บทที่ 2 ต่อค่ะ
3. ตามปกติระยะเวลาดังกล่าวนั้นแต่ละวัน ผมมีรายการบรรจุเต็มเอี้ยดตั้งแต่ 5 นาฬิกาจนถึง 22 นาฬิกา กล่าวคือ...(ต่อข้อ 3.6)
3.6 เวลา 12.00 น. ถึง 13.00 น. เป็นเวลาทำราชการภาคบ่ายอันจะสังเกตเห็นได้ว่า ทุกฝ่ายมีความเฉื่อยชาอืดอาดกว่าเมื่อตอนเช้า เช่นอาจารย์ที่ไม่มีห้องเย็นจะอยู่อาศัยอย่างผม อาจต้องหลบไปศึกษาในห้องสมุดซึ่งหนาวดี นักศึกษาอาจตามเข้าไปฟุบหลับแถวมุมห้อง เสมียนพนักงานอาจขีดเขียนหรือพิมพ์ดีดช้าลงไป 50 เปอร์เซ็นต์ และมีอัตราคำผิดถี่ถึงหน้าละสามแห่งหลังจากตรวจแก้เอาเองแล้ว บรรยากาศอันซึมเซาในตอนบ่ายอาจเป็นภาวะอันสุดแสนจะทนทานได้ ถึงกับบางคนต้องหลบออกไปให้พ้นก็มีอยู่เหมือนกัน ทั้งนี้ยกเว้นก็แต่ในวันเงินเดือนออกซึ่งทุกคนมีอาการคึกคักเป็นพิเศษกระสับกระส่ายจนนั่งโต๊ะไม่ติด ขยันวิ่งไปมาตามโต๊ะตามแผนกอื่น ๆ บ้างก็จับกลุ่มสัมมนากันอย่างเอางานเอาการทุกแผนกทุกระดับ โทรศัพท์จะดังเกร๋งกร๋างถี่ผิดธรรมดา และถ้าเผลอไปรับเข้าบางทีถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินข้อความในธุรกิจที่กำลังดำเนินไปตลอดบ่ายวันนั้น เช่น
"ดอกเท่าไร?"
“เดือนนี้ขอเถอะ บ้านถูกน้ำท่วม...นะ...น่า”
"มันโกง! เล่นเปิดซองดูก่อนนะหว่า!"
3.7 เวลา 16.30 น. ถึง 17.00 น. เป็นเวลาสำหรับพักผ่อนตอนเย็นก่อนจะเริ่มงานส่วนตัวที่คลินิก ระยะเวลาครึ่งชั่วโมงนี้กล่าวได้ว่าเป็นเวลาทองของแพทย์ที่ทำงานส่วนตัว ซึ่งบางคนอาจใช้ช่วงเวลานี้นั่งหายใจ ดื่มน้ำชากาแฟ เล่นกับลูก ๆ บางคนได้เล่นเทนนิสสักเซทพอให้ร้อน บางคนโดดลงน้ำที่สระรุจิรวงศ์พอให้เย็น ตามแต่จะชอบร้อนหรือชอบเย็น หรือตามแต่ฤดูกาล หรือตามแต่อารมณ์
3.8 เวลา 17.00 น. ถึง 20.00 น. เป็นเวลาบริการผู้ป่วยนอกโรงพยาบาลเป็นการกุศล หลายคนเข้าใจว่าเราเปิดคลินิกส่วนตัวเพื่อหาเงินท่าเดียว เรื่องนี้ไม่ถูก ที่ถูกนั้นเราหาหลายท่า นอกจากหาเงินแล้วยังหาบุญกุศล โดยให้ความสะดวกอย่างมหาศาลกับผู้ป่วยประเภทหนึ่งซึ่งไม่สามารถจะมารับบริการที่โรงพยาบาล ซึ่งเราก็ให้อย่างเต็มที่เหมือนกันอยู่แล้วนั้น ผู้ป่วยที่ไม่สามารถจะมาโรงพยาบาลอาจมีสาเหตุหลายประการคือ
1. ไม่มีเวลา เพราะรู้ว่าการมาโรงพยาบาลต้องรอ เพราะโรงพยาบาลมีงานมากเกินไปในบางแห่ง
2. ป่วยนอกเวลาทำงานของโรงพยาบาลตามปกติ แต่ก็ไม่มากถึงต้องมารบกวนแพย์เวรที่โรงพยาบาล
3. ไม่ชอบโรงพยาบาล เพราะอ่านหนังสือพิมพ์บ่อย ๆ
4. กลัวโรงพยาบาล เพราะเอะอะว่าจะผ่าตัด
5. เกลียดคนทำงานโรงพยาบาล เช่น พนักงานหน้าหงิก พยาบาลหน้างอ หมอไม่พูด
6. รังเกียจคนไข้โรงพยาบาล ปะปนกันร้อยแปด
7. ป่วยด้วยโรคที่ไม่ถูกโรคกับโรงพยาบาล เช่น โรคชอบหมอเฉพาะบางคน
3.9 เวลา 20.00 น. เป็นเวลาอาหารเย็นและดูโทรทัศน์ข่าว แล้วพิจารณาคำร้องขออนุมัติดูรายการสุดท้ายของโทรทัศน์จากลูก ๆ เป็นราย ๆ ไป หากไม่อนุมัติก็จะต้องมีเหตุผลอันสมควร ไม่เช่นนั้นจะไม่เป็นประชาธิปไตย คนไทยสอนระบอบเผด็จการตั้งแต่ระดับครอบครัวกันมา พอกันทีแล้ว
3.10 เวลา 22.00 น. เป็นเวลาที่เงียบสงบพอที่จะอ่านหรือเขียนหนังสือตามแต่ความจำเป็น หรืออารมณ์ผสมผสานกัน ถ้าไม่มีทั้งความจำเป็นและอารมณ์ก็นั่งฟัง เอฟ เอม มัลติเพล็กซ์สะเตอริโอจนหลับไปแล้วจึงนอนก็ย่อมกระทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องนอนก่อนแล้วหลับเสมอไป ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าต้องตั้งเวลาเปิดวิทยุตอนเช้าไว้ก่อนจะหลับเป็นนิจศิล
แล้วนี่ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปล่องแก่งได้ตั้งสี่ซ้าห้าวันกันเล่า คอมพิวเตอร์ช่วยผมทีซี..
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลเรื่องเวลาของผม ซึ่งดำเนินมาอย่างกระพร่องกระแพร่งเต็มที เพราะว่าเวลามันมีไม่พอสำหรับทำอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างที่มิได้กล่าวถึงในที่นี้ แต่เป็นสิ่งที่ผมควรจะทำหรือใคร่จะทำ เช่น ควรตัดผมสามสัปดาห์ต่อครั้ง ก็จำต้องเลื่อนเป็นห้าสัปดาห์ต่อครั้ง หรือควรจะได้นั่งคำนวณหาเลขท้ายล็อตเตอรี่ ก็ไม่มีโอกาสได้กระทำเอาเสียเลยจริงๆ ดังนี้เป็นต้น
"ปัง---เฟี้ยว...-ปัง---เฟี้ยว"
นั่นเสียงใครคนหนึ่งหรือสองคนสาดกระสุนอยู่ข้างบ้านตามเวลาธรรมดาของเขา ไม่ใช่เสียงคอมพิวเตอร์อย่างแน่นอน.
จบบทที่สองค่ะ
ยังมีต่อบทที่สาม (จบ)
“เวลามีน้อยไม่สำคัญ แต่สำคัญที่คุณใช้เวลานั้นอย่างไร”
มาเยี่ยมและติดตามอ่านงานของคุณดาวลูกไก่
ถ้าไม่มีทั้งความจำเป็นและอารมณก็นั่งฟัง เอฟ เอม มัลติเพล็กซ์สะเตอริโอจนหลับไป
รีบกลับไปแก้ไขด่วน ^^ และช๊อบ..บ..บ ชอบ ลีลาการเขียนของคุณพ่อพี่นี่ แถมยังรู้ด้วยแน่ะ ว่าคนไม่ชอบไปโรงพยาบาลนี่เพราะอะไร?
สวัสดีค่ะคุณ เหรียญชัย เหรียญชัย มาวงษ์
น้องจ๊ะ...
เวลาถึงจะน้อย ก็ถือว่าโชคดี ที่มีเวลาครับ
สวัสดีครับ
เห็นด้วยกับคุณต้อมเลย
ไม่ชอบคนหน้าหงิกหน้างอ หมอไม่พูดด้วย เห็นคนเ็ป็นแมวไปได้
แต่คงไม่ใช่หมอ ธ.ส. อิๆๆ
เก่งมากๆ มีแผนที่ประกอบเรียบร้อย
เอ.. น่าจะมีกลอนนิราศประกอบด้วยนะครับ
อิจฉาพี่จ๊ะที่มี "ความหลัง"..น่าอ่าน (ฝีมือคุณพ่อล้วนๆ) ^^ เยี่ยมไปเลยจ๊ะ
รางวัลเป็น "ข้าวสองคำ"???????.......ใจร้ายจังเลยจ๊ะ มื้อหญ่าย..ย..ย ใหญ่น่ะ สะกดเป็นไหม? ว่าแต่ตอนดึกๆ หนาวจังนะคะ น้องจ๊ะกำลัง....อุ๊บ! ไม่บอกล๊ะ
คุณหมอมือโปรที่คลีนิค..ก็วินิจฉัยแพงอ่ะ T_T
เห็นด้วยกับอาจารย์ บ.ก. น่าจะมีนิราศประกอบ เมื่อกี้กำลังคิดๆ อยู่พอดี มีไหมๆๆ
สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ JJ
สวัสดีค่ะคุณ บก. ธ.วั ช ชั ย
ช่วยไปดูบันทึกวิธีทำหนังสือทำมือ หน่อยจ๊ะ.. สั่นกลัว (ไม่ใช่สั่นสู้)ไปหมดแล้วนะ อืม จะนำเสนอแบบวัยเด็กน้อยแบบไหนดีน๊า?
ดูหนังดูละครแล้วย้อนมองตน << คิดค่าลิขสิทธิ์ด้วย..ย..ย
พ่อครูทนันได้ปรับแก้ค่าวของพี่จ๊ะแล้วจ๊ะ อิอิ ^^ ในบันทึกขาดครูของครู ฟื้นฟูยากใบ้
ตามมาอ่าน เอ..คนสาดกระสุนแถวบ้านเป็นใครกันน่ะ..
น้องจ๊ะ...
น้องจ๊ะก็อยากไป แต่..ไปไม่ได้จริงๆ เหงื่อแตกตั้งกะยังไม่ได้ขึ้นรถแล้วล่ะมั้ง สงสารน้องจ๊ะ.. สงสารเด็กน้อยๆ.. เอาเป็นว่าน้องจ๊ะเขียนบันทึกนำเสนอสอนเด็กน้อยๆ ทำหนังสือทำมือแบบง่ายๆ อยู่ที่เชียงใหม่ดีกว่าไหม?...เด็กน้อยที่เมืองกรุงก็จะมีคุณครูที่โน่นเป็นผู้สอน น่าจะได้ดีกว่าน้องจ๊ะที่อู้บ่จ้างนะจ๊ะ
พี่จ๊ะอยากได้หนังแง่คิดงามๆ เอาเรื่องอะไรล่ะจ๊ะ??????? บอกชื่อหนังมาสิ.. ถ้ามีโอกาส(ก็พรุ่งนี้ คุณเจ้านายกลับมาแล้ว) จะรีบขึ้นบันทึกให้จ๊ะ ตอนนี้ขอไปคิดรูปแบบหนังสือทำมือของเด็กน้อยก่อนดีกว่า ไปนอนแล้วนะจ๊ะ ราตรีสวัสดิ์จ๊ะ
น้องจ๊ะ
สวัสดีค่ะคุณ นาย เอกราช แก้วเขียว
น้องจ๊ะ
สวัสดีค่ะพี่เจ๊
สวัสดีค่ะน้องพิม
พี่รอชมภาพดอกไม้สวยๆ นะคะ มีโอกาสไปชมดอกทิวลิปบานด้วยหรือเปล่าค่ะ
หวัดดีค่ะ
"เวลามีน้อยไม่สำคัญ สำคัญที่คุณใช้เวลานั้นอย่างไร"
เป็นข้อคิดที่เตือนให้รู้ว่า...อย่าโทษเวลา...ใช่ไหมคะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ครูคิม
สวัสดีค่ะคุณครู phayorm แซ่เฮ
ไม่รู้จะขอบคุณคุณดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี ยังไงดีที่ทำให้ได้อ่านเรื่องดีๆจากท่านอาจารย์หมอ เห็นลายมือท่านในบันทึกถัดไปแล้ว ทำให้อยากรู้ว่าเป็นลายมือปกติของท่านไหมคะ สวยและอ่านง่ายไม่เหมือนหมอปกติสมัยก่อนๆ (เอ๊ะ..หรือสมัยนี้ด้วย แต่เขาก็ไม่ค่อยเขียนกันแล้วเนาะ...)
ติดใจสำนวนท่านมากๆเลยค่ะ ขอบคุณคุณลูกสาวที่น่ารักมากๆนะคะ ขอให้มีพลังขุดกรุต่างเอามาฝากพวกเราต่อไปนะคะ
สวัสดีค่ะคุณพี่โอ๋-อโณ
พี่ดาว
คุณพ่อของพี่ดาวมีความจำเป็นเลิศ และที่สำคัญคือ บันทึกได้ละเอียดลออดีจริงๆ
ส่วนใน #26 นี่ แจ๋วไปเลย การไปเที่ยวนี่ ไม่ได้ไปสนุกอย่างเดียว แต่ได้ไปเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการฝึกตัวเอง และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าบางอย่าง [อาจรวมถึงการควบคุมอารมณ์ เวลาเจอเรื่องไม่สบอารมณ์โก่ด้วยบ้างครั้งครับ ;-)]
ชิวค่ะ
พี่ค้นเจอภาพแห่งความทนอดของน้องชายด้วยค่ะ เมื่อเล็กๆ คงไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมเราต้องไปอยู่ในพื้นที่แคบๆ อย่างนั้นตั้งหลายวัน แต่เมื่อแพพักจอด ก็มีรายการกระดี๊กระด๊าเป็นลูกหมาตกน้ำแบบในภาพนี่ละค่ะ
และที่ความจำของสมาชิกในบ้านเป็นเยี่ยม พี่มั่นใจว่าเพราะงานอดิเรกของพ่อ บันทึกภาพลงแผ่นสไลด์ และถูกนำมาฉายซ้ำ ๆ ในเวลาว่าง ๆ ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวเรากระชับแน่นค่ะ
จากเรื่องราวเหล่านี้ ทำให้เห็นความจริงว่า จะให้งาน(ซีเรียส)และกิจกรรม(ม่วนแต๊ๆ) เดินไปด้วยกันก็ได้
กระทั่งเกิดการก่อตั้งเป็นภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว แห่งแรกในประเทศไทยที่ มช. ค่ะ
เมื่อ พ. 07 ม.ค. 2552 @ 21:22
.
สวัสดี ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี
.
ได้กระตำเปียร(สามัญ/จัตวา) หัดเขียนค่าวก้อม(โท) แล้วส่งมาฮอม(สามัญ) ตั๊ดนี้(ตรี)
เปื้อหื้อป้อครู(สามัญ/จัตวา) มาอู้มาจี๊(ตรี) ว่าเขียนจะอี้(โท) เป๋นใด(สามัญ)
เกือบดีแล้วครับ(ตรี) จับมาขานไข(จัตวา) วรรณยุกต์ใด(สามัญ) ใส่ใจ๋สักหน้อย(โท)
.
ดูง่ายดีแต๊ แต่เฮาลองเขียน แทบจะอาเจียร เขียนปอจับไข้
จะหัดจ่ะใด หื้อไพเราะได้ กลั๋วหน้าแตกไง พี่น้อง
จ๋าเป๋นกำเมือง เป๋นเรื่องใคร่ฟ้อง ตึงอู้ตึงถ้อง บ่เปียง
แต่ชอบอ่านแต๊ แบบว่าออกเสียง ม่วนในสำเนียง เสียงเจ้าเจ้าเจ้า.