5 Era เรากำลังเข้ายุค wisdom


ฉลาดได้ แต่ ต้องเฉลียวบ้างนะ ....ฝึก non-logical thinking บ้างเด้อ

5 ยุค  ได้แก่

ยุคล่าสัตว์    พวกมนุษย์ถ้ำ  เอาตัวรอด ทำลายชีวิตผู้อื่น   เถื่อนๆ

ยุคเกษตรกรรม  ....  เริ่มทำงานเป็นทีม  พึ่งพา  ทานพืช  ลดการทำร้ายสัตว์

ยุคอุตสาหกรรม ....  เริ่มตอนมี เครื่องจักรไอน้ำใช้   ประมาณ คศ 1712  อยุธยาตอนปลาย      คนราคิดแบบเห็นแก่ตัวมากขึ้น   ผลิตคราวละมากๆ (mass production)  นักประดิษฐ์  วิศวกร  เจริญก้วหน้า ....  ฟังๆ ดูเหมือนจะดี  

           ผิดถนัดเลยครับ   ยุค Industrial era นี้   ทำลายโลกเร็วกว่ายุคใด   ในช่วง 300 ปี ที่ผ่านมา  ป่าไม้ สัตว์  สมุนไพร สูญหายอย่างรวดเร็ว   คนตายในสงครามเยอะกว่า ยุคก่อนหน้านั้น (เป็นแสนปี) รวมกัน

             การเกิด บรรษัท  (Corporation)  ทำตนเป็น คนผิดกฏหมาย ที่เหนือกฏหมายได้   มีทนายที่ดี  มีนักการเมืองหนุนหลัง  โกยกำไรกันเต็มกำลัง   ยิ่งแนวคิดแบบ  Just in time / Productivity improvement / TQM / ISO   ฯลฯ  ซึ่งเป็นของดีนะครับ  ระบบดี แต่ ถูกนำมาใช้โดยคนไม่ดี   งกๆเค็มๆ เห็นแก่ตัว    ก็ยิ่ง เร่งอัตรา การทำลายล้าง ทั้งจิตใจคน  ทรัพยากรธรรมชาติ

           ผลผลิตขององค์กรเพิ่ม  แต่  ทรัพยากรธรรมชาติของรุ่นลูกหลาน ก็ลดลงเร็วขึ้น

          คุณภาพ คือ ลูกค้าพอใจ   เป็นแนวคิดที่ ทำลายธรรมชาติอย่างรวดเร็ว    มันทำให้ลูกค้าเคยตัว ทำให้ผู้ผลิตคิดของใหม่ที่ไม่เป็นมิตรต่อทรัพยากรธรรมชาติ  ; ;  ของเก่ายังไม่ทันใช้ให้คุ้ม ของใหม่ออกมาอีกแล้ว  

          ระบบคุณภาพที่ใช้ๆกันอยู่     สร้างคนจิตใจ เหี้ยมแข็ง  เพ่งโทษ  ตำหนิ ฯลฯ 

          แนวคิดแบบวิศวกร ที่ ชมกันว่าเก่ง มีระบบ  ไปทำงานที่ไหนก็เป็นระบบ   ..แต่.. ตอนนี้  กลายเป็น ทำลาย เห็นแก่ตัว  มองแคบๆ  ไม่มีศิลป์   ไม่เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์  ขาดความอ่อนโยน   เห็นแก่ตัว   ฯลฯ  

             ระบบการศึกษาแบบ ยุคอุตสหากรรม  ทำให้ เราได้ นักธุรกิจโหดๆ  วิศวกรบ้าสงคราม บ้ากิเลส  นักกฏหมายที่ไม่มีความเป็นมนุษย์ ครู งกเงิน  อาจารย์หัวการค้า สื่อหิวเงิน  หมอพานิชย์  พระอลัชชี  นักการเมืองโกง    ฯลฯ ออกมาเพียบเลย

  ยุค Information Technology (IT)    ยุคคอมพิวเตอร์ ....   คิดว่าเป็นยุคที่สั้นที่สุด    มาเร็ว  จบเร็ว  เพราะ เริ่ม จะตันแล้ว   มีการ กั๊กเทคโนโลยี  ...   หลายคนจัดว่า ยุค IT ไม่เป็นยุค  เพราะ น้อยปีไปหน่อย   ถือว่าเป็น ยุคอุตสหากรรมตอนปลาย

   ยุคปัญญา (Wisdom)    เป็นยุคที่ไม่ใช้ ปัญญา แบบที่ เรียนๆ ท่องๆ มีปริญญากันนะครับ   ไม่ใช่ข้อมูลเยอะ  คนเรียนเก่ง เรียนสูงเยอะนะครับ  

     Wisdom  เป็นปัญญาขั้นสูง  เหนือเหตุผล   (non-logical thinking) เป็นเรื่องของ Presencing 

         ประชากรโลกเพิ่ม  ทรัพยากรขาดแคลน  เพราะ พวกยุคอุตสหกรรมถล่มสะเรียบ กอบโกยกันสนั่น   น้ำหมด  ฝนไม่ตก   คาดคะเน พยากรณ์ธรรมชาติไม่ได้ง่ายๆอีกแล้ว   คนมากขึ้น แย่งกันกิน   ฯลฯ    คนชั่ว เต็มบ้านเต็มเมือง

        คนที่ผ่าน วิกฤตหนักๆ  สงคราม ภัยธรรมชาติ    ก็จะ เข้าใจชีวิต  เริ่มคุยกันถึงเรื่องชีวิต   สืบค้นหาตนเอง   หาแหล่ง (source) ของตนเอง  ให้ความรักต่อกัน   เป็นปัญญาเพื่อพัฒนาตนเอง  รักษ์โลก  หล่อเลี้ยงจิตใจ   

        เริ่มมองตนเอง เป็นส่วนหนึ่งของโลก  ของจักรวาล  เราทุกคนเป็นเนื้อเดียวกัน  การกระทำอะไรนิดเดียวกระเทือนทั้งโลก (butterfly effect) หรือ เด็ดดอกหญ้ากระเทือนดวงดาว

         เป็นยุคที่ ค้นหาตนเอง  ค้นหา สัจธรรม( ธรรม ความจริง  ที่ไม่มีใครหาข้อมาโต้แย้งได้)    เป็นยุค  ที่ทนรับ ชะตากรรมที่พวก ยุคอุตสาหกรรม  ทำลายเอาไว้     เราต้องอยู่กับ ทรัพยากรที่จำกัด  สารพิษ  คนที่มี่แต่ปมในใจ  อคติ  ฯลฯ และ เราก็ต้อง ช่วยเหลือ  หล่อเลี้ยงจิตใจพวกเขา

       

            

หมายเลขบันทึก: 163689เขียนเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2008 12:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 13:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
เออ !! แล้วพวกหลงยุค อย่างพวกแซ่แฮ จะให้สังกัดยุคไดโนเสาร์ หรือยุคกระเป๋าแบบแฟนทิ้ง ละครับ พระอาจารย์?

ประกาศ  เจ้าก็อฟล์ ลูกชายโทนผมหาย ใครเก็บได้นำส่งด่วน ที่โทรๆๆๆๆ จูนๆๆ 

ถ้า....แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องจบลงด้วย ...ต้องอย่างงี้....เท่านั้นใช่ไหมครับ

เพราะปัญญาน้อยๆจากสัญญาเดิมๆ อาจพาหลงทางได้

----

ฉลาดได้ แต่ ต้องเฉลียวบ้างนะ ....ฝึก non-logical thinking บ้างเด้อ

เอะใจ...ขอบคุณมากครับ

เห็นด้วยค่ะ  ......

อ่านแล้วรู้สึกดีจัง "ที่ตัวเองไม่เพี้ยน"

  • สวัสดีครับท่าน
  • ผมว่าเดี๋ยวนี้เราได้เห็นอะไรเปลี่ยนแปลงไปแบบกลับตาลปัตรกันต่อหน้าต่อตา  ทั้งเหตุการณ์ธรรมชาติ  และวิธีคิดของคน
  • ถึงคิดอะไรให้เป็นบวกไว้  แต่เหตุการณ์หลายอย่างที่ตามมาก็ดูจะน่าเป็นห่วง
  • การขบคิดปรัชญา "พอเพียง" ให้แตกและนำพาปฏิบัติน่าจะพอเอาอยู่ หรือไม่อย่างไร
  • เห็นบ้านอื่นเมืองอื่น  หรือประเทศเราที่มีการทำลายกัน  ได้แต่เร้าใจ  ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร...
  • ขอบคุณครับ
  • ขออภัยครับในความเห็นข้างบนที่ว่า "เห็นบ้านอื่นเมืองอื่น  หรือประเทศเราที่มีการทำลายกัน  ได้แต่เร้าใจ  ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร..."
  • ขอแก้เป็น"เห็นบ้านอื่นเมืองอื่น  หรือประเทศเราที่มีการทำลายกัน  ได้แต่เศร้าใจ  ไม่รู้ว่าจะลงเอยอย่างไร..."
  • ขอบคุณครับ

ชอบยุคปัญญา ของอาจารย์  คิดตามอาจารย์ แล้วเข้าใจ และมองแง่ดี งาม ของสังคม

ขอบคุณค่ะ

ยุคปัญญานี้ น่าจะแก้ไขความอดอยาก และ ปัญหาในสังคม อื่นๆได้นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท