จากการดูแลสุขภาพเท้ามาประมาณ 2 ปีกว่าๆ ของอ้อ ปัญหาใหญ่สำหรับอ้อคือการลดแรงกดทับของแผลที่เท้า สัปดาห์แรกของการเปิดคลินิกเท้าก็ได้ลองของเลยคะ คือพบผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นแผลที่เท้าบริเวณใต้โคนนิ้วหัวแม่เท้าเป็นมาประมาณ 2 ปีกว่า เข้าทางเราพอดีเลย ด้วยความรู้อันเต็มเปี่ยมจากการไปเรียนรู้จาก รพ.เทพธารินทร์ เกิดร้อนวิชายังไง้...ยังไงก็ต้อง...off loading อย่างเดียวเลยคะแผลจะได้หายเร็ว ๆ ตอนนั้นในคลินิกของเราก็ยังไม่ได้มีอุปกรณ์สำหรับ off loading ไว้เลย ก็ต้องใช้เวลาในการหาอุปกรณ์และแสดงกรรมวิธีในการทำ felted foam ประมาณ 2 ช.ม.เอง....เฮ้อ...ขอหยุดปาดเหงื่อก่อนนะ....หลังทำเสร็จ ( ขอโทษที่ไม่มีรูปให้ชม ตอนนั้นตื่นเต้นลืมถ่ายรูปค่ะ ) ก็อธิบายวิธีการดูแลตนเองต่อที่บ้านอีกประมาณ 15 นาที ผู้ป่วยรับคำว่าเข้าใจเป็นอย่างดี อ้อเลยนัด F/U ในสัปดาห์ต่อไป เราก็รอวันนัดด้วยใจระทึก ( เว่อร์ไปป่ะ ) ด้วยอยากรู้ผลว่าที่ทำไปมันจะเป็นอย่างไรบ้าง พอถึงวันนัด พอผู้ป่วยมาถึงสิ่งแรกที่อ้อมองคือที่เท้าเลยคะ แต่ที่พบคือสิ่งที่เราใช้เวลาในการทำมากกว่า 2 ชั่วโมงนั้นหายไปแล้ว แผลก็ยังเป็นเหมือนเดิมทุกอย่าง ความรู้สึกแรกคือโกรธเพราะเราคิดว่าสิ่งที่ทำให้นั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา แต่เมื่อได้สอบถามกับผู้ป่วยก็ได้คำตอบว่า “ วันนั้นฉันกลับไปถึงบ้านฉันก็ดึงออกแล้วหมอ มันเดินไม่ถนัดแล้วก็มีแต่คนมอง ฉันไปหาลูกค้า ( ผู้ป่วยมีอาชีพขายตรงเครื่องสำอางคะ ) เขาก็มองฉันแปลก ๆแล้วฉันก็ขายของไม่ได้เลย ถ้าฉันยังใส่มันไว้ฉันคงทำมาหากินไม่ได้นะหมอนะ ” ได้ยินอย่างนี้แล้วอ้อยังไม่ละความพยายามที่จะใส่ felted foam ให้เขาต่ออีก แล้วยังทำอีกหลายราย แต่ผลก็ยังออกมาเหมือนเดิม พอมาคิดทบทวนดูอีกครั้งจึงได้คิดว่าการ off loading ด้วยวิธีนี้คงไม่เหมาะกับวิถีชีวิตของบ้านเราแน่ ๆเลย เราได้แต่คิดสิ่งที่เราทำอยู่เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้คิดถึงความเหมาะสมกับการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยเลย ได้นำปัญหาที่พบนี้ไปปรึกษากับน้องอาร์ม ( น้องกายภาพผู้น่ารักของเรา ) ว่าเราจะทำอย่างไรดี ในครั้งนั้นก็ยังหาบทสรุปอะไรไม่ได้ หลังจากนั้นมาอีกประมาณ 5-6 เดือน ขณะที่อ้อกับหนู ( คุณทับทิม พยาบาลประจำคลินิกเท้าอีกคนหนึ่ง ) กำลังทำแผลอยู่ในคลินิก มีผู้ป่วยคนหนึ่งใส่เฝือกและใช้ไม้ค้ำยันเดินผ่านไป อ้อกับหนูหันมามองหน้ากัน เกิดปิ๊งไอเดียว่าการใช้ไม้ค้ำยันก็เพื่อลดการลงน้ำหนักขาข้างที่ใส่เฝือก เพราะฉะนั้นน่าจะลดการลงน้ำหนักที่แผลได้เหมือนกันนะ จึงนำความคิดนี้ไปปรึกษากับทีมสหวิชาชีพมีความเห็นตรงกัน จึงนำมาทดลองใช้
ผลลัพธ์แบบนี้สิ อ้อ ถึงจะเรียกว่าของจริง ขอร่วมดีใจด้วยคนนะที่ช่วยให้ผู้ป่วยเท้าเบาหวานรอดจากการถูกตัดขาได้ ความสุขในทันทีที่เห็นเท้าคนไข้ ชื่นชมนะ
ขอชื่นชมในความพยายามของคุณค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^___^