AAR คำถามที่ไม่มีคำตอบ ผมมาดูต้นพริกทำไมที่อีสาน?


การได้ไปเฮฮาศาสตร์ครั้งที่ 5 คราวนี้นั้น ผมมีเรื่องที่อยากเขียนเล่ามากมายหลายเรื่องเหลือเกินครับ มากจนไม่รู้จะเริ่มต้นที่จุดไหนดี แต่รู้ว่าคงต้องเริ่มต้นสักจุดหนึ่งแล้วทยอยเขียนไปเรื่อยๆ เพราะถ้าไม่เริ่มต้นเขียนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว ก็คงไม่ได้เขียนสักเรื่องเดียว

เรื่องแรกสุดที่ทำให้ผม "คิด" และสะกิดใจในตอนแรกสุดที่ได้สัมผัสสวนป่ามหาชีวาลัยของพ่อครูบาสุทธินันท์คือตอนที่พ่อครูบานำคณะซึ่งประกอบด้วย ลุงเอก คุณ Conductor คุณซูซาน และผม เดินชมสวนป่า

สวนส่วนแรกที่พ่อครูบาพาไปชมคือส่วนที่พ่อครูปลูกไม้ใหญ่ทดลองไม่ว่าไม้เนื้อแข็งหรือไม้เนื้ออ่อนต่างๆ

ทันทีที่ผมเดินเข้าไปในสวน ความรู้สึกแรกของผมคือ "สวนนี้โปร่งจริง" ใช่แล้วครับ ผมรู้สึกว่าสวนโปร่งกว่าสวนที่ผมคุ้นเคย แต่ผมทราบจากคุณ Conductor ว่าถ้าดูจากแผนที่ดาวเทียมแล้ว นอกเหนือจากสวนป่าไปแล้ว จะเห็นว่าพื้นที่บริเวณนั้นโล้นไปหมดแล้ว สวนป่าของพ่อครูบาแม้จะดูโปร่งในสายตาผม แต่คือโอเอซีสของพื้นที่บริเวณนั้นจริงๆ

ผมรู้สึกว่าสวนโปร่ง เพราะผมเกิดและโตที่จังหวัดชุมพร จังหวัดที่ฝนตกเป็นอันดับสองของประเทศไทย เป็นหลานของ "ชาวสวน" ทั้งฝั่งคุณพ่อและคุณแม่ โดยเฉพาะฝั่งคุณแม่นี่มาจากอำเภอหลังสวน ชื่ออำเภอก็บอกแล้วว่ามีแต่สวน

ผมเดินเข้าออกสวนผลไม้ที่ชุมพรตั้งแต่เด็กจนอายุสิบแปดก่อนจะมาเรียนที่ ม.สงขลานครินทร์ การเดินไปในสวนคือการเดินเข้าไปใน "ถิ่นเก่า" ของผมนั่นเอง

สวนที่ชุมพรจะครื้มไปหมด ถ้าเดินเข้าสวนโอกาสที่จะได้เห็นแสงแดดชัดๆ นั้นแทบจะไม่มีซึ่งเป็นเรื่องปกติของ tropical rainforests โดยทั่วไป

สังเกตรูปจาก Wikipedia ที่ลิงก์ไว้นะครับ ขอบเขต tropical rainforests ไม่ครอบคลุมอีสาน ดังนั้นการเพาะปลูกที่อีสานไม่ได้สมบูรณ์เหมือน tropical rainforests ต้องใช้องค์ความรู้ในการประยุกต์พัฒนาเพื่อให้ได้ผลผลิตที่บริโภคได้

จากนั้นพ่อครูบาพาเดินไปเรื่อยๆ ดูต้นมะสังที่ท่านเอามะนาวมาต่อกิ่งไว้เพื่อให้สามารถต่อสู้กับความแห้งแล้งได้

จุดนี้เองที่ทำให้ผมสะดุดคิดอย่างมาก

"ผมมาดูมะนาวทำไมที่อีสาน?"

ที่ชุมพรเราไม่ต้องเอามะสังมาต่อมะนาว แค่โยนเม็ดมะนาวเดี๋ยวมันก็ขึ้นเป็นกอใหญ่

พ่อครูบาพาไปดูต้นพริกที่ขึ้นเองโดยธรรมชาติ และพาไปดูต้นพริกที่พ่อครูปลูกเอง โดยให้เห็นความแตกต่างระหว่างต้นพริกธรรมชาติกับต้นพริกปลูก ว่าต้นพริกธรรมชาตินั้นทนกว่าต้นพริกปลูกมากมายนัก

ผมถามพ่อครูไปหลายเรื่องเกี่ยวกับต้นพริก เพราะผมพยายามปลูกพริกที่แฟลตแล้วเพลี้ยขาวกินน้ำเลี้ยงจนตายหมดทุกที

ถามไปผมก็สะท้อนใจไป

"ผมมาดูสวนทำไมที่อีสาน?"

ผมเดินทางสองพันกว่ากิโลเมตรเพื่อมาเจอคำถามในใจที่ไม่อยากตอบ

ผมรู้จักประเทศไทยเมื่อผมไปอเมริกา

ผมรู้จักภาคใต้เมื่อผมไปอีสาน

ผมรู้จักชุมพรเมื่อผมไปบุรีรัมย์

ผมรู้จัก อ.หลังสวน เมื่อผมไป อ.สตึก

มนุษย์นี้โง่จริงๆ

ปู่ย่าตายายผมไม่เคยต้องซื้อพริกซื้อมะนาว สิ่งเหล่านี้ขึ้นตามธรรมชาติในดินที่อุดมสมบูรณ์มากของ tropical rainforests

และไม่ใช่แค่พริกและมะนาวเท่านั้น ปู่ย่าตายายผมไม่เคยต้องซื้อพืชผักอะไรกิน มันมีหมดอยู่ในสวนอยู่แล้ว โดยต้องการการดูแลน้อยมาก ตาผมจะซื้อก็เพียงข้าวกับปลาเพราะเป็นชาวสวนเต็มตัว ส่วนปู่ผมไม่ต้องซื้ออะไรเลยเพราะทำนาด้วย ถ้ามีก็คงซื้อปลาทะเลบ้าง

ตอนเด็กๆ เวลาไปหาปู่ย่าตายาย จะต้องหอบผลไม้กลับมาเต็มไปหมด ในขณะที่ข้าราชการผู้น้อยอย่างพ่อและแม่ผมแทบจะไม่สามารถหาอะไรไปฝากปู่ย่าตายายที่จะมีประโยชน์ต่อเขาได้เลย

ที่บ้านพ่อผมที่ชุมพรมีต้นพริกอยู่หนึ่งกอ กอใหญ่ด้วยทั้งๆ ที่ไม่เคยสนใจดูแลมัน บ้านผมไม่เคยต้องซื้อพริกกิน ก่อนกินข้าวพ่อผมเดินไปเด็ดพริกสดมากินมื้อละหลายสิบเม็ด ถ้าไม่มีพริกสด อาหารไม่อร่อย

เมนูเด็ดของบ้านผมคือ "ไข่เจียวใบพริก" โดยใช้ใบสดๆ ใส่ในไข่ตอนเจียว ใส่ทั้งพริกสดและใบ หอมอร่อยจนเหลือจะบรรยาย ถ้าต้นพริกไม่ใหญ่จริง จะเด็ดใบมาเจียวไข่เป็นว่าเล่นไม่ได้หรอกครับ

นักวิจัยจากต่างประเทศค้นพบประโยชน์มากมายของพริก ทำให้ผมรุ่นหลานผู้มีดีกรีปริญญาเอกจากอเมริกา ผู้จิบนม whole milk หนึ่งแก้วกับกาแฟเป็นอาหารเช้าจน LDL พุ่งกระฉูดก็ยังไม่รู้ตัว ใช้คอมพิวเตอร์ MacBook อ่านพบในเว็บไซต์ด้านสุขภาพจากเมืองอังกฤษ เลยคิดจะปลูกพริก!!

แต่น่าเศร้าที่ปลูกไม่ขึ้น!! ปลูกยังไงก็ไม่เคยได้กินพริกที่ปลูกเอง!!

ในขณะที่พริกในท้องตลาดเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลงเกินกว่าจะกินมื้อละกำอย่างพ่อผมกินโดยไม่รู้สึกหวาดระแวง

ผมเคยเปิดเว็บไซต์สุขภาพในต่างประเทศพบสารสกัดจากพริกอัดเม็ด ไม่รู้ว่าบริษัทไหนนำเข้ามาบ้าง หากมีราคาก็แพงเกินกว่าที่จะซื้อมากินได้ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาหาทางปลูกพริกต่อไป

แต่ความรู้ที่ร่ำเรียนจากเมืองฝรั่งไม่ได้ช่วยให้ปลูกพริกขึ้นได้เลย

ยืนมองต้นพริกที่โตเองตามธรรมชาติที่สวนป่าสะท้อนใจผมมาก

พ่อมีรายได้มากกว่าปู่ ผมมีรายได้มากกว่าพ่อ แต่พ่อรวยกว่าผม และปู่รวยกว่าพ่อ

จนถึงวันนี้ผมยังไม่มีคำตอบ "ผมไปดูต้นพริกทำไมที่อีสาน?"

หมายเลขบันทึก: 183787เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2008 00:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (31)

สวัสดีครับ

วันนี้มีเหตุให้ต้องอยู่ดึก เลยอ่านเสียหลายบันทึก

อาจารย์บ่นว่า รู้จักเมืองไทยเมื่อไปอเมริกา ฯลฯ

อันที่จริง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ

การเห็นความแตกต่าง ทำให้เราเห็นอะไรมากมายขึ้นอีกหลายเท่าตัว

เพราะชาลส์ ดาร์วินได้เดินทางไปต่างเมือง (รอบโลก) นั่นแหละ เขาถึงเห็นความแตกต่าง

ถ้าไม่ได้ไปกาลาปาโกส ก็คงไม่ได้นึกถึงเต่า กิ้งก่า หรือนก ที่อื่น

ฉันใดก็ฉันนั้น

แม้จะไม่มีคำตอบ ว่าไปดูพริกทำไม

แต่ก็ได้อะไรๆ กลับมาเยอะใช่ไหมครับ

ป.ล. อ่านจากบันทึกก่อนๆ แล้ว รู้สึกว่าอาจารย์ทานเผ็ดไม่ใช่เล่นเลย อิๆ

  • อ่านแล้วรับรู้ความในใจของอาจารย์เลยค่ะว่า...สะท้อนใจแค่ไหน
  • .......
  • อดีตเก่าเราสร้างใหม่ไม่ได้...แต่เราอดีตใหม่ๆของเราได้...โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้...ใช่เปล่าค่ะ
  • .......
  • มาชวนเดินกันไป...สร้างอดีตใหม่ให้คน(ทำ)สวน...ก่อนไม่มีคน(ทำ)สวนค่ะ

 

ใครมา ก็พาไปดูพริก เผื่อจะช่วยผลิกอะไรได้บ้าง?

อ่านแล้วหัวเราะ หุ หุ.."ผมไปดูต้นพริกทำไมที่อีสาน?" ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่เข้าใจมากๆ ที่อาจารย์บอกว่า

ผมรู้จักประเทศไทยเมื่อผมไปอเมริกา  --> อันนี้เหมือนกันเด๊ะ

ผมรู้จักภาคใต้เมื่อผมไปอีสาน

ผมรู้จักชุมพรเมื่อผมไปบุรีรัมย์

ผมรู้จัก อ.หลังสวน เมื่อผมไป อ.สตึก

มนุษย์นี้โง่จริงๆ

 

 

ขอแจมๆ

ดิฉันเริ่มรู้จักตัวเอง เืมื่อเริ่มรู้จักธรรมชาิติค่ะ ^ ^

ยอดเยี่ยม จริงๆ มาเถอะครับ มาบ่อยๆ อาจารย์อาจจะได้อะไรแบบที่อาจารย์มาแล้วอีกมากมาย ในเรื่องอื่นๆ 

ผมชอบที่การท่องป่าแบบธรรมชาตินี้ ได้กระตุกอะไรบางอย่างของเราให้ได้ทบทวนกันนะครับ  นี้แหละ KM ธรรมชาติครับ

ขอบคุณครับ

ทำไมคนเมืองอย่างเราเวลาไปสวนหรือป่าจะรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ถ้าให้ตอบก็คงบอกว่ามนุษย์ถูกออกแบบมาตั้งแต่ต้นแบบนั้น หรือทำไมเวลาเหนื่อยล้ามองต้นไม้จึงหาย คำตอบก็คงประมาณเดียวกันอีกว่า เพราะมนุษย์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อยู่กับสิ่งที่เราทั้งหลายพยายามสร้างขึ้นเพื่อสนองความสะดวกสบาย

สิ่งต่างๆ มันดำรงอยู่อย่างนี้มานานตั้งแต่กำเนิดโลกและมีมนุษย์ขึ้นมา จนเราในยุคนี้ต่างหากที่พยายามเปลี่ยนมัน ยุคมืดที่เราได้คุยกันไว้คงเป็นคำที่ไม่ผิดนัก เราภูมิใจกับเทคโนโลยีนักหนา ภูมิใจกับสิ่งสารพัดที่เราสร้าง บังคับ เปลี่ยนแปลง ควบคุม บางคนข้ามโลกไปเรียนถึงอเมริกาในที่สุดแค่พริกต้นเดียวก็ทำให้เป็นทุกข์ใจได้ อะไรคือสิ่งลวงตา อะไรคือความจริง คงต้องหาคำตอบให้กับตัวเองต่อไป หรือจะเริ่มหยุดทุกข์แล้วหันมาทำสิ่งที่เราคิดว่าน่าจะเป็นคำตอบได้ (ไปขอเมล็ดพันธุ์จากใครบางคนพรุ่งนี้) ^ ^

ส่วนคนเขียนคอมเม้นท์ตั้งใจจะเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองให้เรียบง่ายขึ้นที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ไม่ต้องโฆษณาให้ใครทราบ เริ่มเอง ทำเอง ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ไม่มีใครแจกโล่ให้ ไม่ต้องพิสูจน์อะไรกับใครค่ะ

สงสัยผมต้องรีบไปสวนป่ามหาชีวาลัยแล้วละครับ

น่าจะได้รู้จักภูเก็ตเมื่อไปเห็นบุรีรัมย์

น่าจะได้รู้จักพังงาเมื่อไปสะตึก

น่าจะได้รู้จักสวนของตัวเองเมื่อไปเห็นสวนป่าฯ ครับ อิอิ

พริกชอบแดดครับ แต่น้ำก็ต้องถึงด้วย

แต่น้ำตลอดเวลา ก็อาจรากเน่าได้

 

สวัสดีค่ะ

เช่นกันค่ะว่า....รู้สึก...

...รักประเทศไทยมากขึ้นเมื่อได้ไปทัวร์บุญที่เสียมเรียบเมื่อหลายปีก่อน

...สนใจสวนหลังบ้านตัวเองมากขึ้นหลังจากได้ไปสวนป่าฯ

ขอบคุณที่จัดให้มีกิจกรรมดีๆ ค่ะ :)

อุตส่าห์มาจาก กทม.มายงโย่ยงหยกภาพอย่างนี้ก็หาดูมิใช่ง่ายในสวนป่า

เจอคนชอบเมนูเดียวกันแล้ว "ไข่เจียวใบพริก" เคี้ยวโดนเม็ดพริกอ่อน หอมกลิ่นเฉพาะนำรสเผ็ดเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้ลิ้มรสมานานแล้ว

โจยท์ที่ได้รับที่นี่คือ ทำอย่างไรถึงจะให้พี่น้องลาวที่รับผิดชอบ มีรายได้มากกว่าแปดร้อยusd/คน/ปี อยากให้คนที่มอบโจทย์มาอ่านบันทึกของอาจารย์จัง

เพราะคนลาวเมืองหงสาทุกวันนี้ รวยอยู่แล้ว รวยมากๆๆๆด้วย อยากจะพักก็ได้หยุด อยากกินตัวเนื้อตัวปลากินผักชนิดใด เพียงแต่เดินออกไปชายป่าก็ได้มากิน

แล้วนี่เราจะเอาข้าวโพด เอายางพารามาให้เขาต้องเหน้ดเหนื่อย หรือเสนอการจ้างงานให้เขาทำตามระบบมนุษย์เงินเดือนอีก

ต้องพาคณะนำของ...ไปดูต้นพริกสวนท่านครูบาเสียแล้ว 

ไข่เจียวใบพริก ฟังดูน่ากินกว่าแกงไตปลาเยอะเลยครับ เสียดายที่คงไม่มีวาสนาจะกินเพราะต้นพริกไปซะแล้ว....

mission ของผมหลังจากกลับมาจากสวนป่าคือปลูกพริกให้ได้กินใบพริกครับ

ตอนนี้กำลังวางแผนใหญ่ครับ เนื่องจากปลูกที่แฟลตไม่ได้ผล ตอนนี้คิดจะปลูกที่คณะเลยครับ จุ๊ๆ กำลังหาทางตะล่อมผู้บริหารคณะอยู่ แต่วันสองวันนี้ไม่ได้เจอใครเลยครับ

โครงการทดลอง micro gardens for sustainable economy ครับ ฟังดูดีมีสกุล มีความคืบหน้าแล้วผมจะเขียนเล่าแน่นอนครับ

ที่ห้องผมที่แฟลต ปลูกพริกขึ้นครับ

ทุกวันนี้ ผมก็ได้อาศัยพริกจากต้นนี้ เป็นแหล่งประทังชีวิต ; P

  • สวัสดีค่ะ
  • มาอ่าน..แล้วก็มาสะดุดคิด
  • ทำอย่างไร..ให้รู้จักประเทศไทย..โดยไม่ต้องไปอเมริกา
  • ทำอย่างไรให้เด็กเห็นค่าในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่
  • งานของครู..ต้องคิด..คิด..คิด..
  • แล้วก็ต้องทำ..ทำ..ทำ..
  • หวังว่าคงจะทำให้เกิดผล..ที่ดูดีมีสกุลได้บ้างค่ะ..^^

สวัสดีครัีบอาจารย์

    บันทึกนี้ได้ข้อสังเกตอะไรหลายๆ อย่างครับ ผมก็รู้จักเมืองไทยมากขึ้นก็มาเยอรมันนี่ล่ะ รู้จักอิสานมากขึ้นก็ตอนเข้ามาในโกทูโนว์นี่ล่ะครับ แต่ก็สู้ลงไปเดินที่อีสานเองไม่ได้ ได้รับการบอกเล่าก็ไม่เท่าลงไปคลุกเอง

    จริงๆ แล้วเราอาจจะไม่ต้องไปเห็นอะไรที่ไหนก็ได้ครัีบ ถึงจะสร้างความรู้ได้ หากเราัตั้งข้อสังเกตและสนใจอย่างจริงจังในบ้านเราเองก็ตาม เพราะว่าแม้แต่รุ่นปู่ย่า ถึงพ่อแม่ และรุ่นเรา สภาพก็ต่างแล้ว ภาษาเลขบอกว่า ดิฟเทียบกับเวลา  แต่การเปรียบเทียบระหว่างที่คือ ดิฟเีทียบกับตำแหน่ง

    หากอาจารย์สนใจจะปลูกพริกจริงๆ ลองไปขอเมล็ดพริกสุก หรือซื้อพริกสุกที่ตลาดครัีบ ที่สุกสีแดงแล้วก็เอามาขยี้หรือว่าผ่าเมล็ดออกก็ได้ครัีบ หรือหากให้ดี ก็เอาเมล็ดจากพริกแห้งก็ได้ครับ ที่นี่ผมปลูกกัน ก็ซื้อเอาจากร้านเอเชียนี่ล่ะครับ แล้วปล่อยให้ให้สุกหรือแห้งแล้วค่อยแช่้น้ำ ก่อนนำไปปลูกในดิน ลองเอาดินใส่กระสอบดูครัีบ แล้วก็ปลูกในกระสอบก็ได้ครับ ผมเชื่อว่าต้องงอกครับ

    กับอีกอย่าง ในเวลาพร้อมๆ คือปลูกแบบไม่ปลูก เอาเมล็ดไปหว่านไว้ตามที่ที่ชุ่มตามที่ต่างๆ ครับมันน่าจะงอกเช่นกันครัีบ นี่เป็นการคัดเลือกพันธุ์ตามธรรมชาติอีกแบบครัีบ 

    ปัจจัยหลักๆ คือ ดิน น้ำ และแสงแดด ครัีบ  หากต้นดีจะส่งผลให้ปลายดีด้วยครัีบ  ผมขอเขียนในเชิงที่เคยได้เล่นๆ กับพวกพืชผักเหล่านี้มาบ้างครับ แม้จะไม่มากก็ตามครัีบ

    ผมจำได้ตอนนั้น ยายผมให้ไปช่วยถอนหญ้าใต้ต้นพุ่มพริกครัีบ มาถึงตอนนี้ทำให้คิดใหม่ว่า การปลูกแบบเชิงนิเวศน์นั้นอาจจะเป็นอีกแบบ มาตอนหลังแม่ปลูกแบบไม่ต้องถอนหญ้าออกหมด พริกต้นที่ไม่ได้ปลูกเองนั้น ต้นสูงกว่าคนอีกครับ พุ่มใหญ่มากครัีบ ต่างจากต้นที่เราปลูกเองจริงๆ ครัีบ

    อาจารย์โชคดีครัีบ ตอนนี้มีต้นไม้ที่กำลังเติบโต นับว่ามองการณ์ไกลครัีบปลูกต้นไม้ที่เป็นคนเพื่อปลูกต้นไม้ที่เป็นพืชครัีบ อิอิๆๆๆ

ขอบคุณมากครัีบ สำหรับแนวทางที่ให้ข้อคิดที่ดีครัีบผม

ผมเพาะพริกขึ้นแล้วครับ ขึ้นจากเมล็ดมาหลายครั้ง แต่พอออกใบมากถึงจุดหนึ่ง เพลี้ยสีขาวก็จะเข้ามากินน้ำเลี้ยงแล้วต้นก็จะค่อยเฉาตายไปครับ ครูบาบอกว่าให้เอาขี้เถ้าโปรยครับ

ผมรู้จักประเทศไทยเมื่อผมไปอเมริกา 

ผมรู้จักภาคใต้เมื่อผมไปอีสาน

ผมรู้จักชุมพรเมื่อผมไปบุรีรัมย์

ผมรู้จัก อ.หลังสวน เมื่อผมไป อ.สตึก

'''''''''''''''''

ทำให้นึก ว่า คนส่วนมากรู้สึกเห็นคุณค่า หรือรู้ว่ารัก เมื่อเราสูญเสีย สิ่งเหล่านี้น ไปแล้ เพราะ ฉะนั้น อย่ารอ ให้เราต้องสูญเสีย เราจึงจะเห็นคุณค่า เอ  จะเกี่ยวกันไหมคะเนี่ย

| ผมรู้จักประเทศไทยเมื่อผมไปอเมริกา

| ผมรู้จักภาคใต้เมื่อผมไปอีสาน

| ผมรู้จักชุมพรเมื่อผมไปบุรีรัมย์

| ผมรู้จัก อ.หลังสวน เมื่อผมไป อ.สตึก

ผมจะรู้จักตัวเอง เมื่อพยายามเข้าใจผู้อื่น ด้วยรึเปล่าครับนี่ :)

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ ผมเชื่อว่าผมพยายามเข้าใจผู้อื่นโดยเอาใจเขามาใส่ใจเราตลอดมาครับ และจะพยายามต่อไปแน่นอนครับ

แต่อย่างไรก็ตามผมก็ไม่เข้าใจผู้ที่พยายาม copy & paste เพื่อส่งการบ้านครับ นอกจากไม่ถูกต้องในฐานะกิจกรรมของการเรียนการสอนด้านการจัดการความรู้แล้ว ยังผิดกฎหมายอีกด้วย

หวังว่าคงไม่ใช่เรื่อง copy & paste นะครับ ถ้าใช่ก็ขอนับถือในความพยายามสูงจริงๆ แต่ขอเรียนว่าที่เว็บนี้ไม่ใช่ webboard ครับ กรุณาอย่า "เกรียน" ครับ

ผมขอความกรุณาของคุณให้พยายามเข้าใจผมบ้างที่ต้องรับผิดชอบกับ พรบ. ความผิดทางคอมพิวเตอร์ ในเว็บอันดับที่ 104 ของประเทศที่จะถูก "เตือน" ได้ทุกเวลา (และผมถูกเจ้าของข้อมูลเตือนมาโดยตลอด) เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ ขอบคุณสำหรับความเข้าใจครับ

  • สวัสดีครับ
  • บันทึกนี้ช่วยกระตุกให้คิดต่อ
  • อิอิ...กระตุกต่อมคิดอีกแล้ว
  • ขอบพระคุณมากครับ

อาจารย์ครับเพลี้ยแป้ง(เพลี้ยสีขาว)นั้นสามารถไล่ไปได้ด้วยน้ำ้หมักสมุนไพรครับ

สูตรที่ผมเคยใช้คือ นำตะไคร้1กิโลกรัม ซอยให้ละเอียดใส่ลงในถังเทน้ำสะอาดให้ท่วมตะไคร้ปิดฝาถังให้สนิท หมักเอาไว้ประมาณ 1 เดือน หมั่นเปิดฝามาคนทุกๆ 7 วัน

เมื่อหมักได้ที่แล้ว กลิ่นจะฉุนมากครับ

(หากมีปุ๋ยน้ำชีวภาพให้เทใส่ลงไปด้วยจะช่วยลดเวลาในการหมักครับ)

ให้เจือจางกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1:1 แล้วฉีดพ่นให้ทั่วต้นไม้ที่โดนเพลี้ยครับ ฉีดติดต่อกันทุกๆ 7 วัน เพลี้ยจะหายไปครับ

เมนูไข่เจียวใบพริกน่าลองทำมากครับ น่าจะอร่อย

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆครับผม

ข้อความนี้ทั้งของ อ.ธวัชชัย และคุณBmigC มีสาระทำให้คิด

ผมขออนุญาตินำข้อความนี้ไปใช้สอนคนเพื่อให้เกิดสติ  ที่ต้องอยู่ร่วมกันบนความต่าง  และความขัดแย้งแบบสุนทรีย์แล้วมีความสุข 

  • ผมรู้จักประเทศไทยเมื่อผมไปอเมริกา
  • ผมรู้จักภาคใต้เมื่อผมไปอีสาน
  • ผมรู้จักชุมพรเมื่อผมไปบุรีรัมย์
  • ผมรู้จัก อ.หลังสวน เมื่อผมไป อ.สตึก
  • ผมจะรู้จักตัวเอง เมื่อเข้าใจผู้อื่น 

ทุกคนอยู่ในกฏของสังคม 

กฏหมายต่างๆบางทีออกมากลับมาทำร้ายคนและสังคม  คนเสียหายจากกฏหมายและผูใช้กฏหมายมามากแล้ว

เพราะฐานแห่งความคิดของกฏหมายบางทีก็มาจากระบบทุนนิยม  มาจากนายทุน  มาจากพวกชั้นสูง  มาจากผู้ที่คิดว่าคนไทยนี้โกง  คนไทยนี้โง่

ผมไม่เชื่อว่าการใช้กฏหมายบังคับจะให้คนเป็นคนดี  เฉกเช่นไม่เชื่อว่าใช้อาวุธจ่อหัวคนแล้วบังคับให้คนเป็นคนดี  

ขอบคุณลุงเอกที่เตือนสติครับ ผมเองมี bias ที่คิดว่าคุณ BmigC เป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับกรณีที่พยายามใช้พื้นที่ GotoKnow ในการทำการบ้านแบบ copy & paste ตามที่อาจารย์สั่งแล้วผมไม่อนุญาตและทำให้กลุ่มผู้เกี่ยวข้องนั้นไม่พอใจซึ่งเป็นเหตุอยู่ในบันทึกอื่นและโพสต์เข้ามาในเวลาใกล้เคียงกันครับ

ที่จริงแล้วถ้าไม่ได้อ่านบนพื้นฐานของ bias นั้น ความคิดเห็นของคุณ BmigC ดีมากทีเดียวครับ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ว่าเราจะรู้จักตัวเองก็ต่อเมื่อเราพยายามเข้าใจผู้อื่นครับ

ลุงเอกอ่านมาตลอด ยังไม่ถึงเวลาสำนักสันติวิธีจะเข้าไปดำเนินการครับ  ผมออกจะดูเป็นสุนทรีย์มากกว่า  ถ้าชกปากกันเมื่อไรสุนทรีย์หายครับ

ชีวิตเคยเกรียนมาก่อนครับ

สวัสดีค่ะ

ไม่ชอบทานเผ็ด ทราบแต่ว่า ที่บ้านปลูกพริก ไม่ค่อยได้นาน โดนเพลี้ยเล่นงานทุกทีค่ะ

  • ตามมาดู
  • เอาที่บ้านไร่มาให้ดู
  • จะลองไปทำเมนูต้นพริกดูครับ

เข้ามาเพื่อจะขอ "ชิมพริก" จากสวนอาจารย์หลังจากได้ลิ้มรสพริกสดสดจาก

สวนป่าพ่อครูบา สุทธินันท์ มาแล้วค่ะ และก็ขอเชิญชวนท่านอาจารย์ไปชิมเม็ด

"หัวครก" และ "หอยชักตีน" ที่ริมทะเลยามลมโชยแถวกระบี่ค่ะ

ขอบคุณที่ชวนครับ มีโอกาสผมต้องไปกระบี่แน่ๆ ครับ หอยชักตีนลวกจิ้มน้ำจิ้มเผ็ดๆ กับข้าวสวยร้อนๆ นี่อร่อยมากครับ

ขอบคุณค่ะ

-บันทึกนี้ทำให้หูตาสว่าง

-โลกไซเบอร์ ภาษาเกรียนๆ  กฏแห่งเกรียน ราชาแห่งเกรียน ชั้นเท

-ตั้งมั่น ฉันไม่ใช่สายพันธุ์ noob โล่งไปที..

-อยู่นครมา โตถึงวัยรุ่น ก็ไม่รู้จักนครดีพอ มารู้จักดีเมื่อไปลำปาง

-อยู่เมืองไทย ก็ ไปรู้จักอังกฤษ  ก็งงตัวเองเหมือนกัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท