ประสบการณ์ ICU


I C U ย่อมาจาก Intensive Care Unit (ไม่ใช่ตัวย่อ ว่า I see you) เป็นสถานที่สำหรับคนไข้ที่ต้องการดูแลรักษาพยาบาลอย่างใกล้ชิด และ แน่นอนว่าไม่ค่อยไม่ใครอยากไปอยู่ หรือ ย่างกรายเข้าไปเท่าใด

เมื่อสัปดาห์ก่อน คุณแม่มีอาการช็อค จึงต้องนำส่งรพ.เอกชนแห่งหนึ่งและต้องเข้าห้อง ICU เพื่อรอดูอาการ เนื่องด้วยเป็นรพ.เอกชน จึงมีการจัดห้องแยกเฉพาะผู้ป่วยเป็นรายๆ กั้นกระจกไว้ ญาติสามารถนั่งเฝ้าอาการหน้าห้องได้ตามเวลาที่กำหนด กรณีผู้ป่วยติดเชื้อง่าย ญาติหรือผู้เยี่ยมต้องใส่ชุดกันเชื้อโรค (กันทั้งคนไข้ติดจากภายนอก และกันคนเยี่ยมติดจากคนไข้)  คุณแม่มีอาการติดเชื้อทางเส้นโลหิต พูดง่ายๆ คือเชื้อโรคเข้าไปอยู่ในกระแสเลือด แล้วไปทำลายอวัยวะภายในร่างกาย ทำให้ต้องมีการระดมการรักษาอย่างหนัก คงไม่เล่าว่าทำอย่างไรบ้าง

อยากจะเล่าประสบการณ์ที่น้อยคนจะได้พบเห็น นอกจากจะต้องห่วงคุณแม่ที่ไม่รู้ชะตากรรม ในขณะเดียวกัน เราพบญาติของคนไข้ห้องอื่นๆ ที่รอชะตากรรมเช่นเดียวกับเราอีกหลายๆ คน  คนไข้บางห้องก็จากไปอย่างสงบ ในเวลาอันรวดเร็ว บางห้องยังต้องอยู่กับสายระโยงระยางเต็มไปหมด พร้อมกับการดูแลของญาติสนิทคนใกล้ชิด เข้ามาเป็นระยะๆ บ้างก็สวดมนต์ บ้างก็มาให้กำลังใจ มาหลายๆ วันก็สบตากันจนไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ถ้าเดินสวนกันไปมาบ่อยๆ เข้าก็คุยกันว่าคนไข้เป็นอะไร (มีทางหายหรือรอเวลา) ตอนที่เฝ้าอาการแม่ ก็ได้แต่เข้าไปจับๆ พูดๆ ให้แม่ไม่เหงา (ไม่รู้สึกตัว แต่เราเชื่อว่าแม่ได้ยิน) พอออกมาหน้าห้อง เฝ้ามองแต่หน้าจอการเต้นของหัวใจแม่ ดูความดัน (ถามพยาบาลว่า ตัวเลขหน้าจอหลายๆ บรรทัดบอกอะไรบ้าง เลขมากเลขน้อย แปลว่าอะไร)  บางทีก็เดินผ่านห้องอื่นๆ มองคนไข้รายอื่นๆ มองจอหัวใจคนอื่นๆ ว่าเต้นช้า เต้นเร็วกว่าแม่เราหรือเปล่า

คนเฝ้าเตรียมหนังสือมาอ่าน แต่เราก็อ่านได้แป๊บๆ ทีวี ก็ไม่มีกะใจจะดู ห่วงแต่แม่..... บางทีนั่งมองแต่การเต้นหัวใจแม่จนเครียดไปเหมือนกัน ยิ่งได้ฟังการวินิจฉัยจากหมอแล้วก็ยิ่งทำใจ  เหมือนการรอคอยเวลาเท่านั้นเอง....บรรยากาศไม่ได้หดหู่ น่ากลัวอย่างที่คิด มันสอนเราหลายอย่างด้วยซ้ำไป  คนไข้ไม่ว่าจะเป็นคนไทย คนต่างชาติ คนหนุ่ม วัยทำงาน คนสูงอายุหรือ คนชรา ต่างก็มีเวลาของตนเอง จะเป็นเวลาของการอยู่ หรือ การจาก ไม่มีใครรู้ได้ รอคอย...และรอคอย...บางคนมาเพื่อพักฟื้นหลังผ่าตัด เมื่อฟื้นตัวก็กลับบ้านได้อย่างปกติสุข นี่แหละชีวิต ไม่มีอะไรแน่นอน....

เมื่อคนไข้ห้องที่เราพูดคุยกันจากไป เราได้แต่เพียงโอบกอดและแสดงความเสียใจต่อเขา โดยไม่ต้องพูดอะไรเลย ความรู้สึกว่าเวลาที่เรารอคอยเช่นเขาเหล่านั้นก็คงไม่แตกต่างกัน

สิ่งที่ต้องยกย่องคือ คุณหมอและพยาบาล ที่ทำหน้าที่ของตน และเขาเหล่านี้เห็นเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ ทุกวี่ทุกวัน จึงได้แต่ส่งสายตาเห็นใจ และให้การบริการเท่าที่จะทำได้ ขอขอบคุณจากใจจริง

ขออุทิศบุญกุศลที่ลูกได้ทำแด่คุณแม่ที่รัก ได้จากไปอย่างสงบสุข....
เมื่อวันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2550

คำสำคัญ (Tags): #icu#ห้องไอซียู
หมายเลขบันทึก: 139334เขียนเมื่อ 17 ตุลาคม 2007 11:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 16:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

          เป็นความรู้สึกเดียวกันครับ  ถึงแม้ผมก็ทำงานในวงการสุขภาพ และก็เคยฝึกงานในโรงพยาบาลดูแลผู้ป่วยทั้งคนที่ใกล้จะตาย และตายไปในที่สุด คนใกล้รอดและรอดไปในที่สุด  คนที่อยู่แบบไม่คืบหน้า ทรงตัวเรื่อย ๆ คนที่อยากจะตาย  แต่ไม่ตาย  คนอยากจะรอดแต่ไม่รอด

           แต่มีน้อยคนครับที่พร้อมรับกับการจากไป จากโลกนี้ อย่างเข้มแข็งและมีสติอยู่ตลอดเวลา 

           เพราะเข้าใจว่าการต้องจากหลาย ๆ สิ่งของเรา และของคนที่เรารักไปนั้นมัน ไม่มีความสุขแน่ ๆ

           ประสบการณ์ของคุณหุยคงจะบอกอะไรให้คุณหุยและพี่น้อง ได้เห็นว่า ชีวิตมีมากมายหลายแบบ  แต่เมื่ออยู่ใกล้ความตายเข้าไปแล้ว ชีวิตไม่มีทางเลือกจริง ๆ ครับ

           ยกเว้นว่า.....เราจะพร้อมกับการเดินทางไปของชีวิตและร่างกายที่สุดทาง

          ขอบคุณที่ไปเยี่ยมครับ  ความรู้สึกคุณหุยคงเศร้าไปพักใหญ่ ๆ แสดงความเสียใจด้วยครับ

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท