ร้าวฉานการศึกษา(7 ตอน อวสาน)


คืนไร้เดือน คู่ฟ้า ในราตรี ก็มิมีผู้ใดใฝ่ถามหา

ตอนที่ 7  สู่ความสงบ

             ล่วงเลยเกือบเดือนที่ “ ตุย  ชวง ซิน”  เดินทางจากสำนัก  ยังจำข้อความที่เขียนไว้ก่อนจากมาว่า “ ข้า ฯ ขอมอบสำนักให้สำหรับศิษย์ผู้มีอุดมการณ์ ”  แม้เขียนไว้อย่างเป็นปริศนา แต่มันเชื่อว่า ผู้สืบทอดเจ้าสำนักคงหาได้ไม่ยาก  วันนี้ มันเดินทางพเนจร มันได้รับอาหารบ้างจากคนเดินผ่าน การนั่งนิ่งของมันทำให้ผู้คนต่างลงความเห็นว่าเป็นขอทานและให้อาหารบ้างในบางครา  ท่าทางการเดินของมัน มั่นคงยิ่ง (ดุจ ดั่งบ้านมั่นคงที่ผู้เป็นใหญ่กล่าวอ้างในวาจาเมื่อคราฟ้าเปลี่ยนสี)

            เนื่องเพราะมันมิเพียงเดินไปอย่างไร้สติ   แต่เพลานี้ มันเดินอย่างผู้กล้า ผู้ใดเล่าที่ต้องการความสำเร็จ      ความสำเร็จย่อมเกิดได้ไม่ยาก  สำเร็จแล้ว ยังต้องการอันใดอีกเล่า ไม่มีสิ่งใดอยู่ได้ยืนนาน มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่และสูญไปในที่สุด  ทั้งไม่มีผู้ใดได้ทุกอย่างในโลก โอ้...ความ อาจอง( อ่านว่า อาด –อง) โอหัง ของข้า กลับทำให้ข้าสูญความเป็นตัวตน ความเป็นมนุษย์นั่นอยู่ที่ใด ?  แม้มนุษย์แสวงหา  แต่ข้าเล่า..ยังต้องการแสวงหาสิ่งใด ?  มันครุ่นคิดเนิ่นนาน  ในราตรีกาลนั้น  “ตุย  ชวง ซิน”  เหม่อมองท้องฟ้าในค่ำคืนเดือนมืด

ดวงดาวเปล่งประกายในท้องฟ้า    งามนักหนาราตรีนี้คือเพื่อน
สำนักที่จากมาว่าแรมเดือน          บัดนี้ มีเพื่อน เดือนดารา
คืนไร้เดือน คู่ฟ้า ในราตรี            ก็มิมีผู้ใดใฝ่ถามหา         
เพียงดาวตก สว่างไป ในเพลา      ก็งามตา ใจมนุษย์ สุดประมาณ

ธรรมชาติสร้างไว้ในทุกสิ่ง           ละทิ้งทุกอย่างได้ในสงสาร
ร้อยปีที่อยู่มายังว่านาน               ก่อนกาลพุทธองค์ทรงสอนมา
มนุษย์ชนเวียนว่ายทั้งตายเกิด      สุดประเสริฐที่เกิดได้ใต้โลกหล้า
หวังอันใด หนอคน ผ่านพ้นมา      เปรียบดั่งข้าฯวันนี้ที่ทุกข์ตรม

ยุทธภพ จบแดน แสนปวดร้าว       ชนะเขาแต่แพ้ใจให้ขื่นขม
ชนะใจชนะได้ให้ชนชม               จะคลายปมแห่งธรรมนำชีวา
“อมิตตพุท  หยุดได้ ก็ไร้ทุกข์       อยากมีสุข ต้องมีธรรม  นะผู้กล้า”
พอสิ้นเสียง เอื้อนเอ่ย ในวาจา       ตุย ชวง ซิน เงยหน้า น้ำตาคลอ.

         น้ำตาที่ไหลนองหน้านั้น  ที่แท้เป็นน้ำเย็นจากวัดที่เณรน้อยนำมาเช็ดตัวให้
" ฟื้นแล้วหรือโยม ? อาตมาเห็นท่านนอนสลบอยู่ในป่า  ดูท่าทางท่านมิใช่ขอทาน"

หลวงพ่อกล่าวก่อนเดินจากไป “ มีอันใดที่จะให้อาตมาช่วยเหลือ โปรดบอก ขออย่าได้เกรงใจ ”น้ำตาแห่งความปิติหลั่งไหลจากเบ้าตาของมัน ดุจดั่งสายน้ำตกก็มิปาน แต่...ไร้ซึ่งเสียงร่ำไห้

            ที่ผ่านมาล้วนผกผันและวกวน สับสนและวุ่นวายกับการได้มาซึ่งทุกอย่าง บัดนี้สิ่งนั้นไม่เหลือในใจมันแล้ว    นกร้องและจักจั่นเรไรในป่านั้น สะกดใจผู้คนได้มากมาย ความสุขใจเกิดขึ้นแล้ว
                เสียงระฆังดังเป็นระยะ รุ่งเช้าอันอบอุ่นนั้น  พระสงฆ์เดินผ่านถนนแห่งความสงบ ผู้คนตักบาตรตามเส้นทาง ภิกษุชราที่เดินหลังสุดผู้นั้นเป็น “  ตุย ชวง ซิน ”

(...อวสาน...)
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน ขอจบแบบธรรมดาๆ แบบนี้ก็แล้วกันนะขอรับ...

                                           ศน.เฉลิมชัย  เชื้อสาวะถี  สพป.ขก. 5

หมายเลขบันทึก: 409526เขียนเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2010 18:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (18)

ข้าน้อยมาคารวะเจ้าจอมยุทธภพ   จบได้อย่างงดงาม   ชื่นชม ๆ

พึ่งลอยกระทงมาครับ ขอบคุณในคำชม อ่านเรื่อง"กระทง...." ของท่านซ้ำอีกรอบ ยิ่งได้อารมณ์ครับ

มาติดตามตอนจบครับ สำหรับเืรื่องจริงแต่งอย่างนิยาย

ขอบคุณท่าน ผอ.วัฒนา, ท่าน ผอ.พรชัย ที่เข้ามาติดตามอ่านครับ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในวงการศึกษาของไทย

ตัวละคร ( ตุย ชวง ซิน) ขณะนี้บวชอยู่ที่ประเทศลาวครับ.

สวัสดีครับ ท่าน ศน.เฉลิมชัย เข้ามาอ่านตอนจบ แต่ก็พบธรรม

เรียนท่าน วอญ่า ขอบคุณที่เข้ามาอ่านตอนจบ ความจริงอยากเขียนยาวๆ เพื่อความบันเทิงของผู้คนและแฝงคติ(บางส่วน) ผมอ่านบล็อกของท่านแล้ว ได้ความรู้มากมายครับ

อ่านจนจบ ก็พบคุณธรรม หักมุมได้เก่ง เขียนได้ดีจริงๆ มีกลอนสุภาพด้วย ขอแสดงความชื่นชม อยากอ่านเรื่องอื่นๆบ้าง เดี๋ยวจะคอยติดตาม จำได้..ศน.เฉลิมชัย เคยเห็นหน้า ที่ไหนหนอ ?

  • อยากให้เขียนเรื่องแบบโรงเรียนขนาดเล็กครับ
  • ชอบๆๆ
  • มาเขียนเรื่องการนิเทศอีกนะครับ

สวัสดีครับคุณ นุชนารถ , อาจารย์ ขจิต ช่วงนี้กำลังเก็บข้อมูล บางส่วนนำไปทำวิจัย บางส่วนนำมาเขียนเรื่องสั้น ขอบคุณมากๆ ที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำครับ

ท่าน ศน.ครับ แวะมาปักษ์ใต้อย่าลืมส่งข่าวชาวพัทลุงน่ะครับ

สุดท้ายก็พบแสงแห่งธรรมนะคะ....ท่าน ศน.เขียนได้สุดยอดจริงๆค่ะ

ขอบคุณท่าน " มาตายี " แหม ชื่อน่ารักจัง บล็อกของท่านก็ให้สาระมากมายครับ

เนื้อหาดีมากค่ะ ศน. พึ่งเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ แนะนำด้วยนะคะ

ท่านจีราพัชร ครับ พยามยามจะเขียนให้เป็นเหมือนนิยายที่มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ข้างในครับ

ศน. คะ

ไม่ต้องเรียกท่านจีราพัชร ก็ได้ค่ะ เรียกครูต้อยเป็นแค่ครูตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ศน.เขียนเรื่องจริงให้เป็นบทคล้าย ๆ ละครได้ดีมาก ชอบอ่านอะไรแนวนี้ค่ะ ถ้าได้ผอ.เก่ง ๆ แบบศน.คงจะทำงานสนุกดีนะคะ ที่ท่านศน.เขียนมา มันเป็นเรื่องราว คล้าย ๆ ที่ทำงานของตัวเองค่ะ ค่อนข้างอดสูกับพฤติกรรมแบบ พวก นารีพิฆาต แต่อดสูยิ่งกว่าที่นารีเองก็ยอมให้เขาพิฆาต ไม่ทราบว่าเพื่อผลประโยชน์อะไร

ตอนนี้เรียน ป.โท สาขาบริหารการศึกษา ที่ มมส.ค่ะ ก็คงไม่ต่างจะ ม.นเรศวรนะคะ มาจาก มศว. เหมือนกัน

แล้วพบกันใหม่ค่ะ

ขอบคุณ ครูต้อย(จีราพัชร) ที่ช่วยเข้ามา comment เรื่องราวต่างๆที่เขียนเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แต่มิอาจบอกได้ว่า เรื่องอย่างนี้มีกันทุกหย่อมย่าน อาจบางทีมีเพียงที่เมืองไกลเท่านั้นก็เป็นได้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท