การเล่นกีฬาต่างๆนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้น แต่อาการบาดเจ็บของกีฬาแต่ละประเภทจะแตกต่างกันไปตามแต่กล้ามเนื้อ, ข้อต่อ หรือเอ็น ที่เกี่ยวข้องในกีฬานั้นๆ ส่วนใหญ่เราพบว่าอาการบาดเจ็บของนักกีฬามีสาเหตุมาจาก

1. ขาดการ Warm up และ Cool down
   การ warm up นั้น เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดมายังกล้ามเนื้อที่จะใช้ ทำให้กล้ามเนื้ออุ่นขึ้นจนพร้อมที่จะใช้งาน ไม่ฉีกขาดง่ายเหมือนตอนที่กล้ามเนื้อยังเย็นและตึงอยู่ ส่วนการ Cool down นั้นก็เพื่อคงการไหลเวียนของโลหิตไปยังกล้ามเนื้อนั้นอีกสักระยะหลังการออกกำลังกาย เพื่อลำเลียงของเสียที่เกิดขึ้นในระหว่างการออกกำลังกายออกไปจากกล้ามเนื้อ และคงปริมาณอ๊อกซิเจนที่เข้าไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่มีการใช้พลังงานแบบไม่ใช้อ๊อกซิเจนให้กลับมาสู่ภาวะปกตินั่นเอง
   
   
2. ออกกำลังกายหนักมากเกินไป
   มักเป็นการใช้ออกกำลังกายที่มากกว่าที่กล้ามเนื้อเคยทำได้ตามปกติ เช่น เล่นนานกว่าเดิมมาก , เล่นน้ำหนักมากกว่าเดิมมาก หรือมีสัญญาณบอกว่ากล้ามเนื้อล้าหรือบาดเจ็บแล้วแต่ยังคงฝืนเล่นต่อไป
   
   
3. ขาดความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเอ็นที่เกี่ยวข้อง
   เนื่องจากกีฬาหลายหลายประเภท เช่น กอล์ฟ กระโดดสูง เทนนิส บาสเกตบอล เป็นต้น เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยความยืดหยุ่นของร่างกายเป็นตัวช่วยในการส่งแรง หรือที่เรียกว่า prestretch ทำให้การเล่นกีฬานั้นได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะฉะนั้นถ้าหากทุ่มเทแรง เพื่อให้เกิดแรงส่งที่มากขึ้นแต่ขาดความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ ก็อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นได้ง่ายๆ
   
   
4. ขาดความทนทานของระบบหลอดเลือดและหัวใจ
   ดังเช่นที่เคยได้ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์กรณีที่มีอาการกล้ามเนื้อหัวใจวายในสนาม เป็นต้น
   
   
5. ขาดการทดแทนสารน้ำและเกลือแร่ที่เหมาะสมในขณะที่เล่นกีฬา
   เช่น เล่นกีฬาในที่ที่มีอากาศร้อนจัด ควรรับประทานน้ำหรือเกลือแร่ทดแทนทุกๆ ชั่วโมง , ผู้ป่วยเบาหวานควรทานน้ำตาลทดแทนทุก ๆ ชั่วโมง เป็นต้น

การออกกำลังกายใดๆ ก็ตามย่อมทำให้เกิดผลดีแก่สุขภาพของผู้ที่ออกกำลังกาย แต่หากการออกกำลังกายที่มากเกินไป หรือไม่เหมาะสมกับบุคคลบางคนอาจทำให้เกิดผลเสียได้ อย่างไรก็ตามร่างกายของคนเราสามารถที่จะบอกได้อย่างคร่าวๆ และสามารถที่จะนำมาปรึกษาแพทย์เพื่อหาข้อสรุปของการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับท่านต่อไป