ในการประชุมสภา มอ. เมื่อวันที่ ๕ ก.ค. ๕๑ มีการนำผลการประเมินผลการดำเนินการของสถานวิจัย ๒ สถานมาเสนอ
สถานวิจัยจีโนม เป็นการนำเสนอผลสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ ใช้เงินของมหาวิทยาลัยไปเพียง ๓ ล้านบาทใน ๓ ปี แต่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากภายนอกถึง ๙.๑ ล้านบาท และมีผลลัพธ์ผลงานวิจัยตีพิมพ์และจำนวนนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษามากกว่าที่กำหนดในแผน ผอ. สถานวิจัยนี้คือ รศ. ดร. อมรรัตน์ พงศ์ดารา แห่งคณะวิทยาศาสตร์ โดยที่ สถานวิจัยนี้เกิดจากความร่วมมือของ ๕ คณะ
สถานวิจัยความเป็นเลิศความหลากหลายทางชีวภาพของคาบสมุทรไทย เป็นอีกสถานวิจัยหนึ่งที่นำผลงานมาเสนอ โดยที่เพิ่งเริ่มดำเนินการมาเพียงปีเดียว แต่ก็มีผลงานความสำเร็จน่าชื่นชมมาก มีผลทั้งด้านผลงานวิจัยและการทำงานวิชาการประยุกต์ เน้นที่ ปะการัง และค้างคาว มีผลให้พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาที่คณะวิทยาศาสตร์มีตัวอย่างจากผลงานวิจัยมาแสดง ทำให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าเข้าไปชมมาก
นี่คือตัวอย่างของการ reorganize การจัดการวิชาการ จากเดิมใช้ฐานวิชา/ศาสตร์ เป็นตัวแบ่งองค์กร เป็นภาควิชา/คณะ เปลี่ยนมาเป็นใช้เรื่องจริง ความเป็นจริงในสังคม เป็นตัวฐานการจัดองค์กร ซึ่งต้องก้าวข้ามศาสตร์ กลายเป็นองค์กรที่เป็นสหสาขาวิชา
การจัดการวิชาการแนวนี้ ต้องการความรู้และทักษะในการเลือกประเด็นสำคัญในสังคม ที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ มีจุดแข็งหรือข้อได้เปรียบที่จะดำเนินการ ตามมาด้วยการเลือก/เสาะหา leadership และทีมงาน มาดำเนินการ โดยต้องมีแผนงานที่ชัดเจนและมี KPI ให้ตรวจสอบได้ แล้วจึงลงทุนดำเนินการ ตามมาด้วยการติดตามประเมินอย่างที่ มอ. ดำเนินการอย่างน่าชื่นชม
นี่คือตัวอย่างของการจัดการวิชาการแนวใหม่ที่น่าชื่นชมมาก การนำเสนอต่อสภาทำให้ได้รับคำแนะนำเชิง content จากกรรมการสภามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นเรื่องการวิจัยกุ้ง และการวิจัย biodiversity
วิจารณ์ พานิช
๖ ก.ค. ๕๑
ไม่มีความเห็น