ครูพรรณา::::: หมอผี


ถ้าแกทำบุญละก็ผีมีจริงแน่ๆ...เลย...คราวนี้ครูก็ไม่ต้องทำอะไรกัน.......ไล่ผีปลอบคนอยู่นั่นแหละ

หมอผีในที่นี้หมายถึง  หมอที่มีคุณไสย์สามารถสื่อสารกับผีได้ ( วิญาณ) ในวัยเด็กก็เคยได้ยินวิธีปราบผีในรูปแบบต่างๆ นานา....ต่อเมื่อโตขึ้นก็ได้เรียนรู้การปราบผีจากการอ่านและประสบการณ์ที่พบเจอ....ไปรู้จักหมอผีกับครูพรรณา   กันนะคะ

หมอผีคนแรก...

เดิมครูพรรณา  ไม่รู้ว่าเขาเป็นหมอผี...เขาเป็นแม่ของเพื่อนบ้านที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน...เวลาไปเที่ยวบ้านเพื่อนคนนี้ ( อยู่ในหมู่เดียวกันแต่คนละซอย ) รู้สึกว่าบ้านของเขาค่อนข้างลึกลับเพราะมืด ๆ ไม่ค่อยเปิดประตูหน้าต่าง....แม่ของเพื่อนคนนี้มีฝีมือในการทำกล้วยกวน...อร่อยที่สุด...จนบัดนี้ยังไม่ยังไม่พบใครกวนได้อร่อยเท่า.....เพื่อน จะนำมาขายที่ปากซอย ( หลายบ้านจะทำขนมมาให้ลูกขายกันในวันปิดเรียน ) มาทีไรหมดทุกทีขายดีมาก ตอนนั้นสนนราคาก็ ๒ เม็ด ๑ สลึง  ...นับว่าแพงเอาการอยู่...เพราะลูกอมเจ็ก (จาก โรงงานที่ร้านรับมาขาย ) ส่วนใหญ่ ๓ - ๕ เม็ดสลึง.....เกริ่นกันไปไกล...จากนั้นก็ได้ยินคำร่ำลือว่าแม่ของเพื่อนคนนี้เป็นผีปอบบ้าง  เป็นหมอผีบ้าง  เลี้ยงผีบ้าง....และแล้วเย็นวันหนึ่งพวกเราเด็ก ๆ    ก็ได้ข่าวว่าจะมีการไล่ผีให้กับคนๆ หนึ่ง...เด็ก ๆ และผู้ใหญ่ก็ไปออกันที่ประตูบ้านคนที่ถูกผีเข้า...พวกผู้ใหญ่ก็จะบอกเด็กๆ ว่า ...ถอยออกไปอย่าขวางประตูหรือทางออก..ประเดี๋ยวผีออกจากคนนั้นจะมาเข้าคนที่ขวางทาง.....ทุกคนก็แหวกทางให้...พูดง่ายๆ เรียงเป็นแถวยาวหรือเข้าแถวให้ผีผ่านได้นั่นเอง....เด็ก ๆอย่างครูพรรณาใม่ได้อยากดูหมอผี...แต่อยากเห็นผีจริงๆ ...ก็เสนอหน้าไปให้ใกล้บ้านคนถูกผีเข้าให้มากที่สุด.......สักพักเขาก็นำคนถูกผีเข้าออกมากลางชานบ้านและให้หันหน้าไปทางส้วม.......ส้วมก็เปิดประตูไว้....แล้วเราก็ได้ยินเสียงหมอผีพูดดังๆ ออกมาจากห้องส้วมว่า...มึงจะออกหรือไม่ออกถ้าไม่ออกครูจะให้มึงดูใครโวยวาย ( อวัยวะเพศ ) ...คนถูกผีเข้าก็ร้อง ๆ อยู่นั่นแต่ก็ไม่ยอมออก....ยายหมอผีก็ถลกผ้าถุงให้ดู.......ไอ๋หยา......เด็กๆ ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า....แม่อีหร่ายเป็นผู้ชายว่ะ.......แล้วก็พากันวิ่งกลับออกไปเล่นที่ลานดินหน้าหมู่บ้าน

หมอผีคนที่ ๒  .....

คนนี้ครูพรรณา  พบที่ จังหวัดสกลนคร....ตอนนั้นย้ายขึ้นไปเรียนที่วิทยาลัยครู....พักอยู่กับพี่ชายซึ่งเป็นเรือนพักของภารโรงในวิทยาลัยครู....ภรรยาภารโรงคนหนึ่งซึ่งบ้านติดกันกับที่ครูพรรณาอยู่...ไปเที่ยวงานพระธาตุพนม...กลับมาบ้านมีอาการเซื่องซึมอยู่หลายวัน....ไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ไม่หาย....หลายคนก็เลยลงความเห็นว่าถูกผีเข้า....เขาก็เชิญหมอผีมาไล่.....ครูพรรณาก็อยากรู้ว่าไอ้ที่เอาตะปูตอกแล้วผีมันเจ็บจริงหรือไม่...แล้วผีมันเจ็บหรือคนเจ็บ.......วิธีการหมอผีเริ่มตกลงด้วยสันติวิธีกับผีก่อนว่าจะออกจากร่างหรือไม่...มีการต่อรองกันอยู่นานเหมือนกัน...ประมาณว่าผีอยากอยู่ขออาศัยเพื่อท่องเที่ยวเมืองสกลให้พอใจเสียหน่อยแล้วก็จะกลับ...แต่หมอผีก็ไม่ยอมต่อ.....ว่าผีก็อยู่มาหลายวันแล้วน่าจะเที่ยวพอได้แล้วไปๆ เสียเถอะคนเขาจะได้สบายใจ...ผีก็อ้างว่ายังไม่ได้ไปเที่ยวเลย.....ตั้งแต่มาอยู่ก็ไปแต่โรงพยาบาลและก็นอนอยู่กับบ้าน ( เจ้าของร่างไม่ใช่คนชอบเที่ยว ).....ต่อรองยืดเยื้อมาก...หมอผีก็เลยบอกว่าถ้าไม่ออกจะเอาตะปูตอกตีนไม่ให้ไปไหนได้...( คิดเองถ้าเป็นบาดทะยักละก็...ผีตายซ้ำ ๒ แน่ ๆ ..แหะ  แหะ ) ครูพรรณาตั้งใจดูมากเพราะอยากรู้ว่าจะตอกตะปูลงไปอย่างไร......เขานำตะปูขนาด ๕ นิ้ว  มาไว้แนบ เท้าบริเวณตาตุ่มของร่างคนที่ถูกผีเข้าแล้วก็เอาค้อนตอกลงไปที่หัวตะปู......พอเริ่มตอกผีก็เริ่มร้องว่าเจ็บแล้วกลัวแล้ว...แต่ก็ยังไม่ออก...สุดท้ายหมอผีบอกว่าจะตอกแรง ๆ เอาให้มิดตะปูเลยจะออกไหม...นับ ๑ - ๓  เพราะเสียเวลามาก....ผีก็ยังไม่ออก...คราวนี้หมอผีตอกแรงสุดมือ...ผีก็ร้องและว่าสัญญาว่าออกแน่แล้ว......และร่างที่ผีเข้าอยู่ก็แน่นิ่งไป...สักพักก็ฟื้นขึ้นมามีอาการเหมือนไม่รู้เรื่องราวต่าง ๆ ใน ๒ - ๓ วัน  ที่ผ่านมา.......เสียงผีพูดและร้องก็ไม่เหมือนเสียงเจ้าของร่าง

หมอผีคนที่ ๓ ......

หมอผีคนนี้ครูพรรณาก็เสาะแสวงหา ( จริง ๆ แล้วเพื่อนหาให้ ) เขาอยู่ที่ อำเภอกุสุมาลย์  จังหวัดสกลนคร...คราวนั้นครูพรรณา  จะทำรายงานในวิชาการศึกษาค้นคว้า...ก็ได้เห็นวิธีถามผี ( ครั้งนี้ไม่ได้ไล่ ) เพื่อรักษาคนป่วย......ชาวบ้านแถบนี้อยู่ห่างไกลจากโรงพยาบาลก็ต้องพึ่งพาไสยศาสตร์........เขาเรียกว่าการเหยา.......เสี่ยงทายและสอบถามว่าผีต้องการอะไรคนเป็นจะทำให้ผีพอใจ ( คล้ายๆ กับขอบน..และจะแก้บนให้ )......เพื่อให้ผู้เจ็บไข้ได้ป่วยหายจากอาการต่าง ๆ วิธีการเช่น ....เสี่ยงทายด้วยไข่...เอาไข่ตั้งโดยเอามุมแหลมวางไว้ที่พื้นไม่ให้ไข่ล้ม...วิธีการนี้จะสอบถามกันหลายครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าผีไม่หลอกลวง......และอีกวิธีหนึ่งคือเสี่ยงทายด้วยมีด...เขาจะเอาปลายมีดปักไว้ที่พื้นถ้ามีดล้มก็ถือว่าไมสำเร็จ

ภาพหมอผี.....หรือหมอกลางบ้าน...

ภาพนี้..เหยาด้วยการเสี่ยงไข่ ...และเสี่ยงมีด

หมอผีคนที่ ๔ ...

คนนี้ก็ไม่ได้ไล่ผี...เพียงแต่ได้คุยกับผี.......หลังจากการเก็บข้อมูลจากหมอผีคนที่ ๓ แล้ว...ในวันหนึ่งแล้วกลับมาถึงบ้านค่อนข้างค่ำแล้ว ( ร้านอาหาร...และหอพักนักศึกษาที่แม่เช่ากิจการ )  .......นักศึกษาชายหญิงก็วิ่งโวยวายมาหาแม่บอกว่ามีคนถูกผีเข้า....แม่ก็ว้าวุ่นใจ...ครูพรรณา  ก็วิ่งนำหน้าไป.......แม่วิ่งตามมาห้ามว่าอย่ายุ่ง...ตอบแม่ไปว่าไม่ยุ่งหรอกขอไปดูเฉย ๆ ....ปรากฏว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นภรรยาคนขับรถบรรทุกหินที่ไปจากสุพรรณ......พวกสิบล้อที่ไปจากภาคกลางมักจะมาขอเช่าห้องพักที่ร้านเพื่อสะดวกในการกิน ....( ร้านอาหารไทย หนึ่งเดียวในสกลนคร ) ...ที่จอดรถ  ที่เติมน้ำมัน และติดต่อทางโทรศัพท์.....

ครูพรรณาไปถึงหน้าห้องของเธอก็พบนักศึกษาหลายคนมุงกันเต็มหน้าห้อง.....ก็ต้องขอแหวกทางเพื่อดู...ก็เห็นสามีของเธออยู่ในห้องด้วย...ส่วนคนที่ถูกผีเข้าก็มุดเข้าไปอยู่ใต้เตียง........ครูพรรณาจึงสอบถามทั้งผีและคน ( สองสามีภรรยา )...และได้คุยกับผี....เขาบอกว่าเป็นลูกของเจ้าของร่าง...( ลูกกรอก ) ...ที่เข้าร่างแม่ก็เพราะโกรธที่แม่มาสกลนครแล้วไม่เอาเขามาด้วย.....ทั้งพ่อและครูพรรณาก็ให้เหตุผลว่า....ทางมันไกล..เกรงลูกจะเป็นอันตราย...ลูกก็เถียงว่าทีทางภาคใต้แม่กับพ่อยังให้ไปเลย......พ่อก็ว่ามันไม่เหมือนกัน.....เวลาผ่านไปชักนานไม่ทันใจครูพรรณา   ........ครูพรรณาก็แนะนำคนเองว่าเป็นเจ้าของหอพัก........และเหตุผลต่างๆ ....น้องผีลูกกรอกคนนี้คุยสนุกมาก ( เสียงยังเด็กๆ )........สุดท้ายก็บอกเขาว่าถ้ารักแม่...ก็ออกมาเถอะ...แม่เข้าไปนอนใต้เตียงนานแล้วเมื่อยจะแย่...และก็น่าอายคนด้วยเห็นไหมคนดูกันมากมายเลย.....พี่มานี่ก็เพราะอยากดูคนถูกผีเข้า...ใครๆ ก็อยากดู.....น้องอยากให้แม่อายคนหรือ........แม่ไม่พาหนูมาด้วยแต่หนูก็แอบขึ้นรถแม่มาแล้ว...แสดงว่าหนูขัดคำสั่งแม่นะ......ถ้าเป็นแม่พี่คนนี้นะรับรองพี่ถูกตีตายแน่เลย.......น้องลูกกรอกก็ว่าหนูจะออกแล้วละ.....แต่อยากคุยกับพี่เพราะพี่คุยสนุกดี....วันหลังค่อยคุยกันดีไหมเพราะวันนี้พี่เหนื่อยมากแล้ว.... ๒ ทุ่มแล้วยังไม่ได้กินข้าวเลย...แม่น้องก็คงยังไม่ได้กิน.....ตกลงน้องเขาก็ออกจากร่างแม่........กลับถึงร้านแม่บอกว่า...อีพรรณมึงเลิกไปกุสุมาลย์ได้แล้ว......ตั้งแต่มึงไปที่นั่น...ที่บ้าน ( ร้าน ) และหอพักมีเรื่องแปลกๆ   ....ไม่ได้หรอกแม่  หนูจะเอางานอะไรไปส่งอาจารย์เล่า....มึงไปหาเรื่องใหม่ที่ไม่ใช่เรื่องผี....ถ้าไม่หยุดแม่จะไปบอกอาจารย์เอง ( มุขนี้เด็ดเพราะใช้กันบ่อยกับลูกทุกคนในบ้าน )........

หมอผีคนที่ ๕  .....

คนนี้เป็นตำรวจทางหลวง...เพื่อนชายที่เป็นคนพาครูพรรณา  ไปกุสุมาลย์.......หลังจากเหตุการณ์ผีลูกกรอกผ่านไป......ครูพรรณาก็บอกเพื่อนว่าแม่ไม่ให้ทำเรื่องนี้แล้วคงต้องเลิก...แต่ต้องไปบอกหมอที่กุสุมาลย์ด้วยไม่ใช่หายไปเฉยๆ .....ก็ไปร่ำลากัน......หมอก็ให้วิชาป้องกันคุณไสย์ว่า...เวลาตื่นนอนก็ให้สวดมนต์...จะนั่งสวดเป็นเรื่องเป็นราวหรือทำงานไปแล้วสวดมนต์ในใจด้วยก็ได้จากนั้นก็แผ่เมตตา........บัดนี้หมอผีคนนี้เสียชีวิตไปแล้ว...แม่เล่าให้ฟังเมื่อปีที่แล้วว่ามีคนมาส่งข่าวว่าตายแล้ว......หลังจากกลับจากบ้านหมอผีแล้วผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่งเพื่อนตำรวจทางหลวงก็เล่าให้ฟังว่า......วันหนึ่งขับรถผ่านมาที่หมู่บ้านนี้มีคนมาโบกรถขอให้เข้าไปช่วยไล่ผีที....เพื่อนก็ตอบว่าผมเป็นตำรวจนะ.....แต่ชาวบ้านขอร้อง...ประมาณว่าไม่รู้จะพึ่งใคร...ประกอบกับความอยากรู้ก็เข้าไปดู....หมอผีพูดอีท่าไหนผีก็ไม่ยอมไป...สอบถามว่าไล่กันมานานหลายชั่วโมงแล้ว....ด้วยความห่ามและนึกสนุก...ก็เลยเข้าไปดูใกล้ๆ และคุยกับผีว่าถ้าไม่ออกจะเอาปืนเอชเคยิงให้ตายเลย...ผีก็เถียงว่าไม่กลัว....ถ้างั้นเจอกัน...ว่าแล้วเขาก็กลับมาที่รถคว้าปืนเอชเค...ยิงขึ้นฟ้าไปหนึ่งชุด ( กี่ลูกก็ไม่รู้ ) ....ผีเห็นดังนี้ก็บอกว่าเชื่อแล้วว่าเอาจริง.......จึงออกจากร่างไป.......งานนี้ก็มีตำรวจหมอผี

หมอผีคนที่ ๖  ......

 เหตุเกิดที่โรงเรียนบางลี่วิทยา......ช่วงที่เปิดใช้อาคาร ๕ ใหม่ ๆ เด็กๆ จะตื่นเต้นและเข้าใช้ห้องส้วมกันเป็นจำนวนมาก...เรียกว่าเห่อส้วมใหม่...ไม่มีส้วมไหนในโรงเรียนบางลี่วิทยาที่จะเลิศหรูอลังการ  สะอาดและมีเป็นจำนวนมากที่ตึก ๕...นอกจากเห่อส้วมแล้วก็ยังเห่อขึ้นไปเล่นกันด้วย...สนุกสุดๆ ก้เล่นลื่นไถลลงมากับราวบันได....น่าหวาดเสียงว่าตกลงไปคอจะหักตาย.......สุดท้ายต้องประกาศห้ามนักเรียนขึ้นไปเล่นที่ตึกนี้...........แล้ววันหนึ่งครูพรรณาก็ได้ยินเสียงนักเรียนหญิงร้องวี้ดว้ายอยู่ชั้นบน...เดินขึ้นไปดูนักเรียนก็บอกว่าได้ยินเสียงใครร้องอยู่ในส้วมก็ไม่รู้...เข้าไปดูก็ไม่มีคน.....ครูก็ไล่ลงไปข้างล่าง...และกล่าวโทษว่านักเรียนผิดคำสั่งของโรงเรียน....ต่อมาก็ได้ยินอีก........เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้ง...เรียกตัวมาสอบถามก็ได้ความเช่นเดิม........ยุทธการปราบผีก็เริ่มขึ้น......นักเรียนชุดเดิมที่ร้องนั่นแหละเป็นหน้าม้าให้ครูที.......ปรากฎว่าผีไม่มา...เพราะข่าวรั่วไหล....สงบไปได้สักพัก.....ก็เกิดอีกแล้ว.......คราวนี้ต้องจับให้ได้ครูพรรณามาดมั่นไว้ในใจ..........ในห้องส้วมแต่ละปีกของอาคารก็จะมีห้องซักล้างและในห้องนี้จะมีช่องที่เปิดถึงกันตั้งแต่ชั้น ๓ ถึง ชั้นล่างสุด

ภาพ  ....ห้องซักล้าง......

........ถ้าใครซนก็ไต่ท่อลงไปอีกชั้นหนึ่งได้...ส่วนใหญ่ประตูห้องจะล็อคกุญแจ......อย่าฝันว่าจะกั้นได้เพราะพวกเขาคือผี...สามารถไปได้ทุกที่ผ่านเข้าออกได้ทุกแห่ง........พักกลางวันเด็กลงไปโรงอาหารกันหมดแล้ว....ครูพรรณาก็ขึ้นชั้น ๓ ( ขอกุญแจภารโรงเปิด ) ...แล้วแอบอยู่ในห้องนั้น.....สัก ๒๐ นาที่หลังพัก...ก็ได้ยินเสียงอือๆอาๆ ในห้อง...เสียงอยู่ที่ ชั้น ๒  จึงมองลงไปตามช่องของห้องที่แอบอยู่แล้วก็เห็นเด็ก ๆผู้ชาย ๒ - ๓ คน  ยื่นหัวเข้าไปที่ช่องแล้วส่งเสียง.........นักเรียนหญิงทีมาเข้าส้วมชั้น ๑ ก็จะได้ยินและร้องวี้ดว้าย...ประมาณว่าสนุกเขาละ ( นี่แสดงว่ารู้กัน ).......วันรุ่งขึ้นครูพรรณาก็ดำเนินการตามเดิม...เด็กผู้ชายก็ดำเนินการตามเดิม( พวกนี้มาเล่น..แต่ครูมาจับตัวผี ) ........พอเด็กผู้ชายเข้าห้องชั้น ๒ เขาเริ่มนัดแนะ ...ครูพรรณาก็เอาหน้ากากผีสวมหน้าตัวเองแล้วก้มลงไปที่ช่องเปิดนั้นพร้อมกับส่งเสียง....เท่านั้นแหละผีเด็กวิ่งหนีผีแก่........แล้วครูพรรณาก็เดินลงจากชั้น ๓ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...พบเด็กพวกนี้กำลังวิ่งลงบันไดก็ร้องเรียกถาม...เขาก็เล่าความจริงว่าจะมาหลอกผีเพื่อน ๆ แต่วันนี้เหมือนมีผีหลอกเขา....ครูถามว่ารู้ได้อย่างไร....เขาบอกว่าเขายังไม่ทันออกเสียงก็ได้ยินเสียงเมื่อมองขึ้นชั้นบนก็เห็นเงาๆ แต่เห็นไม่ชัด...ครูลงมาจากชั้น ๓ เห็นมีนักเรียนที่ชั้น ๓ บ้างไหม....ครูไม่เห็นมีใครเลยกำลังจะจับตัวคนที่หลอกผีเพื่อน ๆ อยู่นี่แหละ...เจอพอดีเลย..........จากนั้นก็จัดการอบรมและปล่อยตัวไป...การเล่นแบบนี้ก็ไม่เกิดขึ้นอีก

หมอผีคนที่ ๗  ......

คนนี้หมอผีจำเป็น...เหตุเกิดเมื่อต้นปีการศึกษา ๒๕๕๑ นี่เอง...ในเดือนธันวาคม ๒๕๕๐  ...ครูวนิดา  ขำแผลง  เพื่อนคนสนิทและสอนอยู่ห้องใกล้กันกับครูพรรณา....ห่างเพียงบันไดกั้น......เสียชีวิตเนื่องจากเจ็บป่วย......พอเปิดเทอมใหม่ก็มีครูย้ายมาจากโรงเรียนอื่นมาสอนแทน.......ห้องเรียนครูพรรณากับครูวนิดานี่นักเรียนชั้นม. ๑   จะรู้ดีว่าถ้าครูคนใดคนหนึ่งสั่งต้องทำตาม...เพราะเขาสอนแทนกันหรือช่วยกันสอนเป็นประจำ...แล้วเหตุก็เกิดนักเรียนหญิงชั้นม. ๑ / ๗ ซึ่งไม่ได้เรียนกับครูพรรณา  ....เรียนกับครูที่แทนครูวนิดา...พูดง่ายๆ ก็ห้องครูวนิดาเดิมนั่นแหละ.......ครั้งแรกนักเรียนที่เรียนกับครูพรรณา ก็มาคุยด้วยและเล่าว่า( เหมือนขว้างหินถามทาง ) ครูเพื่อนหนูที่อยู่ห้อง ๗  เขาเล่าว่าเขาถูกผีหลอกที่ห้องนี้ ( ๕๑๖ ) .......โรงเรียนเราเคยมีผีด้วยหรือคะ.......ไม่มีหรอก...มีแต่พวกเธอนี่แหละชอบเล่นกัน....หลอกแล้วก็กลัวกันเอง......วันหลังหนูบอกเพื่อนให้มาคุยกับครูนะ.....และแล้วเธอก็มาพร้อมกับคราบน้ำตาบนใบหน้า......ครูขาหนูถูกผีหลอกค่ะ...ผีที่ไหน.......ห้องนี้ค่ะ ( ๕๑๖ ) ...หนูเห็นตัวผีหรือเปล่า.....ไม่เห็นค่ะ......แต่มีคนเขาบอกว่าห้องนี้เคยมีคนตาย........ครูพรรณาเริ่มรักษา.......แล้วรู้ไหมว่าเขาเป็นอะไรตาย....ไม่ทราบค่ะ.......เขาป่วยตาย  ก่อนตายน่ะเขาเดินไม่ไหวแล้ว......และก็ไม่ได้ตายในห้องนี้เขาตายที่โรงพยาบาลโน่น........แล้วหนูรู้จักกับครูเขาหรือเปล่า...เปล่าค่ะ.......เออ...แสดงว่าหนูนี่เป็นเอามาก...ลองคิดดีๆนะ

...หรือจะไปถามใครก็ได้...ครูพรรณากับครูวนิดาสนิทกันมาก....ตั้งแต่เขาตายเขาก็ยังไม่เคยมาหาครูเลย........ที่จริงเขาน่าจะมาหาครูมากกว่าเธอนะเพราะเขารู้จักครูไม่รู้จักเธอ.......เด็กอึ้ง.....ครูรุกต่อ......คราวหน้าถ้าเธอเห็นเขาอีกบอกเขาด้วยนะว่าให้ไปหาครู....เด็กงง.......ครูจะได้บอกเขาไงว่าอย่ามาหลอกหนูอีก...........

จากนั้นก็มีครูมาถามครูพรรณาว่าได้ยินเรื่องแปลก ๆ ไหม...สอบถามว่าเรื่องอะไร...ก็ให้ข้อมูลไม่ชัดเจน...และเปรยว่าอยากทำบุญ ( ประมาณว่าปัดรังควาญ )....เท่านั้นแหละ......แกจะบ้าเหรอ....ถ้าแกทำบุญละก็ผีมีจริงแน่ๆ...เลย...คราวนี้ครูก็ไม่ต้องทำอะไรกัน.......ไล่ผีปลอบคนอยู่นั่นแหละ......แสดงว่าได้ข่าวจากเด็กคนนี้ใช่ไหม......ฉันจัดการไล่ผีครูวนิดาให้เด็กแล้วหละ..........แล้วผีครูวนิดาก็ไม่มีอีกเลย...

 

หมายเลขบันทึก: 181697เขียนเมื่อ 11 พฤษภาคม 2008 10:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

หัวหน้าบันทึกเรื่องผี  รองหังหน้าบันทึกเรื่องหมอผี  แสดงรองจะปราบหัวหน้า...5555

สวัสดีค่ะ นาง พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง)

  • รับสมัครนางพยาบาลผี ป่าวคะ
  • อิอิ
  • เป็นกำลังใจให้ด้วยคนค่ะ

       

สวัสดีค่ะ

* ท่าน ผอ. ประจักษ์...ขอบพระคุณที่แวะมาส่งข่าวค่ะ....ว่าจะปราบหัวหน้า...ดีค่ะสนับสนุน...แต่ยกเว้นลูกน้องไว้ก่อนนะคะ

* คุณครูปู...ขอต้อนรับด้วยความยินดีค่ะ....มีหมอผี...ก็ต้องมีพยาบาลผีไว้คอยช่วยหมอ....ความคิดนี้แจ่มค่ะ ...อิ อิ

ผมก็อยากเจอผีแบบเห็นหน้า ตัวเป็นๆบ้างอะฮะ

มะเคยเจอแบบจะจะซะที เห็นแต่เงาแวบไปแวบมา

ยังไงถ้าเจอบอกเค้าแวะมาทักทายผมบ้างเน้อ เอิ๊กๆ

สวัสดีค่ะ พี่พรรณา

เผอิญครูปูไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวามาค่ะ เลยหิ้วขนมมาฝากค่ะ อิอิ

มาเยี่ยม...

ได้อ่านเรื่อง ผี ผี

เคยชมการไล่ผีที่ นครพนมเหมือนกันนะ ฮิ ฮิ ฮิ

สวัสดีค่ะ

* คุณเอ้...ผีจริง ๆ ที่มาให้เห็นจะ ๆ ...และแบบเซ้น...ก็มีทั้งน่ากลัวและไม่น่ากลัว...ข้อนี้อยู่ที่ตกลงกับผีเองนะคะว่าต้องการแบบใด...ยังไงก็อย่าลืมนำพระพุทธคุณติดใจไว้เสมอ ๆ นะคะ....เผื่อตกใจลืมหมด...คราวนี้ผีเข้าสิงละก็แย่เลย....อย่าลืมปรุงยาให้ผีกินด้วยนะ...ผีก็เจ็บป่วยเป็นนะคะ...อิอิ...แม่ล้อเล่นน่า

* ครูปู....ขอบคุณมากค่ะ...เขาเรียกขนมอะไรคะหน้าตาสวยเกินกว่าจะเดาได้...แค่เห็นรูปก็นึกอร่อยแล้ว...อิจฉาครูปูจังเลย.....ครูพรรณาอดอยากไม่มีใครทำให้กินต้องทำกินเอง...ตัวละแห้งเชียวค่ะ

* อาจารย์umi...ชมแล้วรู้สึกอย่างไร...เล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ...ขอบคุณที่แวะเข้ามาค่ะ

มาเยี่ยมอีก...

ต่อที่ถามนะ..คือ มีผีปอบเข้าคน และรู้ว่าใคร จนคนนั้นอยู่บ้านนั้นไม่ได้ต้องจอระรี

และอีกเรื่องก็ผีจากคุ้งน้ำสาวคนนั้นเดินผ่านก้มาเข้าร่างแล้วเป็นกิริยาอาการเหมือนผีตนที่มาเข้า

สมภารวัดต้องถูกนิมนต์ให้ไปไล่กว่าจะออกไปก็ด่าพระไปหลายกะบุงโกยละ ฮิ ฮิ ฮิ

สวัสดีค่ะอาจารย์ umi

* ส่วนใหญ่ก็เหมือนกับที่อาจารย์พบค่ะ

* เหตุการณ์อย่างนี้ใครไม่เคยพบด้วยตนเอง...ให้ความเห็นยากเหมือนกันนะคะ

* ขอบคุณมากค่ะที่แวะเข้ามาเพิ่มเติม...รักษาสุขภาพนะคะ

แวะเอาดอกไม้มาขอบคุณที่ไปเยี่ยมบันทึกแจ๋วค่ะ

สวัสดีค่ะคุณแจ๋ว

* ขอบคุณค่ะสำหรับดอกไม้

* จะตามไปเยี่ยมอีกนะคะ...

ครู พรรณาคับ ที่โรงเรียนผม เคยมีเหตุการณ์เข้าค่าย แล้วผีเข้าเด็ก คืนนั้น ถึง สิบสามคน และ ยังมีการเข้าเด็ก ที่โรงเรียนอีก นับเดือน ไม่เชื่อไม่ไ้ด้เลยคับ ทำไงดีคับ หากเกิดเหตุการณ์นี้ เหตุการณ์นี้เกิดที่ชัยภูมิคับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท