beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

สบายวันหยุด 15 : เรื่องเล่า beeman วันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๑


มีความคิดว่า เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส เมื่อข้าวสารแพง แต่ผลไม้อื่นๆ ไม่แพงนัก เราก็มื้อหนึ่งทานผลไม้แทนข้าวก็ดีเหมือนกัน

เรื่องเล่าสบายวันหยุดในบันทึกวันนี้ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเขียน แต่เห็นว่ามีความรู้แฝงอยู่บ้าง จึงนำเล่าสู่กันอ่าน..ให้หมวดหมู่ว่า การศึกษาตามอัธยาศัย เพราะว่าน่าจะมีไอเดียบางอย่างผุดขึ้นจากการอ่านบันทึกนี้แบบ "จับประเด็น-Capture"

เมื่อวานนาย บุนนาค หมีเทศ ลูกศิษย์เก่ามาหาที่หอพัก คนนี้เรียนเอกคณิตศาสตร์ ปี ๒๕๓๔ อยู่ปี ๔ ได้มาเรียนที่หนองอ้อ..ปีแรก เขาต้องการมาถามรายละเอียดติดตั้งแผงวงจรผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี..นายบุนนาคนี้ไม่ธรรมดานะครับ เขาเป็นลูกเขยจ่าทวี แฟนชื่อกุ้ง คู่แฝดของกุ้งชื่อปู

น้าปู (ของหลาน) เป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวีในปัจจุบัน ฝากพี่เขยมาสอบถามรายละเอียดที่จะติดตั้งเซลล์ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่พิพิธภัณฑ์ เพราะมีความคิดว่าในระยะยาวน่าจะคุ้มค่ากับการที่จะต้องจ่ายค่าไฟเดือนละ ๕ พันกว่าบาท

บุนนาคมาพบที่หอพั กตอน ๑๓.๑๕ น. เราเดินกันไปที่วิทยาลัยพลังงานทดแทน ซึ่งอยุ่ใกล้ๆ ไปที่ตึกปิรามิด พบแม่บ้าน..ถามว่า "มีใครทำงานบ้าง" ตอบว่า "มีมาทำงานหลายคน" แล้วแม่บ้านก็ไปตามนายกบ มาให้

ระหว่างรอนายกบ เราก็นำไวตามิลล์ในตู้มาดื่ม มีราคาติดไว้ในดู้ ๑๒ บาท จ่ายเงินเองในกระป๋อง....ตรงนี้ก็เป็นไอเดียที่ดีน๊ะ...ที่นี่ก็มีโต๊ะบริการให้ได้คุยกัน..เป็นบรรยากาศแบบ KM ดี (เหมือนเป็น Common Room...ความจริง ดร.วัฒนพงษ์ แกมีไอเดียแบบ KM มานานแล้ว..ตรงนี้เป็นสถานที่สนทนากันระหว่างลูกค้าที่มาขอใช้บริการกับผู้ให้บริการ)

พอนายกบมา คุยกันไปได้หน่อย ท่านอาจารย์วัฒนพงษ์ ก็เข้ามา (แกขยัน วันหยุดก็ยังมาทำงาน)..แนะนำให้ติดเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์แบบพ่วงกับการไฟฟ้า เวลาเราจ่ายค่าไฟฟ้าจ่าย ๓ บาท แต่ขายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ๑๑ บาท มีส่วนต่างประมาณ ๘ บาท

นายกบ บอกในหลักการบอกว่า การติดเซลล์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มี ๒ แบบ คือ แบบอิสระ แบบนี้พอผลิตไฟฟ้าได้ เมื่อไม่ได้ใช้จะเก็บไว้ในแบ๊ตเตอรี่ ส่วนแบบที่สองจะเชื่อมต่อกับระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค..แบบแรกจะดูไม่ค่อยคุ้มค่าการลงทุน ส่วนแบบที่สองจะคุ้มค่าหน่อยเพราะผลต่างของการขายไฟและใช้ไฟ มีถึง ๘ บาท..โดยจะมีมิเตอร์ไฟฟ้า ๒ ตัว เข้ากับออก แต่แบบหลังนี้ต้องทำให้ผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ ๓ กิโลวัตต์

นายกบบอกว่า วันหนึ่งเฉลี่ยจะมีแสงอาทิตย์วันละ ๔ ชั่วโมง เราบอกปริมาณไฟฟ้าที่ต้องการใช้ ก็สามารถคำนวณ "วัตต์ของเซลล์ไฟฟ้า" ที่จะติดตั้งได้ แต่ก็ต้องคำนึงถึงงบประมาณที่มีด้วย..จะได้ให้คำแนะนำที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ หลังจากนั้นเราจึงติดต่อบริษัทที่รับติดตั้งเซลล์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีกครั้งหนึ่ง

หลังจากแลกเบอร์โทรกันแล้ว บุนนาคก็ไปที่ห้องทำงานของผม ไปรับ "ไขผึ้ง" จำนวน ๓๑.๘ กิโลกรัม ไปทำเทียนน้ำมนต์ส่งขายร้านสังฆภัณฑ์ หลังจากนั้นก็กลับไปที่ร้าน เสบียงบุญ โดยมีผมและลูกชายติดตามเข้าไปในเมืองด้วย เราไปถึงในเมืองตอนบ่ายสองสี่สิบ ลูกชายเข้าไปในโรงเรียนสิ่นหมินรอเพื่อนเล่นบาส

ส่วนผมก็ได้มีโอกาสเห็น บล็อกหล่อเทียน ๘ แท่งว่ารูปร่างเป็นอย่างไร โดยบุนนาคนำมาให้ชม เป็นขนาด ๑ บาท (๑๕.๒ กรัม)

หลังจากนั้น ผมก็ชวนบุนนาคไปตัดผมที่ร้านผมชาย ช่างว่างพอดี ได้ตัดคนละเก้าอี้ ใช้เวลาตัดคนละ ๔๐ นาที หลังจากนั้นเราก็แยกกัน..เขากลับร้าน ผมไปตลาด

ที่ตลาดซื้อมะนาว กองละ ๕ บาท มี ๑๒ ลูก ขนาดเล็ก ช่วงนี้มะนาวออกมากจึงถูก.. เดินไปหน่อยแม่ค้าเรียกให้ช่วยซื้อฝรั่ง แกขายให้โลละ ๑๐ บาท ซื้อ ๒ กิโล แถมมาให้อีก ๒ ลูกเป็น ๘ ลูก (ปกติไม่เคยซื้อฝรั่งถูกกว่า ๑๕ บาทเลย..ที่ตลาดเงาะโรงเรียนโลละ ๑๕ บาท มังคุดโลละ ๒๐ บาท

มีความคิดว่า เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส เมื่อข้าวสารแพง แต่ผลไม้อื่นๆ ไม่แพงนัก เราก็มื้อหนึ่งทานผลไม้แทนข้าวก็ดีเหมือนกัน...

ไปซื้อข้าวเหนียวมูล ครึ่งกิโล ๓๐ บาท มะม่วงน้ำดอกไม้โลละ ๒๕ บาท ซื้อ "ชามะนาว" อีก ๑ แก้ว ๑๕ บาท...หอบของ ๖ กิโล เดินกลับมาหาลูกชายที่สนามบาสอีกในระยะทางประมาณ ๖๐๐ เมตร รู้สึกว่าหนนี้ระยะทางไกลน่าดู

ได้เล่นบาสกับเจ้าของร้านเครื่องเขียน "สวัสดี" ด้วย รู้สึกว่าแม้ไม่ได้ออกกำลังกายมานาน แต่เล่นบาสก็ไม่ค่อยเหนื่อยเหมือนเดินขึ้นตึก อาจเป็นเพราะว่าอากาศครึ้มๆ มีลมพัดเย็นสบาย ระหว่างพักถามถึงเรื่องลูกชาย แกมีลูกชาย ๒ คน จะขึ้นม.๓ หนึ่งคน และจะขึ้นป.๖ อีก หนึ่งคน แกบอกว่ายังมีลูกสาวอีก ๒ คน ลูกชายคนเล็กจะให้ไปเรียนภาษาจีนที่ลำปาง

๕ โมงครึ่งมารอรถเมล์ จะกลับที่มน. (พักในมน.) พร้อมลูกชาย คุณนพวัชร พ่อเพื่อนลูกชาย และเป็นเพื่อนกับผมในชมรมผู้ปกครอง มารับลูกชายและมาจอดรับผม ชวนว่าจะมาส่งที่มน. เลยติดรถกลับมาด้วย ระหว่างทางคุยกันหลายเรื่อง..ว่าแกอยากไปหาพ่อครูบาสุทธินันท์ เคยโทร.ไปคุยด้วยแล้ว แกชอบเรื่องชีวิตพอเพียง

ตอนนี้เปิดบล็อก "ทางมีให้เดิน คำสอนมีให้ทำตาม" และอีก ๒ บล็อก ใช้นามแฝงว่า "ดินทอง" เนื่องจากแกชือเล่นว่า "เคี้ยง" จึงใช้ user name ว่า Khiang ครับ เปิดบล็อกมาได้ ๒-๓ วันเองครับ โดยเรียนรู้เอง (เพราะแกเก่งคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว) แต่ที่แกเข้ามาอยู่ใน GotoKnow ก็เพราะผมพูดให้ฟังบ่อยๆ นั่นเอง

แกบอกว่า "ถ้าผมได้ไปสอนเด็ก" จะสอนให้เขา " จงอย่าเป็น beeman๑" แต่จงเรียนรู้ชีวิตของครูบาอาจารย์แล้วนำไปประยุกต์ใช้เป็นอัตลักษณ์ของตัวเอง "ให้เป็นสมชาย๑" แทน

แกยังเล่าให้ฟังอีกว่า "แม่แบ๊งค์" (แม่เพื่อนลูกชาย) จะย้ายไปทำงานที่รพ.มน.ด้วยในเร็ววันนี้..อิอิ

beeman by Apinya

มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์
神奇的蜂爷

(shen2 qi2 de1 feng1 ye2)

หมายเลขบันทึก: 181704เขียนเมื่อ 11 พฤษภาคม 2008 11:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มกราคม 2015 18:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท