“การยอมรับ” ช่วยปรับชีวิตให้ดีขึ้นได้อย่างไร?


ขับมาทางนี้ได้อย่างไร . . . ไกลกว่าตั้งเยอะ . . . เห็นไหมว่ารถติด . .

         การฝึก ยอมรับ กับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น นอกจากจะทำให้ไม่เครียดแล้วยังทำให้ชีวิตสุขสงบขึ้นมาอย่างทันตาเห็นเลยทีเดียว แรกๆ ก็อาจจะฝึกกับเรื่องที่ง่ายๆ เช่น ในขณะที่นั่งรถไปกับภรรยา (หรือสามี) ผู้ที่กำลังขับรถ หากเธอขับไปในเส้นทางที่เรารู้ดีว่าถ้าเป็นเราๆ จะขับไปทางอื่น เราจะไม่มาทางนี้ เพราะว่า . . . . . (ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา) ขอให้นึกว่าวันนี้โชคดีที่จะได้มีโอกาสฝึก ยอมรับ กับสภาพที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเส้นทางที่เธอใช้นี้จะเป็นอย่างไร ในหัวของเราอาจมีเสียงพูดว่า ขับมาทางนี้ได้อย่างไร . . . ไกลกว่าตั้งเยอะ . . . เห็นไหมว่ารถติด . . .

         ผมลองย้อนดูชีวิตที่ผ่านมาพบว่าที่ทะเลาะกับภรรยา ส่วนใหญ่ก็มาจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้แทบทั้งสิ้น นี่คงเป็นเพราะว่าผมไม่รู้จักเรื่องการ ยอมรับ การยอมรับเป็นเรื่องของใจที่ เปิดกว้าง เป็นเรื่องของการรู้จักปล่อยวาง รู้จักที่จะว่าง รู้จักที่จะเงียบ แต่ก่อนที่ผมเงียบไม่ได้ก็เป็นเพราะ ใช้หัว มากเกินไป คิดวิเคราะห์ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ว่าบางเรื่องนั้นไม่จำเป็นต้องคิดขนาดนั้น แต่ก็ทำไปจนเป็นนิสัย ทำไปโดยไม่รู้ตัว ใช้หัวไปโดยอัตโนมัติ ไม่ได้สัมผัสกับ สิ่งที่สูง ไปกว่านั้น ผูกพันอยู่กับตรรกะและ เหตุผล จนไม่เห็นภาพใหญ่ของ เหตุปัจจัย ที่เราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของการโยงใยนั้น

         ถ้าแม้แต่เรื่องง่ายๆ เรายังยอมรับไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าเราจะทำได้กับเรื่องที่ใหญ่ขึ้นไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยใจที่กว้างใหญ่มหาศาล เช่นเรื่องการบ้านการเมือง อย่าได้ฝันเฟื่องว่าเหตุการณ์ต่างๆ จะสงบลงไปได้ง่ายๆ เลย! เดี๋ยวก่อนครับ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด คิดว่าผมกำลังพูดถึงฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านว่าให้หันมายอมรับกันและกัน ผมกำลังพูดถึง ตัวท่าน กำลังบอกว่าให้ท่านฝึก ยอมรับ กับความคิดเห็นที่แตกต่าง ทั้งกับคนในบ้าน กับเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่คนขับรถแท็กซี่ที่มีความเห็นแตกต่างไปจากท่าน!

          

หมายเลขบันทึก: 208559เขียนเมื่อ 14 กันยายน 2008 08:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบพระคุณสาระที่ดีมาก ๆ เลยครับ......ดีมาก ๆ เลยครับ.....ชยพร แอคะรัจน์

สวัสดีค่ะอาจารย์

วันนี้นับว่าเป็นโอกาสดีนะคะ  ขอขอบพระคุณอาจารย์ที่ได้ให้ความรู้หลายเรื่องทั้งเอกสาร ตำราที่ผ่าน ๆ มา ที่ได้นำไปอ้างอิง  คราวนี้ได้มาเจอที่นี่อีก

การยอมรับเป็นการปล่อยวางนะคะอาจารย์  อ่านแล้วได้สติค่ะ  จะมาติดตามอ่านอีกนะคะ  ว่าง ๆ ขอเชิญอาจารย์ไปเยี่ยมพวกเราคนบ้านนอกบ้างนะคะ

http://www.krukimpbmind.com

 

จริงค่ะท่านอาจารย์ การยอมรับเรื่องเล็กๆได้ จะทำให้ยอมรับเรื่องใหญ่ได้

คนขับรถและคนนั่งรถ เป็นปัญหาเสมอมา เพราะคนนั่งคิดว่าตนจะขับได้ดีกว่าคนขับ ดังนั้นก่อนร่วมทาง ต้องตกลงกันว่าจะไม่บ่นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็พอจะลดปัญหาได้ค่ะ

  • หากทำไปเรื่อยๆแล้วจะพบว่าจากคนที่จำอะไรแม่นยำไปหมดแม้แต่เรื่องเล็กๆจะกลายเป็นคนไม่ใคร่จำ เหลือที่จำได้แต่เรื่องที่เลือกจะจำค่ะ

สำหรับนุชนั้นการฝึก "การยอมรับ" เป็นการลดอัตตาตัวเองได้อย่างดีนะคะ มันทำให้เรามองเห็นผู้อื่นมากขึ้น และเป็นโอกาสที่เราจะเห็น เรียนรู้ และรู้จักตัวเองมากขึ้น ทำบ่อยๆเป็นการฝึกการปล่อยวาง พอเข้าใจและทำเป็นจะรู้สึกว่าใจโปร่งเบา สบายดี โดยเฉพาะกับคนใกล้ตัวนี่ พอมองกลับไปจะเห็นว่าเรื่องที่เราอยากไปเอาผิดเอาถูกนั้นมันช่างจิ๊บจ๊อยเหลือเกินค่ะ

ชอบที่อาจารย์นำสิ่งธรรมดาในชีวิตมาใส่ธรรมะให้ได้คิดกัน อย่างที่ไม่ต้องพูดตรงๆว่านี่คือการเรียนรู้ข้อธรรม

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์

การยอมรับในความคิดที่แตกต่างเป็นสิ่งที่ดีค่ะ และยังเป็นการฝึกตัวเองให้รู้จักฟังความคิดผู้อื่นอีก แล้วเราควรยอมรับคนที่ชอบบิดเบือนข้อมูลทำให้การสื่อสารในองค์กรมีปัญหาหรือไม่ค่ะ

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่าน แล้วยังช่วย Comment สร้างสีสันให้อีกด้วย สำหรับคำถามของ ขนิษฐา ขอเวลาคิดก่อนครับ

ขอบคุณอาจารย์ที่เขียนบทความนี้ เหมาะสถานการณ์บ้านเมือง ยอมรับแล้วเป็นสุขค่ะ โลกนี้คือละคร เดี๋ยวก็ตายกันแล้ว เวลาผ่านไปทุกวัน อายุก็สั้นลงทุกวัน ยังมัวโลภ โกรธ หลง อยู่ได้ คิดดี พูดดี ทำดี ก็ประเสริฐแล้ว

ขอบคุณ คุณกอบัว ครับ . . . ขอเสริมอีกนิดหนึ่งครับว่า . . . ถ้าสามารถยอมรับกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ อารมณ์ภายในจะเป็นประมาณว่า "ทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์นั้นมีความสมบูรณ์ในตัวของมัน . . . It 's Perfect !!" แต่ผมยังไม่สามารถรู้สึกเช่นนั้นได้เสมอไปหรอกครับ!

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท