ทำอย่างไรไม่ให้ KPI กลายเป็นความเครียด (K) ป่วน (P) และั อ่วม (I) ในที่สุด ตอน 1


ห้องเรียนกระบวนกร AI ตอนที่ 331

จากความเชื่อของนักคิดด้านบริหารว่า "ถ้าวัดไม่ได้ก็บริหารไม่ได้" นำมาสู่การคิดทำ KPI ครับ..

....

หลายคนบ่นครับ..ว่าเป็นเรื่องของการทำลายมากกว่าสร้างสรรค์...

....

ทำอย่างไร...จากเรื่องเดิมที่ผมเขียนไว้ในสองตอนก่อน..ปัญญาเรณู ตอน 1 กับ ตอน 2...

....

KPI มีสองแบบที่ต้องออกแบบมาล้อกัน..

มี Outcome Indicator กับ...Performance Driver...

พูดง่ายๆ องค์กรส่วนใหญ่ 99.9888 % ชอบตั้ง KPI แค่ Outcome ครับ แต่ไม่รู้ ไม่ให้ความสำคัญกับการออกแบบ Performance Indicator นี่น่าจะทำให้เป็นสาเหตุของการที่ทำให้คนถูกบีบ จนพากันเกลียด KPI ไปหมด..

....

จะว่าไปก็เพราะ (ขอพูดตรงๆ) ครับ เกิดจากการทำแบบรู้ "ไม่พอ" (ภาคเกรงใจของคำว่ารู้ไม่จริง)

....

16 ตอนต่อไปนี้ผมจะเล่าถึงการออกแบบ KPI แบบสร้างสรรค์ครับ...ว่าด้วยฐานล่างของ Learning and Growth ครับ. ต่อด้วย Process Innovation, Cusotmer Perspective, ตามด้วย Financial and Stakeholder Perspectives....

....

เราจะใช้ AI ออกแบบกันนะครับ...วันนี้ว่าด้วยภาค Learning ครับ

Learning เดี่ยวกับ Team Learning...

.......

ผมมักจะเ้ริ่มจาก เรียนรู้เดี่ยว...เริ่มจากถามว่า..ไปทำอะไรมาแล้วทำงานได้ดีขึ้น...(ผมใช้นิยามของ Kurt Lewin ที่พูดว่า "Learning is doing something better" ดังนั้นการถามอย่างนี้ จะทำให้คุณได้กระบวนการที่เป็นที่มาของการทำงานได้ดีขึ้น..ที่มานั้นคือกระบวนการเรียนรู้นั่นเอง..) 

.....

ตัวอย่างเช่น..

...

มีท่านหนึ่งได้ไปเป็นนักสร้างเจดีย์..เพราะนายให้โอกาสไปช่วยงานชาวบ้าน..สร้างเจดีย์ เลยได้เพื่อน ก็เลยไปสร้่างเจดีย์กันต่อ...ตอนหลังจากสร้างเจดีย์ใช้เวลา 6 เดือน เหลือปูน 1 คันรถ ปัจจุบัน เดือนหนึ่งก็สร้างเสร็จเหลือปูนแค่ถุงเดียว..

...

แสดงว่า"ให้โอกาสคนลองทำงานแปลกๆใหม่ประเภทลุย ร่วมกับคนข้ามสายงาน" --> ทำให้คนเก่งขึ้่น

แสดงว่าถ้าอยากให้คนในองค์กรคุณเก่งต้องให้โอกาสเขาทำเรื่องแปลกqสักเรื่อง..กับอื่นๆ ...สักปีละเรื่อง...ก็น่าจะได้คนเก่ง สร้างสรรค์ครับ...

.......

เพราะฉะนั้น...Performance Driver ในเรื่องนี้ก็คือ...ให้พนักงานทุกคนลองไปทำเรื่องอะไรใหม่ๆ แปลกๆกับคนในชุมชนก็ได้ เพื่อนร่วมงานต่างแผนกก็ได้..สักคนเรื่องต่อปี...ก็จะมีโอกาสทำให้เขาเก่งขึ้น...ก็จะได้..Outcome Indicator ก็เช่น...พนักงานรายงานว่าตัวเองทำงานเก่งขึ้น หรือไม่ก็ไปลดต้นทุน เพิ่มยอดขายได้...หรือคิดค้นกระบวนการทำงานใหม่ๆได้...

........

สรุปเป็น KPI สองตัวได้ดังนี้ครับ..

Permance Driver

ให้ทำเรื่องวงแปลกๆ กับคนกลุ่มใหม่ คนละเรื่อง...

อาจแถมตัวช่วยด้วยการมี workshop เรื่อง ความคิดสร้างสรรค์

Outcome Indicator

นวัตกรรม 1 เรื่ือง/แผนก

....

ซึ่งก็ตรงกับกรณี 3M ที่ชอบคิดนวัตกรรมแปลกๆได้ เพราะเขาอนุญาตให้คนใช้เวลาทำเรื่องที่สนใจ เป็น Project ส่วนตัวได้ในเวลางานครับ..Post-it Note ก็เกิดจากประเพณีนี้แหละครับ...

....

ไม่อยากให้ KPI กลายเป็นปีศาจหลอกหลอน คนในองค์กร..ก็อย่าลืมหา Performance Driver กันนะครับ..

....

คุณละ คิดอย่างไร... 

คำสำคัญ (Tags): #appreciative inquiry
หมายเลขบันทึก: 434044เขียนเมื่อ 4 เมษายน 2011 11:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

พระท่านว่า มีแต่ กะปิ (Kpi) โดยไม่รู้เป้าหมาย ว่าจะนำไปตำน้ำพริก เลยสับสน ครับ

ท่านอาจารย์พูดได้โดนมากๆครับ..จุดประการให้เขียนเรื่องวิสัยทัศน์ร่วม Shared Vision ได้เลยครับ...

ผมเคยจัด workshop เรื่องนี้มาครับ ได้อะไรน่าสนใจทีเดียว

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ที่แวะมาเยี่ยมนะครับ..

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท