โลกที่หน่วงหนัก…โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น


บันทึกประจำวันนี้ ผมตั้งใจจะเขียนมายาวนาน แต่การเขียนย้อนหลังกลับไปเหตุการณ์ เป็นสิ่งที่แสนลำบากสำหรับผม และการค้นหารูปถ่ายประกอบบันทึกก็นับว่ายากเย็นด้วยเช่นกัน และอดคิดไม่ได้ว่า บันทึกเล็ก ๆ ชิ้นนี้ จะอยู่ในความทรงจำ แรงบันดาลใจ และเรื่องราวการแบ่งปันไม่รู้ลืม แม้ยามตื่น หรือหลับใหล...
โลกที่หน่วงหนัก…โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น
 
 
ก่อนปีใหม่ไม่นาน... เพื่อถ่ายโอนสู่การเจริญเติบโตแห่งชีวิต
ผมได้ผ่านช่วงเหตุการณ์อันโหดร้ายและแสนทรมาน  เฉกเช่นกับผู้คนของความทรงจำ
‘สึนามิ’   เมื่อปลายปี ๒๕๔๗   เพียงแต่ต่างสถานที่เท่านั้น...
ผมอยู่กับโลกที่หน่วงหนัก…โรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น
 
 
คุณแม่ของผมป่วยหนักมาก ผ่าตัด ๓ ครั้ง  เข้าออกห้องไอซียู หลายครั้งในช่วง
สองเดือน...ธันวาคม  ถึง กุมภาพันธ์
ทุก ๆ วัน คุณหมอประจำตัวของแม่  และอาจารย์หมอ จะเรียกผมให้ไปฟังอาการของคุณแม่ว่า ห้าสิบห้าสิบ ของการมีชีวิต – การไม่มีชีวิตของแม่
ชีวิตความเป็นอยู่ของผมทารุณมากเมื่อเผชิญกับฤดูหนาวอันยาวนานและโรคที่แสนร้ายกาจของผม
ในขณะที่แม่เจ็บคล้ายไม่รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น
 
 
ยามที่คุณหมอเข็นแม่เข้าห้องผ่าตัด และห้องไอซียู
ร่างของผมที่ยืนพิงกำแพงทรุดฮวบลง  มือทั้งสองกุมศีรษะ และซุกหัวลงไประหว่างหัวเข่า อย่างคนที่หลุดลอยออกจากโลก
เมื่อสติหายแตกแล้ว ผมก็แนบหน้าผากกับกระจกห้องและเฝ้ามองดูผ่านช่องว่างของม่านจ้องแม่ที่กำลังหลับตาอยู่ รายล้อมด้วยเครื่องมือแพทย์และสายระโยงระยาง
 
 
เส้นด้ายแห่งโชคชะตาของแม่ช่างเปราะบาง ผมเกรงว่าชีวิตนี้ไม่อาจเหนี่ยวรั้งสิ่งใดไว้ได้เลย ...
ผมก้มหน้าหน้ายอมรับความเที่ยง-ความไม่เที่ยงของชีวิตที่บงการโลกและชีวิตอย่างไม่เคยคิดหลีกเลี่ยง และไม่เคยมีปฏิกิริยาโต้ตอบต่อมันเลย
 
 
ตลอดสองเดือนที่แม่ป่วยหนัก ผมต้องลางานหลายครั้ง และในช่วงนั้นงานที่อยู่ในหน้าตักของผมก็มากมาย ทั้งที่สถานีอนามัย  ลูกชายที่กำลังลืมตาให้โลกเพียงปีกว่า ๆ และงานวิจัยที่ได้รับทุนซึ่งต้องทำให้เสร็จ
เป็นช่วงแสนสาหัสหนักหน่วงที่สุดในชีวิตของผม
ถึงแม่จะลูกหลายคน แต่ผมนับเป็นตัวหลักที่ต้องไปดูแลแม่ทุกวัน
เลิกงานบ่ายสี่โมงเย็น  ผมขับรถประมาณหนึ่งร้อยกิโลเมตร ถึงโรงพยาบาลหกโมงเย็น ไปจ้องดู และดูแลแม่  อยู่กับแม่ในช่วงเวลาที่เยี่ยมได้คือสองทุ่ม
หลังจากนั้น ก็กินข้าว ทำภารกิจส่วนตัว  และหาที่นอน บางครั้งก็นอนในรถในที่จอดรถ  โรงพักญาติ 
 
ตื่นนอนก็ประมาณตีห้า เพราะเสียงของญาติคนไข้ และคนไข้ที่มารับบริการดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ  และร้านค้า
ผมได้เข้าเยี่ยมแม่อีกครั้งตอนหกโมงถึงสองโมงเช้า  และขับรถกลับมาทำงานประมาณสามโมงกว่า ๆ ผมเกรงใจเพื่อนร่วมงานมาก แต่ทุกท่านให้กำลังใจผมอย่างท่วมท้นสุดพรรณนา
 
 
กำลังใจจากทุก ๆ คน ทำให้ผมผ่านช่วงแสนสาหัสหนักหน่วงที่สุดในชีวิตของผม
 
 
คุณหมอ คุณพยาบาล  และเจ้าหน้าที่ทุกท่านของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่น  และศูนย์หัวใจสิริกิติ์ ที่ดูแลคุณแม่ของผมเป็นอย่างดี  พูดคุย ยิ้มแย้ม และถามไถ่ผมเหมือนกับผมเป็นคนพิเศษ จนแม่หายจากความเจ็บป่วย  ถึงแม้สภาพของแม่จะไม่เหมือนเดิม แต่ก็นับเป็นบุญของลูก ๆ ที่ได้ดูแลแม่จนถึงปัจจุบัน
 
 
 
คนไข้ข้างเตียงแม่  และญาติผู้ป่วยทุกท่านที่มาจากทั่วสารทิศ  ถึงแม้ไม่รู้จักกันเลยแต่พวกเราถามไถ่กันราวกับญาติสนิท  แบ่งปันสิ่งของกัน  และผมยังได้พี่และน้องร่วมโลกบนเหตุการณ์นี้
 
 
 
และที่สำคัญ  ผมได้กำลังใจพิเศษเหมือนสายลมแห่งพลังเป่ากระหม่อมให้ผมกล้าหาญและเก่งแกร่งแข็งแรงจนทุกปัจจุบัน
 
 
 
กำลังใจของผมอยู่ที่โรงอาหารของโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ซึ่งผมแวะไปนั่งดื่มกาแฟและข้าว  ตอนแรกผมมองไม่เห็นกำลังใจพิเศษนั้นหรอกครับ  เพราะดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาที่ไหลร่วงหยดแล้วหยดเล่าเคล้ากาแฟและข้าว
 
 
 
จนกระทั่งหลายวันที่มาอยู่โรงพยาบาลศรีนครินทร์  ความรู้สึกทั้งหมดเริ่มถูกกลั่นเข้าไปในอก แผดเผาใจผมจนแห้งผาก ไม่สามารถกลั่นออกมาเป็นน้ำตาแม้สักหยดเดียว
 
 
 
ผมได้มองเห็นข้อความเบื้องหน้าของผม...ผมได้รับกำลังใจพิเศษเหมือนสายลมแห่งพลังเป่ากระหม่อมให้ผมกล้าหาญและเก่งแกร่งแข็งแรงจนทุกปัจจุบัน
 
 
กำลังใจพิเศษที่ทำให้ผมมีแรงยืนหยัดดูแลแม่  และการเจริญเติบโตแห่งชีวิตจนถึงวันนี้
กำลังใจพิเศษที่ทำให้ผมอยากเป็น ‘หมออนามัย’ ที่ดีคนหนึ่ง
ถึงแม้ข้อความจะมอบให้ ‘แพทย์’  และคนทำงานในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่นเท่านั้น  ที่ไม่ใช่ให้กับหมออนามัย
แต่ผมรู้สึกว่า ข้อความพิเศษนี้มอบให้หมออนามัยทุกท่าน และเจาะจงให้ผมโดยตรง
ให้ผมได้มีโอกาสได้ทำความดีทุก ๆ วัน
และผ่านพ้นโลกที่หน่วงหนักร้ายแรงที่เข้ามากระทบร่างกาย และจิตใจในทุก ๆ วัน...
 
หมายเลขบันทึก: 416992เขียนเมื่อ 28 ธันวาคม 2010 16:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

อ่านแล้วน้ำตาไหล ซาบซึ้งใจค่ะ

เชื่อมั่นว่าพี่ท่านผ่านไปได้ (^_^)

  • ขอให้น้องพี่ก้าวข้ามผ่าน  กระแสความทุกข์  ครั้งนี้ ไปให้ได้ นะน้องพี่
  • ฝากกำลังใจไปถึง....

 

 

 

ขอให้กำลังใจด้วยนะคะ

ถ้ามีอะไรให้พี่แก้วช่วยได้ โปรดบอกค่ะ

ไปพบพี่ได้ที่ตึกเคมีบำบัด 5จ นะคะ หรือให้ประชาสัมพันธ์หน้า รพ โทรตามพี่ได้ค่ะ

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหมออิสานฯ

ซาบซึ้ง ต่อมน้ำตารื้น หากแต่ชื่นใจด้วย ความรักจักสามารถผ่านอุปสรรคเหล่านี้ได้ ใช่ไหมคะ

ส่งกำลังใจ ในทุกห้วงโมงยามที่ปรารถนา .. สุขสันต์กับการใช้จ่ายเวลาอันมีค่าอบอุ่นกับครอบครัวนะคะ :)

 

ตามมาให้กำลังใจด้วยคน ขอให้ทุกๆๆอย่างผ่านไปด้วยดีครับ

  • สวัสดีค่ะ
  • บุษราแวะมาเป็นกำลังใจให้กันค่ะ เชื่อว่าความรัก ความผูกพันจะส่งพลังให้ครอบครัวผ่านพ้นวิกฤตไปด้วยค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

                            

สวัสดีค่ะคุณหมอ

เป็นความซึ้งใจที่อบอุ่นด้วยแรงแห่งรักค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

อ่านแล้วซาบซึ้ง ทุกคนมีปัญหา และอุปสรรค แต่เชื่อมั่นว่ามันสามารถผ่านไปได้ ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท