อ่านหนังสือเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างแพทย์กับคนไข้อยู่ ได้พบหัวข้อนี้แล้วได้ความคิดว่า เรื่องของการเข้าใจ เห็นใจผู้อื่นนี้เป็นเรื่องที่จะทำให้เราลดความคิดถึงตัวเองลง และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น เป็นการสร้างความสุขให้กับทั้งตัวเราและคนรอบข้าง
ในหนังสือเขาบอกว่า ทักษะในการเข้าใจผู้อื่นนี้สร้างได้ ฝึกได้ อ่านแล้วเห็นจริง แต่เทคนิคที่หนังสือเขียนไว้นั้นเป็นเรื่องระหว่าง แพทย์กับผู้ป่วย สิ่งที่เอามาเล่านี้เป็นความคิดที่เกิดจากการอ่านแล้วคิดเปรียบเทียบเอาเอง เดี๋ยวใครไปอ่านหนังสือนี้จริงๆแล้วจะสงสัยว่า เอ๊ะมาได้ยังไง
เอาเป็นว่า อ่านแล้วได้ออกมาว่า การจะสร้างนิสัยนี้ให้ลองฝึกปฏิบัติแบบนี้ดูค่ะ
ถ้าเราพยายามทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นคุณสมบัติประจำตัวเราได้ ชีวิตของเราและคนรอบๆตัวก็จะมีความหมาย สังคมรอบๆตัวเราก็จะมีความสงบสุข สำหรับตัวเองกำลังพยายามฝึกอยู่เช่นกันค่ะ
อ โอ๋ ที่รัก
อยากเชิญให้ไปอ่าน ความเห็น ในบล็อกนี้ หน่อย
ไม่ทราบอะไรดลใจ ทำให้คิดถึง อ โอ๋ ทันทีที่เปิดอ่านความเห็น ของ อ Handy
เลยมาหา ตั้งใจจะเอาประวัติ น้องโอ๋ ไป link
ได้บล็อกนี้ ที่ดีกว่า
ยืนยันความรู้สึกที่เดิม ให้มั่นคงยิ่งขึ้นไปอีก
ยัง ชักจูง ให้ คนอ่าน เกิด ความรู้สึก อยากทำดี อยาก เป็นคนดี มากขึ้นๆอีก
เป็นมงคลแก่ชีวิตที่ได้รู้จัก ผู้คน go to know ค่ะ
สวัสดีครับ
+ พี่โอ๋ค่ะ...
+ ทานข้าวเที่ยงยังเอ่ย....
+ เข้ามาบอกว่าอ๋อยพาดพิงถึงพี่โอ๋ไว้ที่นี่ค่ะ ความคิดเห็นที่ 19. ค่ะ...
+ แล้วจะกลับเข้ามาใหม่..ค่ะ
ขอบคุณ กัลยาณมิตรทั้ง 3 ท่านค่ะ ตามไปแล้วชื่นใจจริงๆ บันทึกพี่หมอหน่อย และความเห็นของพี่ Handy ทำให้ "สติ" กลับมาได้ดีจริงๆ รู้ว่าอะไรที่เราทำได้ อะไรที่ควรปล่อยวาง
น้องอ๋อยก็น่ารักจริงๆ ที่คิดถึงกันอยู่แทบจะตลอดเวลาเลย อย่าลืมเล่าเรื่องน้องแอมแปร์บ่อยๆในอนุทินนะคะ
น้องจิคะ น้าโอ๋ได้ไปบรรหาร เอ๊ย สุพรรณบุรีเมื่อไหร่ ต้องไปเที่ยวหอนี้แน่ๆค่ะ จังหวัดนี้เป็นที่ๆอยากไปเห็นเหมือนกันค่ะ