สิทธิรักษ์
สิทธิรักษ์ รักษ์สิทธิธรรม รักษ์สิทธิธรรม

วิธีคิด


วิธีคิด ไม่ควรอยู่ในกรอบแคบๆของมัน สร้างฐานความคิดที่แข็งแกร่ง ฝังสู่ปัญญา แก้ปัญหาอย่างมีสติมีวิธี มีความหมาย มีอัจฉริยภาพ มีความลงตัว มีเป้าหมาย

วิธีคิด

วันนี้ยกวิธีคิดขึ้นมาเป็นหัวข้อแลกเปลี่ยน

ก่อนอื่นขอย้อนไปเมื่อครั้งก่อนที่ผมจะเข้ามาเป็นสามาชิกโกทูโน  เป็นเพราะผมค้นหา Google  ในคำว่า วิธีคิด  จนได้พบ Gotoknow  ทำให้ผมดีใจมากที่ได้เห็นความหลากหลายในเชิงความรู้ การแลกเปลี่ยนและบรรยากาศแห่งมิตรภาพ  ผมจึงไม่ลังเลเลยในการเข้าเป็นสมาชิก

วิธีคิด     สำคัญไฉน

เรามาพูดกันก่อนว่า ทำไมจึงมาถึงคำว่า วิธีคิด

ก่อนจะมาคิดเราคงจะต้องรับรู้สิ่งต่างๆรอบๆตัว ปัจจุบันมีอินเตอร์เนท  เป็นข้อมูลให้สมองได้รับรู้   สมองทำหน้าที่กลั่นกรองความรู้และข้อมูลต่างๆ แล้วสู่การปฏิบัติ  ฉะนั้นพวกเราก็จะมาพูดถึง

วิธีคิด  สำคัญไฉน

มีคำพูดมามากนักว่า คิดดี มีชัยไปกว่าครึ่ง   ไม่ผิดครับ คิดดีย่อมมีชัยไปแล้ว นำไปซึ่งรูปธรรมก็จะได้ผลที่ดีตามมา  แล้วถ้าคิดไม่ดีละ มันก็พัง  ทำไม่จึงคิดไม่ดี นี่ก็เป็นคำถามซึ่งหลายๆคนคงอยากรู้  บางครั้งตัวเราคิดว่าถูกแล้วทำไมจึงผิด  เราทำดีแล้วทำไมละจึงผิด

เราจะเริ่มแลกเปลี่ยนกันครับว่า  วิธีคิด  เป็นสิ่งสำคัญมาก ยิ่งในยุคปัจจุบันความหลากหลายในปํญหาที่พวกเราจะต้องแก้กันเป็นรายวัน

การคิดหรือความคิด เป็นการตอบสนองสองด้าน  ด้านการรับรู้  กับปัญญา     ความคิดของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน ร้อยคน ร้อยความคิด  เพราะปฏิกิริยาในการรับรู้ก็ต่างกัน  การตอบสนองการรับรู้ก็ต่างกัน  สิ่งแวดล้อมต่างกัน พฤติกรรมในสังคมก็ต่างกัน  สรุปได้ว่าตำแหน่งของแต่ละคนต่างกัน

ฐานะในสังคมต่างกัน  ก็เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่สำคัญในการคิด

ระดับการเปลี่ยนแปลงในสังคมก็เป็นเงื่อนไขหนึ่งในความคิด

สิ่งแวดล้อมที่แหลมคม หรือ สุขสบาย ก็เป็นเงื่อนไขหนึ่งในความคิด

คนหมู่มาก ย่อมคิดกันมาก ความหลากหลายก็มาก ในขณะความขัดแย้งก็มาก  รอวันที่จะระเบิดขึ้น ถ้าไม่มีการควบคุม

ฉะนั้น  วิธีคิด  จึงสำคัญมากและไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ถ้ายังอยู่ในสังคมหมู่มากอย่างนี้

ฐานคิด  ก่อกำเนิดวิธีคิด

ฐานคิด  ประกอบด้วยแกนในความคิด ไม่ใช่เปลือก

การสรุปบทเรียนต่างๆในอดีตได้รวบรวมปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์  รวบรวมมาซึ่งบันทึกในตำรับตำรามากมาย   ผู้รอบรู้  ผู้มีอำนาจทั้งหลาย ผู้ที่รับผิดชอบองค์กรต่างๆย่อมรู้ดีและพึงศึกษา

ฐานบางคนนำเอาคำสอนในศาสนามาใช้

ฐานบางคนนำเอาปรัชญามาปรับใช้

ฐานบางคนนำคติของบรรพบุรุษมา

ฐานบางคนนำภูตผีปีศาจมาชีนำ

ฐานบางคนนำความเชื่อต่างๆ แม้ไสยศาสตร์ก็ไม่เว้น

บางคนไม่มีฐาน เอาความรู้สึกเป็นครั้งๆไปจากความเข้าใจที่ได้รับ

ฉะนั้นวิธีคิดของคนเราย่อมมีกรอบฐานความคิด เพราะการรับรู้หลากหลาย 

สรรพสิ่งมีสองด้าน  สรรพสิ่งพัฒนาไม่เคยหยุดนิ่ง   สรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง  

วิธีคิด  ไม่ควรอยู่ในกรอบแคบๆของมัน  สร้างฐานความคิดที่แข็งแกร่ง ฝังสู่ปัญญา แก้ปัญหาอย่างมีสติมีวิธี มีความหมาย มีอัจฉริยภาพ มีความลงตัว มีเป้าหมาย

ผมคงไม่ลงรายละเอียดกันมากนัก  ให้พวกเรามาแลกเปลี่ยนกันดู  โดยเฉพาะผู้รอบรู้ ผู้ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อนๆ พี่น้อง  ผมอาจจะค่อยๆบันทึกเพิ่มเติมขึ้นจากผู้รู้ เพื่อเป็นวิทยาทานต่อไป

อาจจะมีการเพิ่มเติมเป็นระยะครับ

 

หมายเลขบันทึก: 192141เขียนเมื่อ 4 กรกฎาคม 2008 14:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 14:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (40)

สวัสดีครับ ท่านสิทธิรักษ์ :)

ผมเองก็ชอบคำว่า "วิธีคิด" มากเช่นกันครับ

เวลาคุยกับเพื่อน อาจารย์ ลูกศิษย์ มักจะดู "วิธีคิด" ของเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไยจึงมีทัศนคติเช่นนั้น เช่นนี้ ครับ

หากเป็นลูกศิษย์ที่มีทัศนคติต่อชีวิตไม่ดี ผมก็จะต้องเลือกหาวิธีการแนะนำให้กับเขา ให้เดินทางในทางที่มีธรรมะวางอยู่ หากจะบอกว่า มีสิ่งดี ๆ วางอยู่

เราก็ต้องมานิยามคำว่า สิ่งดี ๆ อีกว่า สิ่งดี ๆ ของเรา อาจจะไม่เหมือน สิ่งดี ๆ ของคนอื่นก็ได้

ขอบคุณ จุดเริ่มต้นของ "วิธีคิด" ครับ :)

  • วิธีคิด ?

จากประสบการณ์ส่วนตัว และจากการศึกษาเล่าเรียน ยืนยันได้ว่า อาตมาอธิบายได้ไม่ต่ำกว่าสิบวิธีได้เลยโดยทันที เช่น

วิธีการแรก คิดเป็นประเด็น คิดเชื่อมโยง และคิดให้เกิดผล... นั่นคือ คิดแต่ละประเด็นหรือแต่ละจุดละเรื่องให้ละเอียดลออ แล้วก็คิดเชื่อมโยงจากประเ็ด็นหนึ่งหนึ่งไปหาอีกประเด็นหนึ่ง แล้วก็คิดให้เกิดผล โดยการถักทอสิ่งที่เชื่อมโยงเหล่านั้นให้เกิดเป็นรูปร่างขึ้นมาให้ได้...

ฟังเค้าว่า หาดใหญ่เจริญขึ้นมาได้โดยวิธีคิดธรรมดาๆ ง่ายๆ ของใครหนึ่งว่า จีนกลัวโจร โจรกลัวนาย นายกลัวจีน...  คนจีนคิดเรื่องทำมาค้าขายเก่ง ดังนั้น ต้องชักนำจีนมาอยู่หาดใหญ่...  แล้วก็ให้เด็กๆ  ไปคอยลักขโมยของจีน ทำให้นาย (ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง) ต้องเข้ามาเพื่อใช้วิธีการปราบโจร... ส่วนนายได้รับความช่วยเหลือจากจีน จึงเกรงใจจีน... ขณะที่คนคิดก็ค่อยๆ ส่งคนเข้าไปสอดแทรกช่องว่างเหล่านี้...

สองอย่างข้างต้นนั้น เป็นความคิดเชิงระบบ แต่ฝ่าย ปรัชญาอัตถิภาวนิยม ไม่ยอมรับ เพราะพวกเค้าให้ความรู้สึกส่วนตัวมากกว่าความคิดเชิงระบบ ให้ความสำคัญเสรีภาพมากกว่าระเบียบกฎเกณฑ์ และให้ความสำคัญเฉพาะบุคลมากกว่าชุมชุนหรือสังคม... วิธีคิดของกลุ่มนี้น่าสนใจ เพราะมักจะคิดสิ่งแปลกๆ ออกมาได้ โดยไม่ถูกครอบงำด้วยความคิดเชิงระบบ กฎเกณฑ์ และชุมชน หรืออื่นๆ ...

อนึ่ง เมื่อมีวิธีคิด ก็ต้องมี ข้อมูลที่จะนำมาคิด ถามว่า ข้อมูลนั้น มาจากไหน ?... บางความเห็นก็บอกว่าเราได้มาจากสิ่งแวดล้อมโดยผ่าน ตา หู จมูก ลิ้น และกาย... ขณะที่บางความเห็นบอกว่า เรามีข้อมูลติตตัวมาแล้วตั้งแต่เกิด ซึ่งเราอาจขุดค้นขึ้นมาได้จากใจของเรา...

ยังมีประเด็นอื่นๆ อีกมากมายที่พอจะเล่าได้ แต่สรุปว่า ไม่มีอะไร ! เพราะทุกอย่างก็ แค่นั้นเอง !

เจริญพร

  • ไม่แน่ใจว่า "วิธีคิด" ที่ว่านี้...คือประเด็นไหนนะคะ เอาเป็นว่าตามที่เข้าใจแล้วกัน
  • วิธีคิดแต่ละคนก็เกี่ยวข้องกับ"ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้" 
  • เราสามารถฝึกวิธีคิดเพื่อให้เป็นประโยชน์กับตนและผู้อื่นได้...อย่างฝึกการคิดเชิงบวก..การคิดอย่างมีเหตุผล... :)
  • เอาดอกไม้มาฝากค่ะ

สวัสดีค่ะท่านพี่เหลียง

  • ไม่ได้มาทักทายกันนานนะคะ
  • ชอบการคิด เพราะกำลัง ทำงานเกี่ยวกับเรื่อง การคิด  คิดคิด
  • เลยเข้ามาคิด  ตามใจตนเองไว้ก่อน  คิดอื่นๆ จึงจะเกิดตามมาค่ะ

ขอบคุณค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ

:)  Thinking Concepts ;

มาส่งยิ้ม พิมพ์จิต พิสมัย ก่อนค่ะป๋าดล

ดีใจ ที่ป๋าขึ้นบันทึกใหม่นี้ จะเข้าได้ง่ายๆ

:)  - 1 -  Critical Thinking

คิดไม่ออก ก็ยิ้มไว้ก่อนค่ะ ตำราเขียนไว้

รู้นะ ตอนนี้ป๋าดลกำลังอมยิ้มอยู่ .. ? ค่ะ

:) - 2 - Analysis Thinking

ดีใจเอ๋ย ดีใจจัง ไปฟังเพลงสาวลาวรำพันดีกว่าค่ะ

แล้วก็จะคิดออก ... เพราะหนูมีแต่ทฤษฎีค่ะ :)

1 + 2 = Decision Making ;  depend on many factors ... ?

:) ตอนนี้คิดได้แค่นี้ค่ะป๋าดลขา .. ยากจังเลย โจทย์นี้ :)

 

 

หวัดดีค่ะ...

วิธีคิดของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป

ขอแค่  คิดดี  ทำดี  พูดดี  ก็พอแล้วค่ะ

และอีกหลาย ๆ ดี ก็น่าจะตามมานะค๊ะ...

+ หวัดดีค่ะ....

+ ศักยภาพ = ความคิด & ความเชื่อ & ตัวตนที่แท้จริง = มุมมองที่แตกต่าง

+ สูตรนี้อ๋อยคิดเอาเองนะ.....อิ อิ

 

สวัสดีครับท่าน  Wasawat Deemarn

ดีใจมากครับ ที่มาเป็นเกียรติให้ความเห็นประเดิม

พวกเราคงได้แลกเปลี่ยนกันครับ

วิธีคิด  สามารถบ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ของแต่ละบุคคล  การแก้ปัญหา เข้าถึงปัญหา ล้วนเป็นผลพวงของ วิธีคิด

โลกเรานี้สามารถเดินไปได้อย่างสง่างามโดยที่มีวิธีคิดอย่างถูกต้องและประสานความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในมวลมนุษยชาติ

เราต้องละทิ้งบางเรื่อง เราจะรวมบางเรื่อง เราจะประสานบางเรื่อง  เพื่อผลักดันสังคมให้เกิดสันติสุข ภารดรภาพ ยิ่งใหญ่

เราจะช่วยกันผลักดันความยากจน ความค่นแค้น ความไม่เป็นธรรมให้พ้นจากสังคมที่ดีๆของเรา  เข้าสู่ความสงบเงียบ สันติสุข ร่มเย็น โดยห่างจากปัญหาเลวร้ายทั้งปวง

เราจะสามารถร่วมบริหารจัดการ สรรพสิ่งในโลกให้ดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบ และเรียบร้อย

ขอบคุณมากๆครับ

สวัสดีเจ้าค่ะ อาเหลียงจ๋าๆๆๆ

วิธีคิด ต้องเริ่มจากพื้นฐานความคิดก่อน พื้นฐานความคิดมาจากไหน พื้นฐานความคิดก็มาจากการปูความคิด ใครละจะเป็นคนปูความคิด คนที่ปูความคิดให้เด็กๆอย่างหนูก็คือ ผู้ใหญ่ ดังนั้น วิธีคิดของแต่ละคน ย่อมที่จะแตกต่างกันออกไป

ความคิดที่หลากหลาย จะทำให้เกิดการพัฒนา แต่จะต้องไม่แตกแยก คิคิ วิธีคิดอย่างไรถึงจะดีที่สุด บอกไม่ได้ เพราะไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดดีที่สุด แต่สิ่งที่ดีที่สุด ก็คือ การนำวิธีคิดทุกๆวิธี มาผสมผสาน และเกิดการพัฒนาไปในทางที่ดี อันนี้คือการใช้วิธีคิดที่ดี คิดอย่างมีเหตุผล บนพื้นฐานคุณธรรม เพียงเท่านี้ ทุกๆความคิดก็มีคุณค่าแล้วค่ะ อาจ๋าๆๆๆ

รักอาที่สู๊ดดดด คิดถึงงงงงงง กอดดดดดด รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ --->น้องจิ ^_^

สวัสดีครับ ท่าน คนโรงงาน

ไม่ได้คุยกันเสียนาน สบายดีนะครับ

mindset-->Thinking-->System-->Behavior--->Result

ความเห็นนี้ คงเป็นสูตรการมองคนประเมินคนครับ ผมหมายความว่า  วิธีคิดที่ผมพูดถึงคงต่างจากวิถีคิด

ผมอยากให้ท่านเริ่มก่อน mindset

ซึ่งเป็นอิทธิพลก่อนกำเนิด mindset

เราลองมาแลกเปลี่ยนกันดูนะครับ

ขอบคุณมากๆครับ

สวัสดีค่ะ....ท่านสิทธิรักษ์

  • แวะมาเยี่ยมบันทึกใหม่ วิธีคิด
  • ไม่ได้คุยหลายวัน ท่านสบายดีนะคะ

+ กลับมาอีกที...

+ ความคิด = การเรียนรู้ & ความเชื่อ & ตัวตนที่แท้จริง & = มุมมองที่แตกต่าง +ศักยภาพ

+ คิด...ทำให้..คิด...เลยกลับมา...คิด...ใหม่...

ตามน้องแอมป์ แม่อ๋อยมาอีกครา ก่อนราตรีสวัสดิ์ค่ะป๋าดล

+ พอดี ปูไปปะกะ บันทึกนี้ค่ะ

http://gotoknow.org/blog/tasana02/191220

+  หวังว่าอาจตอบโจทย์ป๋าดลได้บ้างไม่มากก็ไม่เลยนะคะ :)

 

หนีฮ่าวเล่าซือ

  • ตอนนี้ยัง คิดไม่ออก ...
  • ต้องไปนอนสักตื่น แล้วหา วิธีคิด
  • รู้แต่ว่า...นักรบ ไม่กลัวแพ้ แม้อ่อนไหว ใจยังยืนหยัด ค่ะ
  • ขอบคุณที่เล่าซือไปส่งกำลังใจให้ค่ะ
  • บางครั้ง บางครา มันเกิดความทดท้อ หดหู่ หาสาเหตุไม่ค่อยพบ ไม่ทราบเพราะอะไร
  • สงสัยตะกอนในใจมันมากเกินไป  ต้องเอาไปถมทะเลเสียบ้างดีกว่า...^_^...

นมัสการหลวงพี่ BM.chaiwut

ขอบคุณมากๆครับ หลวงพี่ 

ได้รับพร ได้รับคำสอนครั้งนี้ประเมินค่าไม่ได้ครับ

วิธีการแรก คิดเป็นประเด็น คิดเชื่อมโยง และคิดให้เกิดผล... นั่นคือ คิดแต่ละประเด็นหรือแต่ละจุดละเรื่องให้ละเอียดลออ แล้วก็คิดเชื่อมโยงจากประเ็ด็นหนึ่งหนึ่งไปหาอีกประเด็นหนึ่ง แล้วก็คิดให้เกิดผล โดยการถักทอสิ่งที่เชื่อมโยงเหล่านั้นให้เกิดเป็นรูปร่างขึ้นมาให้ได้...

ฟังเค้าว่า หาดใหญ่เจริญขึ้นมาได้โดยวิธีคิดธรรมดาๆ ง่ายๆ ของใครหนึ่งว่า จีนกลัวโจร โจรกลัวนาย นายกลัวจีน...  คนจีนคิดเรื่องทำมาค้าขายเก่ง ดังนั้น ต้องชักนำจีนมาอยู่หาดใหญ่...  แล้วก็ให้เด็กๆ  ไปคอยลักขโมยของจีน ทำให้นาย (ตำรวจและเจ้าหน้าที่บ้านเมือง) ต้องเข้ามาเพื่อใช้วิธีการปราบโจร... ส่วนนายได้รับความช่วยเหลือจากจีน จึงเกรงใจจีน... ขณะที่คนคิดก็ค่อยๆ ส่งคนเข้าไปสอดแทรกช่องว่างเหล่านี้...

ผมอยากแลกเปลี่ยนหลวงพี่ดังนี้ครับ

ความคิดเชิงระบบ ความเข้าใจผม  เป็นความคิดว่าด้วยความสัมพันธ์  สรรพสิ่งมีความสัมพันธ์กัน  และขัดแย้งกัน 

ไม่มีโจรก็ไม่มีตำรวจ  ไม่มีคนรวยก็ไม่มีคนจน(โจร)  ไม่มีคนรวยจนไปหมดก็ไม่ต้องมีตำรวจ

แต่ทั้งหมดก็ขัดแย้งกันไปหมด  การจัดความสัมพันธ์ใหม่ที่หลวงพี่ว่ามานั้นก็สามารถแก้ปัญหาได้พอสมควร   จีนกลัวโจร โจรกลัวนาย นายกลัวจีน

สองอย่างข้างต้นนั้น เป็นความคิดเชิงระบบ แต่ฝ่าย ปรัชญาอัตถิภาวนิยม ไม่ยอมรับ เพราะพวกเค้าให้ความรู้สึกส่วนตัวมากกว่าความคิดเชิงระบบ ให้ความสำคัญเสรีภาพมากกว่าระเบียบกฎเกณฑ์ และให้ความสำคัญเฉพาะบุคลมากกว่าชุมชุนหรือสังคม... วิธีคิดของกลุ่มนี้น่าสนใจ เพราะมักจะคิดสิ่งแปลกๆ ออกมาได้ โดยไม่ถูกครอบงำด้วยความคิดเชิงระบบ กฎเกณฑ์ และชุมชน หรืออื่นๆ ...

ถ้าไม่น่าเกลียดนัก ผมอยากแก้คำบางคำในประโยคนี้ครับ

สองอย่างข้างต้นนั้น เป็นความคิดเชิงระบบ แต่ฝ่าย ปรัชญาอัตถิภาวนิยม ไม่ยอมรับ เพราะพวกเค้าให้ความรู้สึกส่วนตัวมากกว่าความคิดเชิงระบบ ให้ความสำคัญเสรีภาพ ส่วนตน มากกว่าระเบียบกฎเกณฑ์ และให้ความสำคัญเฉพาะบุคลมากกว่าชุมชุนหรือสังคม... วิธีคิดของกลุ่มนี้น่าสนใจ เพราะมักจะคิดสิ่งแปลกๆ ออกมาได้ โดย ปฏิเสธ ความคิดเชิงระบบ กฎเกณฑ์ และชุมชน หรืออื่นๆ ...

ขอโทษนะครับหลวงพี่ ซึ่งผมอยากยกตัวอย่างง่ายๆขึ้นมาครับ

ร้านค้า  และ  ลูกค้า   หรือ  ผู้ให้บริการ  และ  ผู้รับบริการ

สองสิ่งที่ได้พูดถึงเป็นคู่ความสัมพันธ์ที่ขัดแย้งกันในตัว

ไม่มีร้านค้า ไม่มีผู้ให้บริการ ก็ไม่มีทั้งลูกค้าและผู้รับบริการ

ร้านค้าต้องเอาใจลูกค้า ลูกค้าก็ให้การสนับสนุนร้านค้า  ผู้ให้บริการต้องเอาใจผู้รับบริการ ผู้รับบริการก็ตอบสนองที่ดีกับผู้ให้บริการ

แต่มันเป็นเพียงเงื่อนไขเบื้องตัน   สภาพการที่พัฒนาไป  เช่น  ร้านค้ามีลูกค้ามากขึ้น  ผู้ให้บริการมีผู้รับบริการมากขึ้น  เงื่อนไขเดิมเปลี่ยนก็จะก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน  เช่น  ร้านค้าเอาใจลูกค้าน้อยลง หรือเอาใจลูกค้าบางคนที่เป็นกรณีพิเศษ  หรือ ผู้ให้บริการก็เป็นทำนองนี้เช่นกัน

มันหยุดเพียงแค่นี้ไหม  ไม่ใช่ ที่ว่าไว้สรรพสิ่งก็พัฒนาไปไม่หยุดนิ่ง.........................คงจะต้องนึกภาพต่อกันครับ จะไม่ลงรายละเอียดมากกว่านี้

คู่สัมพันธ์และความขัดแย้งก็พัฒนาไป  เรามาคิดกันครับว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

ถ้าเราคิดในเชิงระบบดั่งหลวงพี่ว่า  การมองและการแก้ปัญหาคงไปได้ถูกจุด  รู้ว่าถ้ามีปัญหาระหว่างสองสิ่งจะแก้ด้วยวิธีอย่างไร

ถ้าเราคิดแบบ ปรัชญาอัตถิภาวนิยม  การแก้ปัญหาก็แตกต่างกันไป เราไม่สามารถคาดเดาอะไรจะเกิดขึ้น  ดั่งที่เราได้ยินบ่อยๆว่า

เฮ้ย ........เดี๋ยวนี้เขาไม่สนใจเราแล้วหละ  นี่ขนาดเป็นลูกค้าประจำนะ สงสัยมันรวยแล้ว

ปรัชญาอัตถิภาวนิยม   สามารถบันดาลเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นเพราะเขาคิดว่า  ของกู ต้วกู  กูเหนื่อยมานานแล้วยังต้องเอาใจอะไรกันอีกขาดไปซักคนก็ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไร  เขาจะปฏิเสธ ความสัมพันธ์โดยสิ้นเชิง

ขอบคุณครับหลวงพี่  ผมขยายความซะยาวหลวงพี่คงไม่เบื่อนะ

จ้ะเอ๋ป๋าดลขา

* ตื่นรึยังเอ่ย นอนดึกอีกแล้วนะคะเมื่อคืนนี้ มีสายสืบรายงาน :)

* ...  ให้ป๋าสดใส ทานข้าวเยอะๆ แล้วไปดูความมหัศจรรย์

ของธรรมชาติกันค่ะ ... http://gotoknow.org/blog/lanandaman/192253

... ดูสิว่า ป๋าจะชอบภาพไหนอีกครานี้ ''' มีตัวอย่างค่ะ

สวัสดึครับ คุณ พิชชา

ผมมาช้าไปหน่อยเพราะมีธุระกิจเข้ามาพัวพัน 

  • เราสามารถฝึกวิธีคิดเพื่อให้เป็นประโยชน์กับตนและผู้อื่นได้...อย่างฝึกการคิดเชิงบวก..การคิดอย่างมีเหตุผล... :)
  • วิธีนี้เป็นวิธีคิด และกรอบคิดที่ตัวเองเองตั้งไว้  แต่ปัญหาทุกเรื่องก็ไม่สามารถนำวิธีเดียวกันในการตัดสินปัญหาที่เราเผชิญได้

    แต่ก็เป็นวิธีที่สามารถป้องกันตนเองในสถานะการณ์ต่างๆได้มากครับ

    ถ้ารูปธรรมในปัญหามีความซับซ้อน เราควรจะมีวิธีคิดที่มั่นคงแล้วตีโจทย์ให้แตกและถูกต้อง แล้วนำไปแก้ปัญหาได้ถูกจุด

    ยิ่งถ้าเราอยู่ในฐานะที่จะต้องรับผิดชอบต่อคนหมู่มากแล้ว ยิ่งควรต้องมีวิธีคิดที่ถูกต้องในการแก้ปัญหา

    ขอบคุณมากครับ ที่ได้มาแลกเปลี่ยนกัน  มาคุยกันต่อนะครับ

     

    สวัสดึครับ คุณ พิชชา

    ผมมาช้าไปหน่อยเพราะมีธุระกิจเข้ามาพัวพัน 

  • เราสามารถฝึกวิธีคิดเพื่อให้เป็นประโยชน์กับตนและผู้อื่นได้...อย่างฝึกการคิดเชิงบวก..การคิดอย่างมีเหตุผล... :)
  • วิธีนี้เป็นวิธีคิด และกรอบคิดที่ตัวเองเองตั้งไว้  แต่ปัญหาทุกเรื่องก็ไม่สามารถนำวิธีเดียวกันในการตัดสินปัญหาที่เราเผชิญได้

    แต่ก็เป็นวิธีที่สามารถป้องกันตนเองในสถานะการณ์ต่างๆได้มากครับ

    ถ้ารูปธรรมในปัญหามีความซับซ้อน เราควรจะมีวิธีคิดที่มั่นคงแล้วตีโจทย์ให้แตกและถูกต้อง แล้วนำไปแก้ปัญหาได้ถูกจุด

    ยิ่งถ้าเราอยู่ในฐานะที่จะต้องรับผิดชอบต่อคนหมู่มากแล้ว ยิ่งควรต้องมีวิธีคิดที่ถูกต้องในการแก้ปัญหา

    ขอบคุณมากครับ ที่ได้มาแลกเปลี่ยนกัน  มาคุยกันต่อนะครับ

     

    สวัสดีครับ คุณ  ครูอ้อย แซ่เฮ

    สบายดีนะครับ ไม่ได้พบกันเสียนาน

    ใช่ครับ ส่วนหนึ่งก็คิดตามใจตัวเองได้ ถ้าไม่กระทบกับความเสียหายของคนอื่น  ดีครับ  คิด คิด คิด

    ขอบคุณมากๆครับ

    สวัสดีครับ น้อง  P  poo

     

    ดีใจครับที่น้อง poo มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน

    ตามที่เข้าใจที่ปูว่า เป็นกระบวนคิดมากกว่านะครับ 

    ที่ว่าวิธีคิดความหมายคือ  นำประสานฐานคิด  หลักคิด แล้วเข้าสู่วิถีแห่งคิด  จัดระเบียบความคิด เข้าสู่กระบวนแก้ปัญหา เช่น ปัญหาหนึ่งๆ เราจะวิเคราะห์ จากไหนสู่ไหน  ที่มา ที่เกิด และผล  และถ้าเราเข้าแก้ผลจะตามมาอย่างไร  (คิดและมองอย่างรอบด้าน โดยประสานฐานคิดและหลักคิดเป็นแกน)

    วิธี คิด  จึงน่านำมาแลกเปลี่ยนกันครับ

    บางปัญหา หลายคนคิดไม่เหมือนกัน แก้ปัญหาต่างกัน 

    มีคำพูดที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ ว่า ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก 

    ถ้าแก้ปัญหาได้ถูกต้องถูกวิธี  เรื่องต่างๆก็จะไม่ขยายไปใหญ่โต  แล้วจะลุกลามบานปลายไปอีกยิ่งถ้ายังคิดไม่เป็น (ดื้ออย่างไม่มีเหตุผล)

    มาแลกเปลี่ยนกันครับ  น้อง poo

    ครับคุณ P  windy

     

    สบายดีนะครับ คนอารมณ์ดีอย่างนี้ สุดยอดครับ

    ขอแค่  คิดดี  ทำดี  พูดดี  ก็พอแล้วค่ะ

    และอีกหลาย ๆ ดี ก็น่าจะตามมานะค๊ะ...

    ผมขอเพิ่มหน่อยนะครับ

    ขอแค่  คิดดี  ทำดี  พูดดี จากใจจริง  ก็พอแล้วค่ะ

    และอีกหลาย ๆ ดี ก็น่าจะตามมานะค๊ะ...

    สวัสดีครับน้อง

    กวนแม่มากไหม  ห่วงแม่หน่อยนะจ๊ะ

    + ความคิด = การเรียนรู้ & ความเชื่อ & ตัวตนที่แท้จริง & = มุมมองที่แตกต่าง +ศักยภาพ

    + คิด...ทำให้..คิด...เลยกลับมา...คิด...ใหม่...

    ความคิดก็คือความคิด  ความแตกต่างคือ วิธีคิด

    "ในปัจจุบันพวกเราคิดเป็นกันไหมครับ"   นี่คือคำถามที่พวกเราต้องช่วยกันหาคำตอบ  พวกเรามาหาจุดอ่อนกัน

    การเรียนรู้   เป็นสิ่งจำเป็นและไม่เคยหยุดยั้งไม่ว่าในอริยะบทใด

    ความเชื่อ  คนเราจำต้องยึดความถูกต้องบางอย่างสู่ความเชื่อมั่น

    ตัวตนที่แท้จริง  เป็นจุดอ่อนมากนะครับ ทุกวันนี้พวกเรารู้จักตัวตนที่แท้จริงของเราแค่ไหน  (ต้องมาแลกเปลี่ยนกันครับ)

    มุมมองที่แตกต่าง  เป็นธรรมชาติของคนเราซึ่งฐานการรับรู้แตกต่างกัน แนวคิดก็แตกต่างกันไป  เป็นข้อต่อที่สำคัญ ซึ่งเราทุกคนร่วมศึกษาหารือกันครับ

    ศักยภาพ   ด้านนี้เราสามารถบ่มเพาะสร้างเสริมให้ความห่างน้อยลงกันได้  เพียงแต่พวกเราจะร่วมต่อสู้ปัญหานี้ได้แค่ไหน

    ขอบคุณมากๆครับ ที่ยังไม่ลืมกัน  และที่ปลื้มสุดๆคือ

    + คิด...ทำให้..คิด...เลยกลับมา...คิด...ใหม่...

    จ้ะเอ๋ยามเช้า อาทิตย์หรรษา กระดี๊ กระด๊า ค่ะป๋าดล

    * Now I'm falling in love  .... kha

    * so i'm focus on Love, Love & Love

    * Love is all around the Nature  ... Nature

    * Surrounding us, you & me  ... Yuppie

    * ...  เลยยังคิดบ่ออกค่ะ แต่ปูลอกการบ้านเก่งค่ะป๋า

    ไปเจอ นี่อีกแล้ว ...   5  5 .... 

    *

    http://www.budmgt.com/topics/top01/thinktiemchok38.html

     

     

    http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q3/article2005sep06p6.htm

     

     

    * ป๋าดลขา วันนี้น้องปูต้อง ชีพจรลงเท้าอีกแล้วค่ะ ..

    จะชมทิวทัศน์ ระหว่างเดินทางนะคะ ... เสมอ เช่นเคย ค่ะ

     

    สวัสดีครับพี่เหลียง

        นำแผนภาพมาฝากครับ..... ไม่มีคำอธิบายนะครับ... รักษาุสุขภาพด้วยครับพี่ชาย

    http://gotoknow.org/file/mrschuai/thinking-base3.jpg

    สวัสดีค่ะลุงแพนด้า

    เรื่องคิด คิด คิดเท่าไรคิดไม่ออกสักทีค่ะ บางทีคิดแต่ไม่กล้าพูดออกมา ตอนคิดเราก็ควบคุมมันได้ แต่พอพูดออกมา เหมือนพันธะสัญญา

    มีบางคนที่เราพูดอยู่ พูดยังไม่จบ จะสวนขึ้นมาทันที แล้วมันแสดงออกให้คนฟังคนอื่นรู้ว่า ที่คุณพูดออกมามันชัดเจนมากเลยนะคือตัวตนแท้จริงของคุณเอง โอ้ย ยิ่งคิดยิ่งเครียดค่ะ 

    มาชวนลุงแพนด้าไปเล่านิทานเรื่องนี้ค่ะ (ก็คิดไม่ออกนี่นา^^)

    โก๊ะจิจัง แซ่เฮ ^๐^!   หลานรัก

    คลื่นลูกใหม่ ที่ใส่ใจในความรู้ ความรัก ความอบอุ่น

    หลานรัก อาสบายใจมากที่ได้หลานมีความเข้าใจเกี่ยวกับความคิดเบื้องต้นของคนเรา

    วิธีคิด ต้องเริ่มจากพื้นฐานความคิดก่อน พื้นฐานความคิดมาจากไหน พื้นฐานความคิดก็มาจากการปูความคิด ใครละจะเป็นคนปูความคิด คนที่ปูความคิดให้เด็กๆอย่างหนูก็คือ ผู้ใหญ่ ดังนั้น วิธีคิดของแต่ละคน ย่อมที่จะแตกต่างกันออกไป

    ความคิดที่หลากหลาย จะทำให้เกิดการพัฒนา แต่จะต้องไม่แตกแยก คิคิ วิธีคิดอย่างไรถึงจะดีที่สุด บอกไม่ได้ เพราะไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดดีที่สุด แต่สิ่งที่ดีที่สุด ก็คือ การนำวิธีคิดทุกๆวิธี มาผสมผสาน และเกิดการพัฒนาไปในทางที่ดี อันนี้คือการใช้วิธีคิดที่ดี คิดอย่างมีเหตุผล บนพื้นฐานคุณธรรม เพียงเท่านี้ ทุกๆความคิดก็มีคุณค่าแล้วค่ะ อาจ๋าๆๆๆ

    ความเข้าใจอย่างเป็นระบบ  ใช่จ๊ะ  ความคิดความรู้ในเบื้องต้นเป็นการเรียนรู้จากสิ่งรอบข้าง ผู้ใหญ่ที่ให้ความรู้ที่ถูกต้องก็สามารถส่งให้ฐานความคิดที่แข็งแกร่งได้

    แต่หลานจ๊ะ ความรู้นั้นไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่จะประสิทธิประศาสตรเราได้เพียงอย่างเดียว  ตำราที่ดี หนังสือเรียน สิ่งแวดล้อม ปฏิสัมพันธ์ในทุกเรื่องล้วนแต่เป็นความรู้แก่ตัวเราได้  ยกตัวอย่างง่ายๆแค่นั่งทานข้าว ดูทีวี การย่างก้าวทางที่ราบเรียบกับทางที่ขรุขระ ล้วนให้แง่คิดเราได้ทั้งนั้น

    การจัดระบบคิด สู่ วิธึคิดที่ถูกต้อง สามารถนำปรับสู่การแก้ปัญหาต่างๆได้

    ฐานคิดที่แน่น ประมวลสังเคราะห์ วิเคราะห์ แยกกรอง การรับรู้ในสรรพสิ่งล้วนก่อเกิดการควบแน่นของวิธึคิด

    อาขอปรบมือให้หลานจิ  มีซึ่งวิสัยทัศน์ กระบวนทัศน์ที่เป็นระบบในเส้นทางที่ถูกต้อง   พยายามเพิ่มเติมในส่วนที่ขาดจ๊ะ

    แล้วอย่าลืมสุขภาพด้วยหละ

    คิดถึงเสมอ ......................................รัก   อาเหลียง

    สวัสดีครับคุณ P  กัญญา

     

    ไม่ได้เจอกันหลายวัน สบายดีนะครับ

    ครับ เรามาจัดระบบคิด เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

    ขอบคุณมากครับ

    คาราวะท่านนักรบ P  คนไม่มีราก

     

    จอมยุทธผู้ไม่หวั่น        ประจันทุกผู้หน้า

    ปกป้องมวลประชา       ไสหน้าอริราชศัตรู

  • บางครั้ง บางครา มันเกิดความทดท้อ หดหู่ หาสาเหตุไม่ค่อยพบ ไม่ทราบเพราะอะไร
  • สงสัยตะกอนในใจมันมากเกินไป  ต้องเอาไปถมทะเลเสียบ้างดีกว่า...^_^...
  • ใจคน สติคน ย่อมเป็นคลื่นความถี่ มีขึ้นมีลง  เป็นเรื่องธรรมดามาก

    ตะกอนเสียทื้งทะเลไป  ตะกอนดีเก็บกองไว้ตรงนี้ครับ

    • สรุปแล้วว่าต้องมีสติใช่ไหมค่ะ
    • มีปญญาแบกไว้ในสมองก้อนโตแค่ไหน
    • ถ้าขาดสติก็คิดได้เท่ากอ้นกรวดแค่นั้นเอง
    • ใช่ไหมค่ะค่ะ
    • ขอโทษนะค่ะ Lin Hui คิดเป็นบางเรื่องค่ะ
    • แต่คิดไม่ป็นอีกหลายเรื่อง
    • จึงเข้าโกฯมาเรียนรู้วิธีทีหลากหลายบนฐานของคุณธรรม
    • ข้ามา ข้าเห็น แล้วข้าจะเข้าใจ แล้วข้าก็..........

    สวัสดีค่ะ เล่าซือ

    • ใบไม้มาแล้ว..ว.. มาช้ายังดีกว่าไม่มานะคะ อิ..อิ..
    • มาร่วมระดมสมองแลกเปลี่ยนเรื่อง "วิธีคิด" กับเล่าซือจ้า

    "วิธีคิด" ของแต่ละคนย่อมถูกหล่อหลอมมาจากการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวเป็นเบื้องต้น ประสบการณ์ไม่ว่าดีหรือเลวย่อมมีส่วนต่อมุมมองในการคิด สภาพความเป็นไปของสิ่งใกล้ตัวย่อมส่งผลกระทบ ประเพณี วัฒนธรรมของชุมชนย่อมมีส่วนหล่อหลอม อิทธิพลของกระแสค่านิยมต่าง ๆ ย่อมโน้มนำให้ใจหวั่นไหว หรือแม้แต่สภาวะอากาศร้อน หนาว ฝน ก็มีส่วนต่อการคิดตัดสินใจ และอาจมีสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกที่ส่งผลกระทบ

    • ทำอย่างไรจึงจะมองเห็นตามสภาพความเป็นจริง เห็นตามที่เป็น เป็นกระจกสะท้อนที่มีคุณภาพ

    แต่ละคนล้วนมีแว่นตาในการมองของตัวเอง ซึ่งบางครั้งอาจทำให้สิ่งที่มองเห็นผิดเพี้ยนไปตามความคิดของตัวเอง เพราะเรามักมีมุมของเราอยู่แล้ว และใช้แว่นของเราตัดสินสิ่งที่เราเห็นว่ามันเป็นสีใด  หากเราสามารถเปิดใจกว้าง ทำใจให้เป็นกลางในการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ จะทำให้เราเห็นความจริง  เมื่อเห็นความจริงแล้ว..จึงค่อยคิดวิเคราะห์เชื่อมโยง หรือแม้แต่ใช้ความรู้สึกกับสิ่งที่เห็น..

    เป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนที่ทำให้สามารถแยกแยะสิ่งที่เป็นจริงตามที่เกิดขึ้น กับสิ่งที่เราคิด  รู้สึก เพื่อความชัดเจนในประเด็น ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยในท่ามกลางสังคมที่สั่งสมความซับซ้อนมายาวนาน เช่นเดียวกับจิตใจของแต่ละคนที่มีความซับซ้อนต่าง ๆ กันไป เมื่อเห็นและเข้าใจตัวเอง ก็ย่อมช่วยให้เห็นและเข้าใจสิ่งอื่น ๆ

    • สรรพสิ่งล้วนเชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว

    หากสามารถเอาตัวเองออกไปในการมอง หมายถึงการยึดเอาตัวเองเป็นตัวตั้ง อยู่แต่ในความคิดของตัวเอง หากละตัวตนของตัวเองไปได้ ย่อมสามารถเชื่อมโยงและมองเห็นความสัมพันธ์ของสรรพสิ่ง ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา เพราะเห็นเราในเขา และเห็นเขาในเรา เห็นความเชื่อมโยงของเขาและเรา จะเข้าใจในความหลากหลาย แตกต่าง ทางความคิด 

    • แลกเปลี่ยนเท่านี้ก็พอนะคะ เดี๋ยวจะยาวเกินไป
    • ขอให้เบิกบานกับวิธีคิดอย่างมีสตินะคะ ..^_^..

     

    สวัสดีครับ

    วิธีคิดมาจากประสบการณ์ด้วยใช่ไหมครับ

    แล้วก็มาจากจิตด้วยอีกนะแหละใช่ไหมครับ

    รวมไปถึงประสบการณ์ด้วย....

    ขอบคุณครับ

    น้อง P  poo

     

    สบายดีไหม  เดินทางบ่อยๆเหนื่อยนะจ๊ะ 

    เราหมู่นี้ไม่ค่อยได้แลกเปลี่ยนกันนะครับ  ขอบคุณมากๆที่นำบทความดีๆมาป้อนให้ประจำ 

    อย่าลืมนำภาพสวยๆมาให้นะจ๊ะ  ยังชอบอยู่นะ

    สวัสดีครับน้องเม้งhttp://gotoknow.org/file/mrschuai/thinking-base3.jpg

    ผังฐานคิดสู่ วิธีคิด  สู่ปฏิบัติการ ดีมากครับ

    วิธีคิด ในความหมายของมัน คือกระบวนระบบคิดที่สามารถนำมาปรับใช้กับปัญหา สถานะการณ์ต่างๆ ที่เป็นระบบแข็งแกร่ง และไม่หลงทิศทาง

    "ที่ว่าวิธีคิดความหมายคือ  นำประสานฐานคิด  หลักคิด แล้วเข้าสู่วิถีแห่งคิด  จัดระเบียบความคิด เข้าสู่กระบวนแก้ปัญหา เช่น ปัญหาหนึ่งๆ เราจะวิเคราะห์ จากไหนสู่ไหน  ที่มา ที่เกิด และผล  และถ้าเราเข้าแก้ผลจะตามมาอย่างไร  (คิดและมองอย่างรอบด้าน โดยประสานฐานคิดและหลักคิดเป็นแกน)"

    โดยที่สามารถชี้นำไปสู่เหตุและผล ของปัญหา สถานะการณ์  ทั้งในอดีตและปัจจุบัน

    วิธีคิดถูกต้องสามารถนำไปแก้ปัญหา สังเคราะห์ปัญหา สถานะการณ์  อย่างเหตุและผล

    อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นสูตรการมองปัญหา แก้ปัญหา

    แล้วที่มาหละ  ผังที่แสดงใช้ได้ครับ แต่ถ้าเราเจาะทีละเรื่องยังมีตัวแปรอีกครับ  เช่น

    ฐานความรู้จากภายนอก

    ฐานประสบการณ์สะสม

    เป็นตัวแปรให้ วิธีคิด เบี่ยงเบนได้ครับ

    ขอบคุณมากครับ  มาแลกเปลี่ยนกันต่อครับ

    สบายดีนะครับ คุณ ดาวลูกไก่ ชื่นชมยินดี

    มีบางคนที่เราพูดอยู่ พูดยังไม่จบ จะสวนขึ้นมาทันที แล้วมันแสดงออกให้คนฟังคนอื่นรู้ว่า ที่คุณพูดออกมามันชัดเจนมากเลยนะคือตัวตนแท้จริงของคุณเอง โอ้ย ยิ่งคิดยิ่งเครียดค่ะ 

    เรื่องนี้คงเป็นอาการของเขา   เราทุกคนหรือบางคนย่อมมีอาการปฏิกิริยาต่างๆ  ซึ่งสั่งสมมายาวนานอาการต่างๆเหล่านี้ปรับเปลี่ยนได้บ้างไม่ได้บ้าง

    ความคิดความรู้สึกของมนุษย์เรา ยังถูกครอบงำและชี้นำโดยธรรมชาติ  สัมผัสทั้ง ห้า  ยังเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อความรู้สึกนึกคิดของคนเรา  สามารถบงการพฤติกรรมของมนุษย์  

    คุณดาว  เคยได้ยินไหมว่า  ไอ้นี่ทำตัวเยี่ยงสัตว์

    ความหมายก็คือ  แสดงอาการโดยไม่ได้ผ่านการคิด ผ่านการไตรตรอง  เปิดเผยตัวโดยไม่ต้องแยแสต่อผลการกระทำของตัวเอง ต่อสายตาผู้ใด ผลเกิดอย่างไรกระทบต่อสิ่งรอบข้างอย่างไร

    มนุษย์คือมนุษย์  ถ้าปรากฏการณ์เป็นเช่นนี้โดยทั่วไปพวกเราคงไม่ต้องได้คุยกันถึงเรื่อง วิธีคิด กัน

    ขอบคุณมากๆครับ  ที่ร่วมมาแลกเปลี่ยนกัน ผมไปเยี่ยมดูนิทานของท่านแล้วครับ  มีอะไรดีๆมาก็บอกกล่าวกันด้วยครับ

     

    อิอิ......ท่าน พี่   หุย

    ขอบคุณมากๆที่มาแลกเปลี่ยนกัน

    แต่ต่อว่าอย่างมาแบบแทบไม่มีร่องรอย  

    ถ้าขาดสติก็คิดได้เท่ากอ้นกรวดแค่นั้นเอง

    นี่คงเป็นคำเปรียบเทียบมากกว่าครับ  มนุษย์ก็ธรรมดาที่มีอารมณ์แต่ผ่านการฝึกตนก็สามารถข่มจิตได้  แต่บางครั้งถูกกดดันมากๆและไม่มีทางออกก็สามารถแสดงอาการเถื่อนออกมาได้เหมือนกันครับ

    ขอคาราวะงามๆครับพี่ หุย

    สวัสดีครับคุณ P  ใบไม้ย้อนแสง

     

    มาแบบยาวเลยครับ ขอบคุณมากๆครับ

    ความคิดเห็นที่ให้มาสมบูรณ์มากครับ ตั้งแต่เริ่มจนกระทั่งใช้ปฏิบัติการทางความคิด

    "วิธีคิด" ของแต่ละคนย่อมถูกหล่อหลอมมาจากการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัวเป็นเบื้องต้น ประสบการณ์ไม่ว่าดีหรือเลวย่อมมีส่วนต่อมุมมองในการคิด สภาพความเป็นไปของสิ่งใกล้ตัวย่อมส่งผลกระทบ ประเพณี วัฒนธรรมของชุมชนย่อมมีส่วนหล่อหลอม อิทธิพลของกระแสค่านิยมต่าง ๆ ย่อมโน้มนำให้ใจหวั่นไหว หรือแม้แต่สภาวะอากาศร้อน หนาว ฝน ก็มีส่วนต่อการคิดตัดสินใจ และอาจมีสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกที่ส่งผลกระทบ

    นี่คือวิธีคิดส่วนหนึ่งที่ผมต้องน้อมนำมาศึกษาเพิ่มเติม ทำให้ลงสู่รูปธรรมมากขึ้น

    • สรรพสิ่งล้วนเชื่อมโยงกันเป็นหนึ่งเดียว

    หากสามารถเอาตัวเองออกไปในการมอง หมายถึงการยึดเอาตัวเองเป็นตัวตั้ง อยู่แต่ในความคิดของตัวเอง หากละตัวตนของตัวเองไปได้ ย่อมสามารถเชื่อมโยงและมองเห็นความสัมพันธ์ของสรรพสิ่ง ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา เพราะเห็นเราในเขา และเห็นเขาในเรา เห็นความเชื่อมโยงของเขาและเรา จะเข้าใจในความหลากหลาย แตกต่าง ทางความคิด 

    สรุปได้ว่าดึงตัวออกจากศูนย์กลางความขัดแย้ง  ลอยตัวในการมองปัญหา

    ขอบคุณคุณใบไม้มากครับ  ที่มาแลกเปลี่ยนกันอย่างรอบด้าน

    การปฏิสัมพันธ์ของสังคม มีความหมายลึกซึ้งและทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวดังที่ท่านว่าไว้ ความสัมพันธ์ซึ่งก่อกำเนิดปฏิกิริยาการสร้างความสมดุล มันเคลื่อนไหวรวมตัวและต่อสู้กันอยู่ตลอดเวลา  สร้างการอยู่ร่วมและรวมกันอย่างหนึ่งเดียว

    แวะมาแลกเปลี่ยนกันนะครับ ยังมีอะไรเสริมอีกมากช่วยหน่อยครับ

    • สวัสดีค่ะ
    • แวะเข้ามาทักทาย เพลงบรรเลงเพราะจังค่ะ เข้ามาแล้วสดชื่นดีค่ะ ไม่เครียด
    • วิธีคิดที่ใช้อยู่ มาจากประสบการณ์ที่พบเจอด้วยตนเอง และจากบุคคลรอบข้าง (ที่หวังดี..พ่อแม่)

    สวัสดีครับคุณ lovefull

    สบายดีนะครับ วันหลังมาเล่าเรื่องสีๆให้ฟังหน่อยนะครับ

    อิอิ..........เสียดสีนะครับ

    ขอบคุณมากครับ คุณ lovefull

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท