เด็กหญิงเสื้อสีส้มเกิดและโตในบ้านพักภายในโรงเรียน
ไม่ค่อยได้เห็นวิถีความเป็นอยู่ในหมู่บ้านเหมือนเด็กวัยเดียวกัน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จึงริอ่านขี่จักรยานทางไกลไปกลับกว่าสิบกิโลเมตรกันสองคนอาหลาน
ผ่านไปเยี่ยมญาติก่อนจะเลยไปยังฝายพญาอุต ซึ่งขวางกั้นลำน้ำปิง
เขตต่อแดนระหว่างเชียงใหม่ ลำพูน
ออกเดินทางยามสาย ปั่นจักรยานท่ามกลางฟ้าหม่นกันคนละคัน
แต่กว่าจะไปถึงฝาย ก็กลายเป็นแสงแดดเริ่มจัดจ้า และตรงกับเวลาอาหารกลางวัน
จึงได้สัมผัสกับบรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่บริการอย่างเป็นกันเอง
ขายไป คุยกันไป ทักทาย ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ แม้กับคนไม่คุ้นเคยเช่นเรา
ได้อาศัยร่มเงาในร้าน ข้างหน้าต่างบานกระทุ้งไม้ใผ่สานบานใหญ่ที่มองออกไปเห็นหมู่ไม้ร่มรื่น
อิ่มท้อง สบายใจ มีแรงไปต่อ ก็ฝายอยู่ใกล้ๆ ร้าน
เดินผ่านเห็นหนุ่มใหญ่นั่งในเปลญวนใต้ร่มไม้ชายฝั่งน้ำน่าสบาย
ชักชวนให้หลานเดินข้ามสะพานเล็กๆ เหนือฝาย บอกว่าเป็นการเดินจากลำพูนไปเชียงใหม่
ซึ่งเจ้าตัวเล็กชอบใจกับความคิดนี้
สังเกตว่ามีแผงสีฟ้าผูกเชือกโยงไว้ที่ทางน้ำซึ่งไหลล้นข้ามมาอีกฝั่ง
เห็นปลาติดค้างอยู่ด้านล่างของแผง อ้อ..ต่องเต้น เครื่องมือหาปลาของชาวบ้าน
จึงถือโอกาสทักทายไต่ถามความเป็นไปกับหนุ่มใหญ่ใต้ร่มไม้
ได้ความว่ามานั่งเฝ้ารอจับปลา และต้องมาในตอนกลางวันจึงจะได้ผล
ปลาจะกระโจนขึ้นไปทางต้นน้ำ ทำให้ติดกับตาข่ายที่สร้างไว้ ถึงเวลาก็ดึงขึ้นมาเก็บได้
เดิมฝายนี้ไม่มีสะพานอยู่ด้านบน จนเมื่อมาเริ่มสร้างจึงมีที่วางและผูกโยงเชือกเช่นนี้
ที่จริงสะพานมีไว้เพียงให้เดินไปหมุนอุปกรณ์ปิดเปิดประตูน้ำเพื่อระบายทราย
และควบคุมการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในยามแล้ง
ช่วงนี้น้ำมากจึงหลากแรง ให้ได้แบ่งกันวางต่องเต้นเพื่อจับปลา
ระหว่างนั้นมีคนมายกต่องเต้น จึงได้เห็นการเก็บปลา
ดึงแผงขึ้นมาจับปลาที่ได้ใส่ในถุง หย่อนแผงลงไว้ที่เดิมและเดินจากไปนั่งรออยู่ใต้ร่ม
วันนี้คงมีปลาพอเลี้ยงดูให้อิ่มท้อง แถมใครบางคนอาจต้องเอาปลาไปวางขาย
ก็อาจเพิ่มรายได้จากทรัพย์ที่มีอยู่ในน้ำ ขอเพียงแค่มีปัญญาทำมาหากิน
มีฝายมีน้ำ มีปลา ก็มักมีคนมาผ่อนพัก บ้างตกปลา บ้างมานั่งเล่น
จึงเกิดเป็นอาชีพร้านค้า ให้ขายของ ดังที่ลองแวะชิมก๋วยเตี๋ยว
ได้เห็นต่องเต้นเป็นความรู้แล้ว ยังได้สังเกตรายละเอียดของฝาย
ช่องระบายทราย ช่องระบายน้ำ ทำงานอย่างไร
ยามเมื่อเลี้ยวรถจะกลับบ้าน เห็นต้นข้าวในทุ่งนา ลู่ราบลงเป็นหย่อมๆ
“ข้าวต้าว” หมายถึง ต้นข้าวล้มแบบนี้ คนที่เคยทำนาบอกว่าเก็บเกี่ยวยาก
ชี้ชวนกันดู พร้อมแถมความรู้พื้นถิ่นให้ ด.ญ.เสื้อสี้ส้ม
เที่ยวแบบนี้ ดีที่ได้ท่องไปใต้ฟ้ากว้าง เหนื่อยบ้าง ร้อนบ้าง พอให้ได้รสชาติ
บรรยากาศสดชื่น ทั้งยังภาคภูมิที่ได้ใช้สองขาของตนเอง
และหากรู้จักมอง รู้จักถาม ด้วยความเป็นมิตร ก็มักได้ความรู้ติดตัวเป็นของแถมจากเที่ยว
คุณหลานยังออกปากว่า มาแบบนี้ ได้สัมผัสอะไรไกล้ชิดมากกว่านั่งรถนะอา
แม้ว่าแรกเดินทางเข้มแข็งกันราว แลนซ์ อาร์มสตรอง
แต่หากมองตอนขากลับ อาจขยับลดชั้นลงเหลือแค่ แลนซ์ ขาจะพอง
ด้วยเรี่ยวแรงที่ลดถอย แต่ก็ค่อยๆ ปั่นกันมาจนถึงบ้าน ไชโย!!!
ด.ญ.เสื้อสีส้มบอกว่า..คราวหน้าไปกันอีกนะ...
สวัสดีครับ ครู และ ด.ญ.เสื้อสีส้ม สบายกันดีนะครับ คิดถึงครับ
เพลินเลยครับ นำเสนอได้เยี่ยมเลยครับ สนุกดีครับ อิอิ
เห็นภาพประกอบแล้ว ใครๆไม่อยากไปด้วยก็บ้าแล้ว
โดยเฉพาะหนูสีส้มถีบจักรยานไป เท่ห์กว่าขี่รถเครื่องตั้งเยอะ
ลงตัว เรียบง่าย อิสระเสรี
ไม่มีการเรียนอะไรจะสนุกเท่านี้อีกแล้ว
มีวิธีเรียนที่เห็นครบถ้วนทั้งขีวิตและสังคม
บทเรียนที่แปลกประทับใจ
ปัญหาเด็กไม่สในใจเรียน หลบ ขี้เกียจเรียน
บางทีก็ขึ้นอยู่กับครูนี่แหละ ไม่มีวิธีสอนที่น่าสนใจ
อยากจะเป็นครูชำนาญการ ครูเชี่ยวชาญ
ทำผลงานแบบซึมกะทือซังกะตาย
ไม่ได้ไปถาม ไปสอนเด็กจริงๆเท่าไหร่หรอก โมเมชั่นกันเป็นส่วนใหญ่
การศึกษาไทยจนมุม จนต้องมาปฎิรูปการศึกษาเล่นๆกันอีกรอบหนึ่งเร็วๆนี้
เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ชาวบ้านชวนไปดูการหาปลาในลำแม่น้ำมูล
อาจารย์ปลาจะยืนหัวเรือ เครื่องมือเป็นตาข่าย3เหลี่ยมต่อด้ามถือ
มีเรืออีกลำไล่ต้อนปลาให้หลบไปยังสุมทุมไม้ริมฝั่ง
อาจารย์ปลาจะสอดยอแบบพิเศษยกเอา ยกเอา ได้ปลาตัวใหญ่ๆ
ทำอยู่5-6 ครั้ง ก็ได้เกินกิน
ในน้ำมีปลา ที่เทวดาเลี้ยง จริงๆ
วันที่8พย.ว่าจะยกขบวนไปบุกรุ่งอรุณ เวลาคงไม่พอ
จึงขอจัดที่ ปตอ. เกียกกายแห่งเดียว
ขอยกยอดไปจัดที่รุ่งอรุณคราวหน้า นัดกันใหม่ และจะชวนแต่เนิ่นๆนะครู
ป้าแดงจ๋า
สวัสดีค่า..อาเฮีย
สวัสดีค่ะคุณอดิศร
ถ้าชอบ ว่างๆ แวะมาเป็นกำลังใจกันใหม่นะคะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะพ่อครูบา
สวัสดีวันจันทร์ค่ะพี่อึ่ง
+ สวัสดีค่ะพี่อึ่ง...
+ ตามมาเที่ยวกับสาวน้อยคนเสื้อส้มด้วยคนค่ะ....
+ ก็เมื่อวาน...ชวนแอมแปร์ไปดูนิทานตะพาบน้ำมาค่ะ...
+ ไปกลับสิบกิโล...ไม่ธรรมดาค่ะ...
+ อ๋อยจะจดจำวิธีการ(play +learn ) = เพลิน แบบที่อาสอนหลานเสื้อส้ม..มา เพลินแบบแม่สอนแอมแปร์บ้างค่ะ....
+ ว่าไป...อ๋อยว่าอ๋อยก็เพลินมากเหมือนกันค่ะ...ที่สำคัญได้รู้จักเครืองมือหากินอีกแบบค่ะ...
+ ขอบคุณอา-หลานเสื้อส้ม มากค่ะ...ที่ทำให้เพลินไปด้วยค่ะ...
สวัสดีเจ้าค่ะ
น้องจิแวะมาจับปลาด้วยคน อิอิ น่าสนุกจังเลย อยากเล่นๆๆ ...หนูจิ
สวัสดีค่ะน้องหมีเชอรี่
สวัสดีแม่อ๋อยค่ะ
สวัสดีชายหนุ่มหน้าตาดีค่ะ
อ้าว..น้องจิ มาเร็วๆๆ จะไปจับปลา..อย่ามัวแต่นุ่งโจงกระเบนท้าวแขนแอ่นหยัดอยุ่ ไปเปลี่ยนชุดก่อน..5555...
น่าสนุกจังค่ะ อยากกลับไปเป็นเด็กเหมือนเด็กหญิงเสื้อสีส้มจังค่ะ
ข้าวต้าว นี้เหมือนคำเมือง ที่แปลว่า ล้ม หกล้ม ไหมคะ
สวัสดีค่ะ
ตามมาดู ....
เห็นแล้วก็ "ต้องเต้น" ด้วยความอยากไปด้วย
ชอบดูเครื่องไม้เครื่องมือภูมิปํญญาคนไทย เห็นแล้วภาคภูมิใจค่ะ
ดีใจแทนน้องๆ ที่มีโอกาสได้ไปเรียนรู้สิ่งดีๆ ค่ะ
สมัยรุ่นๆ ชอบจับปลาค่ะ....ตอนนี้แขวนเบ็ดหมดแล้ว..อิอิ.
เผลอแป๊บเดียว...จะขึ้นเรียนแล้ว
หวัดดีครับ พี่อึ่ง
ผม เอก นะครับ ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเยียนเสียนาน แต่เข้ามาแล้วก็สัมผัสได้กับบรรยากาศอันอบอุ่นและเป็นกันเองจากตัวอักษรของพี่อึ่งเหมือนเคย
อ่านเพลินเลยครับ ความรู้มีอยู่รอบตัวจริงๆ หากเราลองสังเกตและเปิดใจรับสักหน่อย รอบข้างก็มีครูอยู่เต็มไปหมด อยากให้มีครูที่มีใจอย่างพี่อึ่งเยอะๆ จังเลยครับ
นี่ก็เดือนธันวาแล้ว เดือนหน้าเราคงได้เจอกันที่บ้านมกรานะครับ
สวัสดีค่ะพี่อึ่ง ที่คิดถึง
เห็นภาพแล้ว เงียบ ง่าย งาม งด จริงๆ ค่ะ
ความรู้ ก็เหมือน ความรัก หรือเปล่าคะ
มีอยู่ รอบๆ ตัว ทุกแห่งหน เพียงแต่เราจะเลือก
รัก เลือก เรียน ... ด้วย ใจ ใส่
คิดถึง พี่อึ่ง ขอบคุณเรื่องงามๆ ค่ะ
มีความสุขนะคะ
แม้ว่าแรกเดินทางเข้มแข็งกันราว แลนซ์ อาร์มสตรอง
แต่หากมองตอนขากลับ อาจขยับลดชั้นลงเหลือแค่ แลนซ์ ขาจะพอง
กำลังเพลิน ๆ อยู่ดี ๆ ขำกลิ้งเลยค่ะ พี่ครูอึ่งขา ^_^
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมนะคะ หมู่นี้งานตรืมมม..และเดินทางอยู่บ้าง อาจห่างหายจากการเขียน/ตอบบันทึก แต่ก็นึกถึงอยู่เสมอค่ะ
บันทึกเรื่องจริงจากใจ ใสๆ ได้ความรู้ความเบิกบานมากมายเลยค่ะ
อยากมีโอกาสขี่จักรยานท่องเที่ยวบ้าง คงแค่คิดค่ะ คือหนึ่งขี่จักรยานไม่แข็งเท่าไหร่ สองถนนหนทางเมืองอยุธยาเมืองท่องเที่ยวรถมากจังค่ะ และสามแถวบ้านมีถนนดินเลียบนาน่าขี่รถออกกำลังแต่ขี่คนเดียวกลัวถูกลักพาตัวแล้วไม่มีใครไปไถ่ตัวออกมาค่ะ
ได้รู้จักต่องเต้น และ ข้าวต้าวเป็นครั้งแรกเลยค่ะ