การนิยาม คำว่า สุข ของแต่ ละคน มันจะแสดงให้เห็นถึง กระบวนทัศน์ของคนๆนั้นได้อย่างหนึ่ง
สุขทางโลก เป็นเหมือนยาเสพติด
เราตกเป็นเหยื่อของ ระบบ เสพ ตั้งแต่ เรียนหนังสือเลยทีเดียว ครูไปการบ้าน ไปรวบรวม ค้นหา จัดระบบ ฯลฯ เรียกง่ายๆว่า เคี้ยวเอื้อง จากนั้น คายออกมา ให้ นักเรียนกลืนเข้าไป
กลายเป็น ระบบ "รับรู้" ไม่ "ลงมือ" สักที
เมื่อเราเจอ สิ่งที่ เอา "เงิน" แลกมาได้ เราก็ติดกับ ของ กิเลส ของบริโภคนิยม ทันที ก่อให้เกิด สันดาน "มักง่าย" ....
จะมี สักกี่ โรงเรียน กี่ครอบครัว ... ที่จะไหวตัวทัน ฉูกคิด เรื่อง การโดนหลอกให้ "อิน" กับวัตถุ
ประชากร ต่างก็เสพ ต่างก็ใช้ทรัพยากร เอาสะดวกเข้าว่า ฯลฯ สภาวะโลกร้อน การเอาคืนจากธรรมชาติจึงเกิดขึ้น ..... อากาศวิปริตทำนายไม่ได้
เมื่อ เรา "อิน" กับ วัตถุ เทคโนโลยีมากๆ เราก็จะ เจอ สุขจอมปลอม
จะมีสักกี่คน ที่กล้าจะคิด กล้าทวนกระแส ฉุกคิด ฝืนบริโภคนิยม มาสู่ "ธรรมชาติ"
คนที่ไม่เคย ค้นพบ สุขทางใจ ก็ยากที่จะเข้าใจ
คนที่หลุดไปตามกระแส เสพนิยม วัตถุนิยม ก็ยาก ที่จะหยุดตนเอง มาดูตนเอง มาค้นหาตนเอง มารู้จักใจ ควบคุมใจ จนเจอความสุขที่ใจ ..... ไม่สนใจศาสนา ติดสุข
คนเรียนมามากๆ ในระบบเสพ จะเป็น นักคิดที่ "มือ กอด อก" สั่งๆๆๆ ลูกน้อง ..... รอ วิจารณ์ๆๆๆ รอตำหนิ ..... วิตกๆๆๆๆ ฯลฯ
ชอบคิดเอง เออเอง สั่ง วิพากษ์ คิดในสมอง ... แต่ ไม่ลงมือทำ มักทึกทักเอาเองว่า ตนเองเข้าใจ
นี่แหละ ..... "ไม่รู้ ว่า ตนเองไม่รู้" แต่ คิดว่าตนเองรู้ นี่แหละ หลง
หลง แก้ยากกว่าโลภ โลภแก้ยากกว่าโกรธ
เคี้ยวเอื้อง นอนอาบแดด บิดขี้เกียจ
แต่พอลุกได้ก็สำแดงเดช แสนรู้ไปเสียทุกอย่าง
ปัญหาอยู่ที่หัวหลักหัวตอ รอวันผุ ควรมีคนเก็บไปเผาไล่ยุง โด่ไว้ให้คนเดินตำเท้าทำไมก็ไม่รู้
นานๆ อาจารย์จะออกมาเคาะกระโหลก
รอนานเกินไป เมื่อไหร่กิเลิศจะเขยื้อนละครับ
คนเรียนมามากๆ ในระบบเสพ จะเป็น นักคิดที่ "มือ กอด อก" สั่งๆๆๆ ลูกน้อง ..... รอ วิจารณ์ๆๆๆ รอตำหนิ ..... วิตกๆๆๆๆ ฯลฯ
ชอบคิดเอง เออเอง สั่ง วิพากษ์ คิดในสมอง ... แต่ ไม่ลงมือทำ มักทึกทักเอาเองว่า ตนเองเข้าใจ
นี่แหละ ..... "ไม่รู้ ว่า ตนเองไม่รู้" แต่ คิดว่าตนเองรู้ นี่แหละ หลง
หลง แก้ยากกว่าโลภ โลภแก้ยากกว่าโกรธ
ผมหายไปนานเลย ไม่ค่อยได้เขียน blog
กำลังวุ่นๆ กับ หลายๆเรื่อง .... สอนธรรมะ ... เลี้ยงลูกเพราะปิดเทอม .... ทำ "ร่มธรรม" ทำเกษตรสับสน
จริงๆ ก็เขียนไปมากแล้ว
คนเราชอบเสพนิยม ขนาดธรรมะ ยังกะมาเสพเลย ไม่ลงมือทำ
ธรรมะ คือ ทำมะ ทำสะทีสิ
สวัสดีค่ะอาจารย์ สมัครขอเรียนรู้จากบล็อกของอาจารย์ด้วยคนนะคะ
ตัวเองก็กำลังมีชีวิตไร้กรอบ เป็นอิสระจด้วยการได้เข้าใจธรรมะพอประมาณที่สามารถคลายทุกข์ ให้ชีวิตโปร่งเบา การได้ปฏิบัติธรรมทำให้ได้เห็นความสำคัญของการเป็นผู้ลงมือปฏิบัติเอง และมองเห็นกิเลสค่ะ
ขอบคุณที่อาจารย์กรุณาได้เขียนเป็นการย้ำเตือนให้มีสติในเรื่องนี้ค่ะ
"ไม่รู้ว่า ตนเองไม่รู้"
อันตรายที่สุดเลยครับ ขอบคุณมากครับ
สวัสดีครับ
แวะเวียนมาคารวะ แม้นานๆครั้ง แต่มาทั้งใจครับ