สุดยอดเลยค่ะพี่ศิลา ถ่ายทอดได้ดีมากๆ ไม่คิดว่าภาพโรงเรียนเก่าผุพังจะยังมีให้เห็นในทุกวันนี้ เเต่สิ่งหนึ่งที่เห็นมากกว่านั้นคือความเป็นชนบทที่เเท้จริง เเละความเป็นครอบครัวเดียวกันของคนในโรงเรียนนี้ กุ้งเเวะมาทักทายให้หายคิดถึงค่ะ
โรงเรียนบ้านตานบมีมานานถึง 69 ปีแล้ว…
โอ..มีอายุนานมากทีเดียวนะคะ เรื่องนี้ ทางครูใหญ่น่าจะไปเสนอของบปรับปรุงจากทางจังหวัดนะคะ เพราะเห็นว่ามีครูไปประชุม ไปอบรมที่จังหวัดกันอยู่ และยังได้มีการทำวิสัยทัศน์กันด้วย
คือโรงเรียนที่ยังขาดแคลนแบบนี้ ก็มีสิทธิ์ได้รับการอุดหนุนนะคะ คงต้องทำเรื่องเป็นขั้นตอน และครูใหญ่คงต้องเดินเรื่องเองด้วย
อ่านแล้ว เห็นใจโรงเรียนมากๆค่ะ
สวัสดีค่ะ
เก็บเป็นความทรงจำที่งดงาม รอบุตรหลานรุ่นหลังมาดำเนินการต่อไป ก็ขอได้แต่เพียงผู้ส่งข่าวสารให้คนที่มีอำนาจและความสามารถ..................................
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดีมากค่ะ..ครูอ้อยเล็กว่าจุดเด่นของโรงเรียนนี้อยู่ที่ความเป็นอยู่ตามธรรมชาติ ธรรมชาตินี่แหล่ะที่จะฝึกให้เขาแข็งแกร่งและนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน..สิ่งที่ควรพัฒนาคืออาคารเรียน ห้องเรียน สื่อและอุปกรณ์อื่นๆที่เด็กสามารถใช้สืบค้นได้..และมีความทันสมัยก้าวทันโลกภายนอก..น่าจะมีคนเห็นความสำคัญนะคะ..ขอให้ความคิดเห็นที่ว่า...
เชื่อว่าแรงกระเพื่อมคงส่งต่อถึงผู้เกี่ยวข้องได้มองเห็นและเห็นใจ ส่วนอยากจะโทษว่าผู้ใหญ่ในโรงเรียนไม่เสนอของบมาก็สุดแล้วแต่พวกเขา ขอเพียงให้ท่านผู้มีอำนาจช่วยเหลือมาบ้างก็ยังดี แลกกับการกล่าวโทษผู้ที่กำลังเกษียณอายุราชการอย่างท่าน ผ.อ. ท่านก็บอกว่าคุ้มค่ะ ท่านยอมรับผิดเอง...แต่ของบมาหน่อยได้ไหม...อะไรประมาณนี้ค่ะ
ขอให้มีผลเป็นจริงโดยเร็ววันะคะน้องศิลา...เป็นกำลังใจให้ค่ัะ...
สวัสดีค่ะคุณศิลาที่คิดถึง
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมโลกของคนรักเห้ดครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
มาหยุดไว้ที่...บันทึกนี้
เพื่อจองคิว..ไว้ก่อน ครับ
เอาเพื่อนคุณศิลามานั่งคุยก่อน
ด้วยความระลึกถึง ครับ
ถ่ายภาพงามขนาดครับ ;)
สวัสดีค่ะอ.ศิลา เหมือนการย้อนไปดูสมัยที่เป็นนักเรียนประถม แม้อาคารสถานที่จะผุพังตามกาลเวลา แต่ยังมีสิ่งที่ดีๆ คือการที่สอนให้นักเรียน ช่วยตัวเอง ...ไม่ทิ้งรากเหง้าของตัวเอง....
หลายโรงเรียนที่มีความเป็นอยู่ที่แย่กว่านี้อีก
หวังว่าโรงเรียนนี้จะมีผู้ที่อาสาเข้าไปเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนได้มาดูบ้าง
แต่ก็อดดีใจไม่ได้ที่นักเรียนโรงเรียนบ้านตานบ”ได้มีชุดนักเรียนให้โดยไม่เรียกการปฏิบัติ
เป็นกำลังใจช่วย
สวัสดีคะอาจารย์ศิลาไม่ได้ทักทายกันนานแล้วนะคะ หากันไม่เจอ
คิดถึงนะคะ อ่านเรื่องจากน้องสาวพอลล่าแล้วอยากเรียนด้วย
อ.ศิลา ครับ
ผมตามอ่านบันทึกนี้มาสองสามรอบแล้ว และมีโอกาสคุยกับพี่วิญญาณเสรี กับ อ.ศิลา วันก่อน เลยมาดูรูปอีกครั้ง ...
โรงเรียนทรุกโทรมมากเลยครับ น่าเห็นใจ นี่หละหนา ความเเตกต่างทางโอกาสของคนชนบทกับคนเมือง ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยเหมือนกันแต่แตกต่างกันราว ฟ้า และ ดิน
ให้กำลังใจครู ทุกท่านที่ทำงานเพื่อศิษย์ ครับ
ขอบคุณ อ.ศิลา ที่นำเรื่องราวความจริงเหล่านี้ออกมาเผยเเพร่ คิดว่า จากนี้ไป จะมีการเปลี่ยนแปลงนะครับ
สวัสดีครับ
เมือสามปีก่อนผมมีโอกาสไปแวะเวียนเยี่ยมเยียนโรงเรียนในแถบ จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ หลายแห่ง
มีสภาพเดียวกันกับในบันทึก
หลายแห่งเลวร้ายยิ่งกว่า
จะลองค้นเอางานเก่า ๆ บันทึกมาแลกเปลี่ยนครับ
สวัสดีครับอาจารย์ น่าภาคภูมิสำหรับคุณครู ที่ศิษย์เก่ายังระลึกถึงกลับมาเยี่ยมพร้อมกับกัลยาณมิตร ทำให้ได้เห็นสภาพที่แท้จริงของโรงเรียนในชนบทซึ่งมีมายาวนานแล้ว...เรื่อง งบประมาณ ต้องฝากไปยังสภาผู้ทรงเกียรติ ครับอาจารย์
จงทำงานให้ประสบความสำเร็จท่ามกลางความขาดแคลน
ครูที่ลำบากยังมีอยู่มากมาย แต่ครูจะภูมิใจที่ทำให้สังคมอยู่ได้
ยิ่งอยู่ในที่กันดารเท่าใด ค่าของครูยิ่งสูงมากตามไปด้วย
ยิ่งโรงเรียนขาดแคลนมากเท่าใด ชุมชนย่อมรักและหวงแหนโรงเรียนมีความเป็นเจ้าของ
เคยอยู่โรงเรียนที่มีครู 4 คน ผู้บริหารต้องสอนอนุบาลและทำงานธุรการ สวมวิญญาณเสมียน
กลัวอะไรกับงานหนักถ้ารักอาชีพครู
จงภูมิใจเถิดหนาที่ที่ได้มาเป็นครู
สว้สดีค่ะคุณศิลา
ไม่ได้มาทักทาย แต่ยังคิดถึงเหมือนเดิมค่ะ
เข้าใจว่าโรงเรียนนี้น่าจะอยู่ในสังกัดของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และมีหน่วยงานย่อยในจังหวัดคือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ดูแลอีกทีหนี่งค่ะ แต่เดิมจะเป็น สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ (สปช.) เป็นหน่วยงานดูแล ต่อมาสปช.รวมเข้ากับ กรมสามัญ (ดูแลระดับมัธยมศึกษา) เปลี่ยนชื่อเป็น สพฐ.
ส่วนสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ เป็นชื่อเดิมของ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา มีหน้าที่จัดทำนโยบายการศึกษาชาติ (ไม่มีหน้าที่ดูแลโรงเรียน) ซึ่งคนไม่มีรากสังกัดอยู่ค่ะ
ขอบคุณที่คุณศิลานำภาพมาให้ชม เล่าเรื่องให้ได้รู้ ... ยังมีโรงเรียนอีกมากมายที่ไม่ได้รับการเหลียวแลเลย
(^___^)
มาอ่านทุกตัวอักษรแล้วให้สะเทือนใจพลอยน้ำตาคลอไปด้วย
คนไทยเราชอบมองตัวเองว่าดีแล้ว พัฒนาแล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
จนบางครั้งไปเวทนาเขาที่ช่างขาดแคลน ไร้การพัฒนา...
แต่จริงๆ แล้ว โรงเรียนในบ้านเรานี่แหละที่น่าสงสารมากกว่า
เพราะมันมีความแตกต่างและเหลื่อมล้ำกันเห็นได้อย่างชัดเจน
อยากให้หลายๆ ท่านนำเรื่องราวมาบอกกล่าว เพื่อสะท้อนภาพให้สังคมร่วมกันรับรู้
อย่างน้อยๆ ลูกศิษย์ที่ได้เคยร่ำเรียนมา...จะได้กลับมาช่วยกันพัฒนาเท่าที่กำลังแรงมี
แต่จะหวังให้รัฐเข้าไปดูแลนั้น คงต้องรอ....ตอนบ่ายกระมังคะ น้องศิลา
แวะมาเยี่ยมพี่ศิลาครับ
และมาชื่นขมความอดทนของคุณครู
สงสัยงานจะยุ่งเหรอครับ
บันทึกพี่ศิลาเงียบๆไป หรือ ว่าระบบใหม่หากันยากหรือเปล่าครับ
เลยไม่ค่อยเห็นความเคลื่อนไหว
ขอบคุณครับ
น่าสรรเสริญน้ำใจคุณครูท่านจังค่ะ
สวัสดีค่ะคุณศิลา..อ่านแล้วตื้นตันอดไม่ได้ที่จะมีน้ำตาบ้างเล็กน้อย..ขอบคุณค่ะสำหรับโอกาสที่อาจารย์เห็นและนำมาเสนอมันน่าจะมีอีกมากมายหลายแห่งแต่เราไม่มีโอกาสไปเห็นเท่านั้นเอง“มันเป็นเช่นนั้นเอง”จริงๆนะคะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาทักทายวันหยุดค่ะ
คงอยู่ในช่วงของการ "ทำการบ้าน" ส่งครูบาอาจารย์ ....
ไม่กวนนะคะ
แต่มาส่งความระลึกถึงไว้ค่ะ
(^___^)
มาอ่านเรื่องดีๆ จรรโลงใจค่ะพี่หญิง ...
ในความขัดเขินที่มองเห็น เป็นวิถีประชาที่มีสีสัน รอยยิ้มจริงใจเปี่ยมชีวาค่ะ
เป็นกำลังใจให้ครูเพื่อเด็กน้อยค่ะ ถ้าค่านิยมสังคม ปรับเปลี่ยนใหม่ไปได้
ทุกสถาบันล้วนเท่าเทียม ผู้เรียนได้ค้นพบตนเอง เรียนรู้อย่างเต็มใจ สุขใจ ภาคภูมิกับสิ่งที่ตนเลือก
มาดูรร.ในเมือง ได้อย่างเสียอย่างนะคะ พท.เล่นแทบไม่มี เด็กๆ หน้าตาคร่ำเคร่งเกินวัยแข่งขันกันติว ครูไม่ค่อยมีเวลาให้ หรือเน้นวิชาการเกินไป
... ความแตกต่าง ที่ต้องทบทวน ... ชอบทุกๆ ภาพค่ะพี่หญิง ชมวนไปมาหลายรอบ ขอบคุณค่ะ
ขอใช้เสียงบ้างค่ะ แม้ไม่ดัง แต่ก็ตั้งใจค่ะ
ค่ะ คนล้มไม่ข้ามค่ะ จะช่วยหาเบาะรองไว้ให้แน่นอนค่ะ
ใกล้วันหยุด เที่ยวให้สนุกนะคะ พี่ศิลาทำงานเหนื่อยจังเลยค่ะ สงสัยหลับคืนนี้ ตื่นอีกทีวันจันทร์ อิอิ
แสดงว่าพี่ศิลาเหนื่อยมากจริง ๆ ค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยน่ะค่ะ
แวะมาดูครับ
มาชม
มาชมทุ่งท้องนาหลังคาโรงเรียนเก่าแก่...
นึกแวบเห็นโรงเรียนศาลาวัดบ้านนอกที่ตนเองเคยเรียนมาเมื่อยังเยาว์...
สวัสดี่ค่ะ
- แวะมาเยี่ยมค่ะ
- สุขกายสุขใจนะคะ
ติดตามอ่านบันทึกของคุณศิลามาหลายๆครั้งประทับใจลีการถ่ายทอดมาโดยตลอดแต่ก็ไม่เคยเม้นท์สักที
อ่านบันทึกนี้อดไม่ได้ที่จะชื่นชมคุณเป็นพิเศษคุณเขียนและถ่ายทอดได้รายละเอียดที่กินใจครูอย่างผม
ผมคงเก็บความรู้สึกนี้ไม่ได้จึงต้องลงมือแสดงความเห็นเพื่อชื่นชมคุณในครั้งนี้
บันทึกนี้เป็นบันทึกที่ดีที่สุดที่ผมประทับใจ
การเขียนบันทึกยาวๆและได้รายละเอียดที่ถึงแก่นเห็นภาพเช่นนี้หายาก
อีกประการหนึ่งคุณใช้ภาษาสำนวนการเขียนง่ายๆ เข้าใจง่าย ไม่ต้องแปลไทยเป็นไทย
ถ่ายทอดสภาพโรงเรียนชนบทที่ห่างไกลได้ตรงใจผมเหลือเกิน
ผมจึงประทับใจคุณที่สุดครับ
จงทำงานให้ประสบความสำเร็จท่ามกลางความขาดแคลน
ครูที่ลำบากยังมีอยู่มากมาย แต่ครูจะภูมิใจที่ทำให้สังคมอยู่ได้
ยิ่งอยู่ในที่กันดารเท่าใด ค่าของครูยิ่งสูงมากตามไปด้วย
ยิ่งโรงเรียนขาดแคลนมากเท่าใด ชุมชนย่อมรักและหวงแหนโรงเรียนมีความเป็นเจ้าของ
เคยอยู่โรงเรียนที่มีครู 4 คน ผู้บริหารต้องสอนอนุบาลและทำงานธุรการ สวมวิญญาณเสมียน
กลัวอะไรกับงานหนักถ้ารักอาชีพครู จงภูมิใจเถิดหนาที่ที่ได้มาเป็นครู
ขอบคุณมากนะคะ ที่เห็นความสำคัญของครู และได้นำมาบอกเล่าบนโลกอินเตอร์เน็ต
และความดีของครูที่พี่ศิลาได้กล่าวถึงจะเป็นที่จดจำของนักเรียนต่อไป
ท่านผอ. ท่านได้หลับสบายแล้วคะ
จากลูกสาว ผอ.สมุห์ มาลีหวล
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งด้วยนะครับ คุณ ศุภรี มาลีหวล และท่านอาจารย์นพลักษณ์ ๙
ความดีของท่านได้ปรากฎสู่สายตาคนทั้งหลายแล้วครับ
สวัสดีค่ะพี่ศิลา
อ่านบันทึกแล้ว...รู้สึกได้ว่า...ความแตกต่าง คลาดแขลน ความเท่าเทียม
ยังขาด...แต่สิ่งที่ไม่ขาดคือความผูกพันธ์ระหว่างครู นักเรียน ชุมชน
ครูต้องมีทั้งน้ำอด และน้ำทน ให้มาก...สู้ๆค่ะครูไทย..เพื่อศิษย์
เทียนน้อยมาส่งกำลังใจให้ค่ะ...^_^พี่ศิลาสบายดีนะคะ
มหา แวะมาอ่าน
ยังมีอีกหลายโรงเรียนที่อยู่ในสภาพเดียวกับโรงเรียนบ้านตานบ
ขอให้มีความสุขกับการทำงาน
ครับ..
จะลองคุยกับนิสิตดู เผื่อลงพื้นที่โรงเรียนสักครั้ง..
...ขอบคุณครับ...