นับเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ของการจัดการประชุมสภามหาวิทยาลัยแบบใหม่ แบบที่เรียกว่า retreat คือประชุมเพื่อใช้พลังสร้างสรรค์ พลังของความไม่เป็นทางการ พลังของความเอาจริงเอาจังเจือสนุก เพื่อทำหน้าที่ Governance type II และ Governance type III ผมขอปรบมือให้แก่ รศ. ทพ. พาสน์ศิริ นิสาลักษณ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและกิจการสภาและทีมงาน ที่จัดการประชุมได้อย่างดีเยี่ยม ได้บรรยากาศที่เอื้อต่อการใช้พลังสร้างสรรค์ของสภาฯ
การประชุมนี้จัดที่โรงแรมมณเฑียร พัทยา ระหว่างวันที่ ๒๓ – ๒๔ ม.ค. ๕๒ ผลของการประชุมทำให้กรรมการสภาและผู้บริหารที่เข้าร่วมเกิดความเข้าใจร่วมกันว่า สภาฯ จะต้องทำหน้าที่ทั้ง Type I, Type II และ Type III เพื่อแสดงบทบาทของสภามหาวิทยา ลัยที่เป็น “ลมส่ง” ให้ฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติการทำงานขับเคลื่อนภารกิจเพื่อบรรลุเป้าหมาย “มหาวิทยาลัยวิจัยอันดับที่ ๑ ใน ๑๐๐ ของโลก” หรือการเป็น “ปัญญาแห่งแผ่นดิน” ให้ได้
เรื่องการทำหน้าที่ของสภาฯ อย่างมีประสิทธิผลนี้ สิ่งที่ต้องทำต่อคือ (๑) ออกข้อบังคับว่าด้วยสำนักงานสภาฯ เพื่อให้ส่วนที่ยังไม่ได้ระบุใน พรบ. มีความชัดเจน และมีความต่อเนื่อง (๒) แก้ไข พรบ. ให้ตรงกับหลักการและวิธีการทำงานกำกับดูแล (governance) ที่มีทั้ง Type I, Type II และ Type III (๓) พัฒนาระบบข้อมูลของฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบข้อมูลการเงิน เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบฯ และสำนักงานตรวจสอบภายใน ทำงานได้อย่างแท้จริง (คำแนะนำของ ศ. ดร. อมร จันทรสมบูรณ์)
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการสภาฯ จะต้องคัดเลือกคนเข้ามาทำหน้าที่เจ้าหน้าที่ประจำ (secretariat) ในส่วนของการทำหน้าที่ Type II & Type III และต้องฝึกคนเหล่านี้ ให้มีทักษะในการทำหน้าที่ ซึ่งจะต้องทำงานในลักษณะที่ไม่ใช้อำนาจสั่งการ แต่ทำงานค้นข้อมูล จัดระบบข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ประสานงานกับกรรมการ เชื่อมโยงสื่อสารกับส่วนต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล และภายนอก