อยากรู้ไหม “คุณมีความคิดโน้มเอียงไปในทางใด”  (ไม่ใช่ความคิดทางการเมือง ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลนะคะ) เป็นความคิดระหว่าง   "ความคิดแนวตั้ง VS  ความคิดแนวข้าง"

    ความคิดแนวตั้ง

          ๑.    เลือกสรร  (ทำตามขั้นตอน)

          ๒.    เคลื่อนไหวเมื่อมีทิศทางให้เคลื่อนไหว

          ๓.    เป็นเชิงวิเคราะห์

          ๔.    เคลื่อนไหวไปทีละขั้น

          ๕.    จำเป็นอย่างยิ่งที่จะถูกต้องทุกขั้นตอน

          ๖.    ใช้ข้อห้าม ข้อจำกัด ข้อปฏิเสธ  เป็นตัวตัดทางเลือก

          ๗.   ตัดสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป

          ๘.    ต้องมีการจัดประเภทที่แน่ชัด

          ๙.   เคลื่อนไหวตามเส้นทางที่น่าจะเป็นที่สุด

         ๑๐.     ไม่เป็นกระบวนการที่มีขอบเขตแน่ชัด

                       ความคิดแนวข้าง

                                 ๑.    สร้างสรรค์  (ทำสิ่งแปลกใหม่)

                                 ๒.    เคลื่อนไหวเพื่อสร้างสรรค์ทิศทาง

                                 ๓.    เป็นเชิงกระตุ้น

                                 ๔.    กระโดดข้ามขั้นได้

                                 ๕.    ไม่ต้องคำนึงถึงความถูกต้องทุกขั้นตอน

                                 ๖.    ไม่มีคำว่าข้อห้าม  ข้อจำกัด  ข้อปฏิเสธ

                                 ๗.  ยอมรับได้ทุกสิ่ง

                                  ๘.    ไม่มีความจำเป็นต้องจัดประเภท

                                  ๙.   เคลื่อนไหวตามเส้นทางที่ไม่น่าจะเป็นที่สุด

                                 ๑๐.     เป็นกระบวนการที่มีความหมายเชิงน่าจะเป็น

        และดูซิว่าวันหนึ่งๆ เราชอบใช้ความคิดแบบใดกัน

                 คิดสั้น              →      คิดทำร้ายตนเองเพราะหาทางออกไม่ได้

       คิดเล็กคิดน้อย    →      คิดละเอียดถี่ถ้วนในเรื่องที่ไม่ใช่แก่นแต่เป็นกระพี้

       คิดฟุ้งซ่าน         →      ควบคุมการคิดอันเตลิดเปิดเปิงของตนเองไม่ได้

       คิดคด              →       คิดที่จะทรยศ  หักหลังผู้อื่น

       คิดมาก             →      คิดเกินกว่าเหตุ  รู้สึกสะเทือนใจง่าย

       คิดเรื่อยเปื่อย     →       คิดเรื่องไร้สาระ  ไร้จุดหมายในการคิด

คิดการใหญ่        →       คิดจะทำสิ่งที่ใหญ่ต้องใช้ความพยายามสูง

คิดหน้าคิดหลัง   →        คิดอย่างรอบคอบหลายมุม

คิดเห็น             →        เข้าใจ

คิดอ่าน            →        ตรึกตรอง  หาทางแก้ไข

คิดค้น              →        ตริตรองเพื่อหาความจริง

คิดตก              →         พิจารณาจนเห็นว่าจริง  แล้วสรุปตามสภาพของความคิด
                                         ที่พิจารณาแล้ว

คิดสร้างสรรค์     →        คิดจินตนาการสิ่งใหม่ๆ

          คิดแบบกลุ่มแรก เป็นการคิดที่มาจากสมองส่วนหลัง  ส่งผลต่อจิตวิญญาณในด้านลบ

          คิดแบบกลุ่มหลัง เป็นการคิดที่มาจากสมองส่วนหน้า ส่งผลต่อจิตวิญญาณในด้านบวก

          (ดูเพิ่มเติมได้  ที่นี่ค่ะ)