ก็จะตามมา...

ดังนั้นคำว่า..รัก(แท้)เราและเขาจึง ไม่ต้องตั้งความคาดหวัง

ยอมรับในแบบฉบับที่อีกฝ่ายเป็นและในศักยภาพที่เขามี
เป็นตัวของตัวเองในบางครั้งโอนอ่อนในบางที...
สิ่งดี ดี ก็จะเกิด ...รักแท้...ก็จะปรากฎ...

มีใครคนหนึ่ง(จำไม่ได้แล้ว)เคยกล่าวไว้ว่า

..ขอเพียงรักโดยไม่คาดหวังให้สัมพันธภาพนั้นยืนยาว

เหมือนการดื่มด่ำกับแสงเรืองรองของตะวันยามลับขอบฟ้าตรงหน้า

ก็ใช่ว่าจะรั้งแสงงามนั้นไว้ได้ตลอดไป..

ท่านละออกวีซ่าแบบไหนมิติไหนให้แก่ใครที่จะมาสู่อ้อมอกหรือยัง

ธรรมะสวัสดีขอรับ..

คำสำคัญ (Tags): #ธรรมฐิต
หมายเลขบันทึก: 293177เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2009 07:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (26)

ผมยังคิดว่า

คนที่ "อกหัก" เพราะ "รัก" ไม่เป็นครับ

แค่อยากได้ แล้วไม่ได้มากกว่า

แต่อ้างว่า "รัก"

โดยไม่รู้ว่า "รัก" แปลว่าอะไร

ไปปะปนกับคำว่า "อยากได้"

ก็เลยยุ่ง และสับสนในตัวเองครับ

ธรรมสวัสดีครับ

อีกนิดครับ

คนชอบคิดว่า รัก กับอกหักเป็นของคู่กัน

ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่

รักน่าจะคู่กับ ไม่รัก หรือคู่ไกลๆ ก็ เกลียด

อกหัก หรือ ไม่สมหวัง คู่กับ สมหวัง

แต่คนที่คิดว่ารักคู่กับอกหัก น่าจะจับผิดคู่

และไปปนกับคำว่า "อยากได้" อย่างที่กล่าวมาแล้วครับ

Pสาธุขอรับอาจารย์ที่มาช่วยนำเสนอและเติมเต็มแห่งรัก(แท้)

ธรรมะยามเช้าขอรับ..

นมัสการพระคุณเจ้า

  • ขอน้อมรับ...และเรียนรู้การออกวีซ่า..ของแต่ละคน
  • กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ

นมัสการค่ะ

มาเรียนรู้ วีซ่าของชีวิตของพระคุณเจ้า 

ความรักเป็นสิ่งงดงาม  ต้องรู้จักรัก ต้องรักในสิ่งที่เขาเป็น และไม่คาดหวังให้เขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น...

รักคือความอาทรอันอ่อนหวาน

รักผสานสายใยให้คิดถึง

รักมีแรงแห่งมนต์ดลตราตึง

รักเอิบอาบซาบซึ้ง..ซึ่งงดงาม

รักเป็นแรงแห่งใจ...ให้ฟันฝ่า

รักคือยามสบตาพาวาบหวาม

รักคือให้อภัยได้ทุกยาม

รักคือความหอมกรุ่นละมุนละไม

    กราบขอบพระคุณค่ะ

 

 

นมัสการ พระคุณเจ้าค่ะ

รัก คือ รักค่ะ

สิ่งนั้นที่เราทำด้วยความรักจะตอบแทนเราเองโดยไม่ต้องคาดหวัง

ขอบพระคุณค่ะ

นมัสการค่ะ...หลวงพี่

ยังไม่ได้ออกวีซ่าเจ้าค่ะ...หากจะออกวีซ่า คาดว่าคงไม่มีแบบฉบับเจ้าค่ะ...แต่จะยอมรับในตัวตนที่เขาเป็น หากรับได้ถือว่าเราไปด้วยกันได้ คงไม่คิดปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใคร...เพราะหากปรับเขาเท่ากับเห็นเงาเราอยู่ตรงหน้าแค่นั้นเอง

ขอบพระคุณมากเจ้าค่ะ...

Pสาธุกับคำกลอนดีๆขอรับ..

Pถูกต้องแล้วขอรับ..รักคือการได้รักโดยไม่คาดหวัง..

สาธุที่มาทักทายกัน..

Pแหมรีบออกตัวอีแล้วนะขอรับอาจารย์..

การรักกันกับใครสักคน..คือ..การยอมรับในสิ่งที่เขาและเราเป็น..

เข้าทำนองว่า..Love  ฉัน ต้อง Love  หมา  ฉันด้วย..

ว่าไหมอาจารย์..

กระทู้นี้มี "ความรัก" ตั้งเป็นเหตุ           เรื่องอาเพทมากมายจากไหลหลง

ใช้ธรรมะชำระใจให้วางลง                  ค่อยปล่อยปลงรักผิดหงุดหงิดใจ

รักที่ถูกปลูกจิตให้คิดถูก                     ความพันผูกว่ารักแท้แปลไฉน

พุทธองค์ทรงรักจากจิตใจ                  เพื่อมนุษย์ทั้งหลายได้พบธรรม

นมัสการพระคุณเจ้า . . . ขอบพระคุณที่ท่านให้การชี้แนะ จนทำให้ได้มาอ่านบันทึกนี้ ที่ช่างตรงกับประเด็นในหนังสือ Being in Love ค่อนข้างมาก

Pแลกเปลี่ยนมุมมองกันขอรับอาจารย์

จะมีใครเข้ามาอ่านอีกมั้ยนี้ มาหลังเพื่อนเลย

เคยอ่านหนังสือเนลชั่นเนล จีโอกราฟฟิก นานมากแล้ว ประมาณ 5-6 ปีที่แล้วครับท่าน

อธิบายปรากฏการณ์ของความรักได้สุดยอดมาก ทุกปรากฏการ์ "อารมณ์" ไม่ว่าทั้งทางด้านความรู้สึกทางใจ

ความรู้สึกทางกาย ไปจนถึงผลของความใคร่เนื่องจากรัก

ทั้งหมดเป็นผลผลิตของการตอบสนองของสมองต่อฮอร์โมน (สารเคมีที่ร่างกายสร้างขึ้น) มันสร้างขึ้นมาเมื่อประสาทะต่าง ๆ ได้รับการตอบสนอง นั่นคือ ตาเห็นรูป สวย หล่อ กายสัมผัส นิ่ม นุ่มนวล จมูกได้กลิ่น ส่งผลไปให้สารสื่อประสาททำงาน

ซึ่งผลของฮอร์โมนไปมีปฏิกิริยาต่อสมองส่วนต่าง ๆ ให้เรามีความรู้สึกจนเรียกปรากฏการณ์นั้นว่า "ความรัก"

ทั้งที่จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงผลผลิตของการแปลผลของสมองที่มาสัมพัทธ์กับ "จิตด้านกิเลส" ของเรา ซึ่งเป็นจิตที่รออาหารไปหล่อเลี้ยงอยู่แล้ว (คำถามง่ายๆ ทำไมคนเราส่วนใหญ่จึงมีความรักฉันชู้สาวเมื่อตอนโต ไม่ใช่ตอนเด็ก นั่นก็เพราะผลผลิตของฮอร์โมนยังไม่พร้อมสำหรับการสื่อประสาทในช่วงวัยเด็ก) แต่เหมือนเราจะไม่เท่าทันมันในเรื่องนี้เอาเสียมาก ๆ

เคยอ่านคำสอนของท่านพุทธาส ท่านกล่าวว่าความรักเป็นเพียงของหวานที่ธรรมชาติเอาไว้ล่อเรา

อุปมาเหมือนน้ำหวานในดอกไม้ไว้ล่อผีเสื้อ เพื่อการผสมเกสร ผลตอบแทนของผีเสื้อคือความหวานที่ได้รับ

ฉันใดก็ฉันนั้น ครับท่าน

ความรักเลยสรุปได้แค่ปรากฏการณ์ของจิตในอีกรูปแบบที่ปราฏออกมาจาก จิตส่วนกิเลส นำไปสู่กรรมใหม่ ๆ

เพราะธรรมชาติคงไม่ยอมให้มีอะไรง่าย ๆ

สาธุ.เจษ..

ทุกอย่างไม่ว่าจะหวานรือคาว.ดอกไม้สดหรือแห้ง..

หากเกิดกับเราเราก็ต้องต้อนรับทำความรู้จักกับมันอย่างนิ่มนวล..

แล้วสิ่งเหล่านั้นเราก็สามารถกุมบังเหงียนมันไม่ให้พยสได้...

สาธุๆๆๆ..

ยังมีคนเข้ามาอ่านต่อคุณเจษค่ะ

ในความคิดเห็นของดาว ความรักอาจจะเป็นแค่ปรากฎการณ์ของจิต แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นจิตด้านกิเลสเสมอไป ถ้าตีความคำว่า รัก...เป็นอารมณ์รักของหนุ่มสาว ก็อาจอนุโลมได้เช่นนั้น แต่ถ้าหากให้นิยามคำว่ารักลึกซึ้งลงไปหลายๆ มิติ หลายๆ มุมมอง เช่นความรักของมารดาต่อบุตร ความรักของเพื่อน ความรักของคนที่หวังดีต่อกัน ความรักก็เป็นสิ่งที่ดีที่หล่อเลี้ยงจิตใจให้ใครหลายๆ คนมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข

หากจะอธิบายตามการแพทย์ที่ฮอร์โมนหรือสารสื่อประสาทไปส่งผลต่อสมองจนทำให้เกิดอารมณ์รัก...เอ ชักสงสัยแล้วค่ะว่า คนที่สมองพิการ หรือว่าคนแก่ที่อายุมากๆ สมองฝ่อ เค้าจะมีความรักลดน้อยลงไหมนะ?

ปล. ยังไม่ได้ออกวีซ่าความรักเลย...ตอนนี้อยู่ระหว่างเก็บข้อมูลค่ะ อิอิ

Pถ้าอธิบายทางการแพทย์นี่ต้องไปตามพี่หมอนกมาแล้วละ..

ชั้นระดับของความรักกว่าจะถึงรักแท้มีหลายระดับในมุมมองพุทธศาสนา..

ว่างๆ(แล้วตอนนี้ทำไร)จะมาบ่นให้ฟังว่ามุมมองพุทธศาสนามีระดับไหนบ้าง..

อย่าเก็บข้อมูลนานเกินละเดี๋ยวตามพี่หมอนกไม่ทัน....

สาธุๆๆ

กราบขอบพระคุณท่านธรรมฐิตล่วงหน้าเจ้าค่ะที่ว่าว่างๆแล้วท่านจะมาบ่นให้ฟังว่าเรื่องมุมมองความรักในพุทธศาสนา...รีบๆ ว่างนะเจ้าคะ รอฟังอยู่เจ้าค่ะ (พระที่ดีย่อมไม่ปล่อยให้แม่ออก...เอ้ย อุบาสิกา รอนาน 555)

ส่วนข้อมูล ขณะนี้กำลังเก็บอย่างเต็มที่เต็มความสามารถตามกำลังสติปัญญาเท่าที่สมองน้อยๆ เท่าเมล็ดถั่วนี้จะมีได้เจ้าค่ะ....

 

 

Pคอยติดตามละกันดาวฟ้า..

แต่ไม่รู้ตอนไหนนะออกพรรษางานเข้าอีกเยอะต้องชีพจรลงเท้าอีก..

นมัสการพระคุณเจ้า

ได้มาเรียนรู้วีซ่าของคนที่จะมาสู้ยังโลกนี้ พร้อมทั้งเรื่องราวของความรักในอีกมุมหนึ่ง

เป็นประโยชน์มากมายค่ะ

กราบขอบพระคุณค่ะ

~*_PangJung_*~

นมัสการพระคุณเจ้า

ขอถอนวีซ่าได้ไหมเจ้าคะ เบื่อโลกแล้ว

Pเมื่อแวะมาแล้วได้ประโยชน์ออกไปธรรมฐิตก็ขออนุโมทนาเนาะPangJung

สาธุๆๆ

Pอ้าวพี่ณัฐรดาไมรีบถอนแล้วละ..

ถามโลกบ้างหรือยังว่าเบื่อเราใหม..

วีซ่านี้กงศุลไหนก็ไม่รับถอนขอรับ..

ต้องถอนเองโดยสถานเดียวขอรับ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท