คุณสมประสงค์ ถามดิฉันผ่านทาง Blog มาว่า
"ผมอยากทราบถึงทฤษฎีของการวิเคราะห์ข้อสอบแบบเลือกตอบครับ การตรวจสอบคุณภาพของข้อสอบ การวิเคราะห์ความยากง่าย จะต้องทำอย่างไรบ้างครับ ?"
ประจวบเหมาะอะไรอย่างนี้ ดิฉันเพิ่งได้เรียนรู้มาแหมบๆ ทั้งที่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้สักเท่าไหร่
ท่านอาจารย์หมอวัลลี (ผศ.พญ.วัลลี สัตยาศัย: รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์) เพิ่งจะรับเชิญมาเป็นวิทยากรแก่คณาจารย์คณะสหเวชฯ เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมานี้เองค่ะ
หรือว่า... ท่านส่งคนมาประเมินผลการเรียนรู้ของดิฉัน รึปล่าวเนี่ย??
อย่างไรก็ไม่ว่ากัน...ดิฉันจะลองอธิบายดูนะคะ....ต้องเริ่มตั้งแต่รู้จักข้อสอบแบบเลือกตอบก่อนนะคะ
เทคนิคการออกข้อสอบ MCQ : Multiple Choice Question
ข้อสอบแบบ MCQ: เลือกตอบ เป็นรูปแบบหนึ่งของข้อสอบปรนัย (Objective Examination)
ข้อสอบปรนัย ยังมีแบบ True-false: เลือกถูก-ผิด และแบบ Maching: จับคู่ แต่ 2 แบบหลังนี้ ปัจจุบันไม่นิยมแล้ว เพราะใช้วิธีเดาได้ ทำให้วัดผลได้ไม่แม่น
ข้อสอบแบบ MCQ มีข้อดี คือ
-
มีความเที่ยงสูง เพราะสามารถออกข้อสอบได้จำนวนข้อมาก และคำตอบมีความชัดเจน
-
ให้คะแนนง่าย ถ้าอาจารย์ทำคำตอบไว้ ก็ไม่ต้องตรวจเอง ยิ่งสมัยใหม่มีเครื่องสแกนช่วยตรวจ ทำให้สะดวกมากขึ้น ผู้ตอบตอบบนกระดาษคำตอบด้วยวิธีฝนหมึกลงไปในช่อง เครื่องสแกนก็สามารถอ่านคำตอบให้ได้ รวมคะแนนให้ได้
-
สามารถเลือกเนื้อหามาออกข้อสอบได้เยอะ ครอบคลุมสิ่งที่สอนได้มาก อาจารย์ส่วนใหญ่จะชอบ
ข้อสอบแบบ MCQ มีข้อด้อย คือ
-
ใช้เวลาออกข้อสอบมาก ในกรณีที่รู้หลักการออกข้อสอบแบบ MCQ อย่างถูกต้อง จะทราบว่าต้องใช้เวลามากทีเดียว
-
ใช้ประเมินความจำมากกว่าความเข้าใจ การประเมินการแก้ปัญหาหรือการประยุกต์ใช้ทำได้จำกัด เพราะข้อสอบ MCQ โจทย์ต้องสั้น แต่ข้อสอบความเข้าใจ โจทย์ต้องยาว
เมื่อไหร่จึงจะใช้ข้อสอบ MCQ (ที่ถูกแล้ว การสอบควรมีทั้งข้อสอบปรนัย และอัตนัย)
- เมื่อผู้สอบมีจำนวนมาก เช่นร้อยคนขึ้นไป เพราะจะตรวจข้อสอบได้เร็วกว่าอัตนัยมาก
- เมื่อต้องการนำข้อสอบไปวิเคราะห์และเก็บไว้ใช้ใหม่ เพื่อทำคลังข้อสอบ มีโปรแกรมสำเร็จรูปวิเคราะห์คุณภาพของข้อสอบ เก็บได้ทั้งคำถามและคำตอบ ไม่เหมือนอัตนัยที่ไม่มีโปรแกรมวิเคราะห์ และเก็บคำตอบไม่ได้เพราะคำตอบอาจต้องออกแบบใหม่
- เมื่อต้องการครอบคลุมรายละเอียดของเนื้อหา เพราะข้อหนึ่งๆ ใช้ 1 นาทีเท่านั้น ในขณะที่ข้อสอบแบบอัตนัย ต้องใช้ไม่น้อยกว่า 5 นาทีต่อข้อ
- เมื่อต้องการวัดความรู้ ไม่ใช่วัดทักษะ หรือเจตคติ การวัดทักษะหรือเจตคติ ต้องใช้ข้อสอบแบบอื่น
- เมื่อมีเวลาออกข้อสอบมาก ต้องการผลสอบเร็ว