ดิฉันอ่านพบความหมายชุมชนแนวปฏิบัติจากเว็บไซต์วิทยาลัยการปกครอง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่ http://www.dopa.go.th สกัดสาระบางส่วนที่ตัวดิฉันมีความเข้าใจคล้ายๆ มาได้ว่า
“ชุมชนแห่งการเรียนรู้ (CoP) เป็นกิจกรรมหนึ่งในกระบวนการ KM ที่มีกิจกรรมหลายประการที่จะต้องดำเนินการ ทั้งในส่วนที่อาจเรียกว่าเป็นมิติของการบังคับและในส่วนที่เป็นมิติของการส่งเสริม ส่วนที่เป็นมิติการบังคับ คือ การที่จะต้องดำเนินการ KM ในฐานะตัวชี้วัดที่เป็นพันธะสัญญาที่หน่วยงานได้จัดทำไว้ในคำรับรองการปฏิบัติราชการ กับ สำนักงาน ก.พ.ร. ให้สำเร็จ ส่วนที่เป็นมิติของการส่งเสริมคือ การดำเนินการ KM ในฐานะที่เป็นตัวขับเคลื่อนองค์กรสู่ความมีประสิทธิภาพประสิทธิผลและทำให้มีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด...”
ข้อมูลดังกล่าวจึงเป็นตัวสนับสนุนการเดินหน้าชุมชนฯ ต่อเนื่องบนเวทีเดิม - ดารานำใหม่ สดใส ไฉไลกว่า และระยะเวลาเพียงไม่ถึงสองเดือน ชุมชนฯ และดวงดาวดาราของเราส่อแววสดใสขึ้นมาบ้างแล้ว แม้จะยังไม่วาววับ แต่จากการจับสังเกตอาการผู้ฟังในวันนำเสนอรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานของชุมชน ฯ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2551 พบว่า ชุมชนฯ ของเราสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้แล้ว รออัดฉีดน้ำมัน (น่าจะใช้แก๊ส LPG แล้วนะคะ) เพื่อทะยาน(อยาก)
น้องใหม่ใสสดนำเสนอกิจกรรมได้อย่างกระชับ ฉับไว จนผู้ฟังตกตะลึง..อึ้ง...ลืมซักถาม (น้องใหม่รีบลงเวทีเพราะลึกๆ ก็กลัวโดนซัก) แต่มีรายการยิ้ม ยกนิ้ว...วิธีเดินไปยังเป้าหมายของชุมชนฯ นี้ ถือว่าสอบผ่าน เป็นอีกวิธีการหนึ่งต่างจากชุมชนคนใกล้หมอ
แน่นอนค่ะ กิจกรรมของชุมชน ภายใต้สมาชิก 12 คน(ไม่รวมดิฉัน) รับคำมั่นสัญญาจากสมาชิกแกนหลักรุ่นใหญ่(โต) ว่าจะปฏิบัติตาม หากทุกอย่างสำเร็จผล ภาระหน้าที่สมาชิกรุ่นเล็กพริกขี้หนู ไม่มีหัวโขนใส่สวม ได้ช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ และช่วยงานร่วมกันกับคนเป็น Fa ที่กะว่าวันนี้จะเป็น “Fa…always” ไม่ใช่ “Fa away หรือ Go Fa Far” ก็เริ่มเดินหน้าแล้วค่ะ
เรามีเว็บไซต์ และบล็อกของชุมชนในระบบอินทราเน็ต Fa ไฮเปอร์(ดิฉัน) ทั้งปลุกทั้งปล้ำ เอาจนสมาชิกทุกท่านสามารถลงมือปฏิบัติการ ดิฉันวางแผนต่อไปตามประสามารร้าย (ลึก) จะชักชวนสมาชิกชุมชนฯ นี้ แทรกซึมไปก่อการ(ไม่) ร้ายนักในบล็อกชุมชนเพื่อนบ้าน เพื่อไปให้ถึงวิสัยทัศน์การเป็นผู้ให้บริการที่ดีของชุมชน โดยเข้าไปรับรู้ปัญหาของผู้เป็นเป้าหมายรับบริการจากชุมชนฯ อย่างถึงเนื้อถึงตัว...ค่ะ นั่นจะค่อยเป็นค่อยไป แต่ดิฉันได้ไปปูทางนิ่มๆ ไว้ทดสอบเส้นทางแล้วค่ะ (สมัครสมาชิกบล็อกเพื่อนบ้าน มีสิทธิ์เขียนคอมเมนท์อย่างเดียว (เท่านี้ก็เกินพอค่ะ))
วันที่ 25 มีนาคม 2551 ชุมชน จุดเริ่มต้นของหัวใจ จะเริ่มออกเดินทาง เริ่มต้นจากจุดกลางใจของสมาชิกแต่ละคน พวกเราช่วยกันคิดหัวข้อสบายๆ ชื่อเก๋ไก๋น่ารัก “อยากบอกให้รู้...”
“อยากบอกให้รู้...” อาจเป็นเพียงคำสั้น ๆ แต่ลึกลงไปในความหมาย คงมีเรื่องราวหลากรส เล่าผ่านใจสมาชิกทั้ง 12 คน ซึ่งจุดประสงค์ที่ดิฉันคิดไว้ก็คือ
· รับประเด็นความสนใจเรื่องราวต่าง ๆ เรื่องเล่าประทับใจของสมาชิก รวมถึงปัญหาบางประการที่อาจออกมาเป็น ลบ
· ฝึกการฟังตามสูตร KM
· ทบทวนความรู้เดิมที่ลืมแล้ว (ความหมาย CoP , องคประกอบ และเจาะลึกบทบาทหน้าที่ของคุณ Facilitator คุณ Historian และการทำ Storytelling)
· ก่อนสุดท้าย AAR ถามความคาดหวังก่อนหน้า จากนั้น และต่อไป รวมทั้งสิ่งที่อยากให้ชุมชนมี ได้ เป็น
· สุดท้าย เหตุผลส่วนตัว คือการฝึกเป็นกระบวนกรของตัวเอง
(ขอบพระคุณข้อมูลจากเอกสาร KM_Miniworkshop-Part1.pdf โดย ดร. ประพนธ์ ผาสุขยืด) พ้นจากวันที่ 25 มีนาคม คงมีเรื่องราวมาเล่าต่อ...
สวัสดีค่ะอาจารย์เสือปืนไว
อิอิ อาจารย์สารพัดนามปากกาแล้วแต่กัลยาณมิตรตั้งให้ค่ะ แอบตามสังเกตกิจกรรมของ หอสมุด มน มาเรื่อย ๆ ตามประสาคนลักษณ์ 5 เข้าใจว่าตัวเองเป็นลักษณ์นี้ค่ะ
สวัสดีค่ะพี่ ดาวลูกไก่ ดีใจจังที่เข้ามาอ่านมาแลกเปลี่ยนกัน
ที่ว่า"แวะไปดูกิจกรรมของ มน ที่นอนเล่นเอกเขนกกับพื้น อยากให้ มช มีบ้างเหมือนกันค่ะ แต่เห็นจะยาก...บริบทของเรา...พูดได้คำเดียว ยาก "
ที่มน.ทำได้ค่ะ นี่จึงเป็นสาเหตุที่เราเองคิดว่าที่อื่นๆก็น่าจะทำได้ พอไปจัดกิจกรรมให้แล้ว มันไม่ใช่เลย ขนาดทำได้ไม่เท่าที่เราทำ บางทีก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ จุดประสงค์ที่เราทำ
KM มันมีหลากหลายรูปแบบที่จะนำเสนอ แต่ละกิจกรรมให้คนเข้าใจ แต่ก็มีไม่น้อย ที่ยังไม่เข้าใจ KM จึงเป็นเหตุให้เกิดกระแส ต่อต้าน ว่าอย่างนั้น....แต่ KM ไม่ทำไม่รู้นะค่ะ
ได้รับวารสารสำนักหอสมุด มช. ฉบับการจัดการความรู้แล้ว รู้สึกทีมของมช.เข้มแข็งมากๆ มีการทำอย่างต่อเนื่อง คนให้ความร่วมมือ ......
เป็นกำลังใจให้ทีมFa และขอไปเรียนรู้KM ของสำนักหอสมุดมช.ด้วยคนนะค่ะ
อาจารย์ขจิตตกลงอะไรกับน้าอึ่งอ๊อบ เราไม่รับรู้ด้วยนะคะ ฮ่าฮ่า
เป็นกำลังใจให้นะคะ เรื่องงานๆๆ....
ขำชื่อพี่ขจิต.. ต่อไปคงต้องเรียกพี่เสือๆๆ แทนขจิต โจ บา เอ เสียแล้ว อิอิ อืมมม ชื่ออะไรก็ดูดีกว่าเรียก "พี่แห้ว" นะคะ พี่ต๋อยขา
เรียกพี่สมหวังก็ได้ พี่เค้าชอบรับประทานแห้วบ่อยเหรอคะน้องสาว...ตายละวาเดี๋ยวเจ้าตัวมาอ่านเจอ..ไม่รับรู้อะไรกับน้องเนปาลีด้วยละเน้อ เคลียกันเอง
เคี่ยว KM น่าดูเลยนะคะ...
เคลียร์กันเรื่องนี้จนเบื่อแล้วค่ะ พี่ขจิตน่ะเป็นรองประธานชมรมรักแห้ว สังกัดคานทองฝังเพชรน่ะค่ะ ^^ มีพี่ naree เป็นประธาน พี่คนอื่นๆ สมาชิกกิตติมศักดิ์
รู้สึกมาตลอดค่ะ ผลักดันตามทฤษฎี รู้ตัวอีกที เหมือนจะไปไม่รอด คงยังไม่สายไปที่จะเริ่มทำอะไรจากที่เบา ๆ ก่อน (เคี่ยวแบบไฟอ่อน ๆ) แต่ในอีกด้านหนึ่ง ...เมฆฝนก่อตัวแล้ว...หลังจากไปสัมมนาประเด็นเกี่ยวกับยุทธศาสตร์...
สวัสดึค่ะ ขอเรียนรู้ด้วยคนค่ะ ....ได้ อนุญาต....ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ krutoi
สวัสดีค่ะคุณ คนพลัดถิ่น~natachoei(หน้าตาเฉย)