สนุกสนานกับการนั่งรถรางสายมรณะเป็นที่ หะ-รึ-หัน กันไปเรียบร้อย ก็ถึงเวลาเข้าที่พักเสียที พวกเราออกจากสวนไทรโยค ประมาณ 4 โมงเย็น มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติไทรโยคใหญ่ วันนี้ (4 กรกฏาคม 2552) เป็นคืนแรกที่เราจะนอนค้างที่เมืองกาญจน์ ซึ่งที่พักจะเป็นแพริมน้ำ อยู่ติดแม่น้ำแควใหญ่ ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค จะเป็นงัยน้อ.......ก่อนมาก็วาดฝันไปเรื่อยเปื่อยแหล่ะค่ะ นึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นงัย อิ อิ เพราะไม่เคยนอนแพซักที.....
พวกเรามาถึงป้อมทางเข้าอุทยานฯ ประมาณปิ่มๆ จะห้าโมงเย็น จากนั้นก็ขับรถผ่านไปได้ประมาณ 5 นาที แว้บๆ เห็นมีพวกสะก้อย บิดแมงกะไซต์ซิ่งตามหลังมาติดๆ แล้วก็เรียกให้จอดรถ ใครหว่า...อ้อคุณเจ้าหน้าที่นี่เอง....มีอะไรเหรอคะคุณเจ้าหน้าที่....ซิ่งซะขนาดนี้จะฟ้าวไปใสคะ ....ขอโทษคับคุณยังไม่ได้จ่ายค่าธรรมเนียม โอโน้...เป็นไปได้งัยเนี่ย ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง นึกว่าไม่ต้องจ่ายซะอีก เหอ เหอ เหอ |
วันนี้พวกเรามาถึงที่พักช่วงแดดร่มลมตก บางช่วงก็มีฝนโปรยมาบางๆ พอให้ได้ชื่นใจ นี่ก็เริ่มจะมืดแล้ว เรามีเวลาเก็บภาพไม่มากนัก เพื่อนๆ ก็แยกกันทิ้งสัมภาระเข้าห้องไม่นานก็ออกมาพร้อมหน้า ไม่รอช้าสักวินาทีที่จะเก็บเกี่ยวคืนวันและดื่มด่ำกับบรรยากาศหัวค่ำ ที่แสนจะโรแมนติก...อิ อิ คุณเคยนอนแพบ้างมั๊ย....นี่เป็นครั้งแรกของเราเลย อิ อิ
|
|
ช่วงตีสอง .....ไฟฟ้าจะถูกตัด ดังนั้นมันจะมืดตึดตือ 555 แต่ทางแพจะเตรียมตะเกียงเจ้าพายุไว้ให้...ที่หน้าห้อง 1 อัน จุดไฟไว้ให้พร้อม แต่เอาไปวางในห้องไม่ได้ เพราะควันมันเหม็นจ้า........
ส่วนเราจะมีไฟฉายประจำกายมาด้วย.....เรยไม่ลำบากในการเข้าออกห้องน้ำ หรือจะเดินไปไหนต่อไหน.....
ปลั๊กไฟตัวเมียจะมีเพียงห้องละ 1 เท่านั้น หากใครมีอุปกรณ์เสียบเยอะโปรดหนีบปลั๊กพ่วงไปนำนะคะ ส่วนเราเหอ เหอ เตรียมไปพร้อมอยู่แร้ว....เผื่อเพื่อนๆ จะได้เสียบด้วย โอจิปาถะ ต้องมือถือ กล้อง โน๊ตบุ๊ค ฯลฯ
สภาพห้องโดยรวมจัดว่าดีทีเดียวค่ะ เตียงเป็นแบบยกสูงเกือบถึงเอว มีห้องน้ำในตัว
เตียงใหญ่นอนสบายๆ สองคน ถ้าเตียงยกสูงเราก็อุ่นใจ เพราะเรากลัวสัตว์ประเภทหนึบๆ เหนียวๆ แบบทากหรือปิงอะไรทำนองนี้....ฮือ....(แถมมันยังรู้อีกด้วยว่าใครกลัว มันก็ชอบมาหาคนนั้นแหล่ะ) ตอนดึกๆ ตื่นมาเข้าห้องน้ำเกือบเยี่ยบไปตัว (หอยทาก คล้ายๆ ปิง) เลยเขี่ยออกนอกห้อง ดีที่มีไฟฉาย ไม่งั้นเละแน่ 555
ในห้องจะมีกลิ่นอับชื้นบ้าง เพราะอยู่ที่ชื้นริมน้ำ และเป็นช่วงหน้าฝนด้วย...
ได้เวลานอนแล้วค่ะ คนข้างๆ ดวกหน้าไปก่อนแล้ว รู้ได้จากเสียงกรน ครอก ครอก...แง จาหลับมั๊ยเนี่ยเรา เหอ เหอ
ส่วนห้องข้างๆ ท่าจะ KM กันดึก (พี่แอ้กะพี่ปู) ฟังจากน้ำเสียงกะลังออกรสทีเดียว แต่ดูพี่แอ้เสียงจะแผ่วๆ นะ คล้ายกะลังหมดแรง ส่วนพี่ปูเนี่ย ท่าแรงจะเยอะกว่า เพราะเสียงดังขึ้นๆ เป็นระยะ 555 (เค้าอัดเทปไว้เรียบร้อยแล้วหล่ะตัวเอง)
ส่วนชายน้อยของเรา ถึงคราว ตกระกำ ลำบาก ต้องมานอนกลางดิน กินอยู่ริมน้ำ เหอ เหอ คืนนี้ฝากเอเลี้ยงไว้คืนนึงนะจ้ะ
ส่วนลูกลิงกะยุ กุ๋มกิ๋มและพระอาจารย์แอ้ว หลับปางตาย เง้อ...พวกเนี๊ยะ .....นอนดีฝ่า......พรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้า....
เช้าแล้วคับพี่น้อง....วันนี้ (5 กรกฎาคม 2552) เราตื่นตีห้ากว่าๆ เลยมานั่งเล่นริมน้ำ พร้อมกับเก็บภาพบรรยากาศ ....เพื่อนๆ ยังนอนกันอยู่เรย....
โปรแกรมสำหรับเช้านี้ ทางแพจะเตรียมน้ำชา กาแฟและข้าวต้มให้ตอน 6-7 โมงเช้า กินเสร็จพวกเราจะนั่งเรือหางยาวเที่ยวกันแถวๆ นี้แหล่ะค่ะ น่าสนใจมากเลย
ค่าเรือหางยาวเดิมทีคนเรือเรียก 1,000 บาท ต่อรองราคาเหลือ 400 บาทเท่านั้นค่ะ (มีเสื้อชูชีพให้ทุกคน)
อ้าว...เพื่อนๆ เริ่มตื่นมาเก็บภาพบรรยายกาศกันบ้างแล้ว บางคนก็อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เช่น ชายน้อย น้องเอ แอ๊ว กุ๋มกิ๋ม เจ่ปู ป้าด...สวยเช้ง.... ส่วนตุ๊กกะโต่นของเรากินก่อนค่อยอาบ ไม่รู้เมื่อคืนอาบรึเปล่า...ส่วนยุไม่รู้ว่ามากะเรารึเปล่า ไม่ค่อยได้ยินเสียงเรย...ส่วนลูกลิง ม่ายรู้ไปซนหากล้วยกินอยู่แถวไหน.....กินอาหารเสร็จ และแล้วก็ได้เวลานั่งเรือชมธรรมชาติ....ประทับใจอย่างแรง แบบโดนเลย ลมเย็นสบาย น้ำตกก็เยอะภูเขา ต้นไม้ ครบสูตร เฮ้อ...อยากอยู่ต่อจัง....
เวลาลมพัดหน้าเราแรงๆ ...มันให้ความรู้สึกปลดปล่อย และอิสระยังงัยก็ไม่รู้....(อยากบอกว่าประทับใจ)....
"เห็นรอยยิ้มของทุกคนแล้ว คิดว่าความรู้สึกของเราคงไม่ต่างกัน....มันเป็นความทรงจำที่ดีและมิตรภาพระหว่างเพื่อน" และเราอยากให้มันคงอยู่เช่นนี้ตลอดไป
ยิ่งอ่านก็ยิ่งอยากกลับไปย้อนรอยจริงๆนะคะพี่หน่อย
ลูกทัวร์ขอคอนเฟริม
อื่ม ไปมาแล้ว เหมือนไม่ได้ไปยังงัย ยังงั้น
จางซี่มันต้องถอน....
เค้าก็อยากปาย...ทำทริปต่อกันเรยดีฝ่า ไปไหนดีหล่ะ
เราพร้อมไปต่อแล้ว (เสือยังไม่ได้ซักเลย) ไปหาซื้อเอาข้างหน้าก็ได้ เหอ เหอ
ขอบคุณค่ะ ที่แวะมาเยี่ยมชมกันตลอดเลย
ถ้าตัวเองโดดลงไป เค้าขอเกาะห่วงยางหน่อยนะ อิ อิ (อะล้อเล่นอ่ะค่ะ)
รู้ป่าวที่คุยกันดึกๆหน่ะ เค้ามีการถอดบทเรียนในแต่ละวัน
แล้วคู่สนทนาของเรา(ป้าปูหน่ะ)ท่านเป็นเลขา KM เชียวนะ
เลยต้องทำให้ครบกระบวนการไม่งั้นไม่ผ่าน PMQA หมวด 4 (อ้าว...เกี่ยวกันได้ไงเนี่ย)
อ่านดูก็สนุกสนานมาก
ได้ข่าวว่าจะไปกันใหม่
ถ้าคนนอกไปด้วยพอจะมีที่ว่างไหมครับ ;)
สวัสดีค่ะ คุณธีรเดช ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมนะคะ
จะไปด้วยน่ะ คิดดีแร้วยังคะ
เห็นมั๊ยว่าเค้ามีแต่ผู้หญิงนะ ไม่กลัวเหรอคะ 5555
เกรงว่าถ้าไปด้วย พวกเราอาจทำให้คุณเสียหายได้ (เง้อ)
เผื่อกับมาแล้วต้องพาญาติผู้ใหญ่ไปสู่ขอจะทำงัยเนี่ย...
แต่ยังงัย...น้องอ้อมคนสวยก็ยินดีรับผิดชอบค่ะ ง้า....
หวัดดีตอนเช้าค่ะ พี่แอ้
ตอนนี้หน่อยก็เริ่มปรับกระทัศน์ใหม่ชนิดกระทันหันปัจจุบันทันด่วน
ตั้งแต่ไปกะป้าปูเนี่ยแหล่ะ ทำงัยได้คบนักวิชาการ ศัพท์สูงๆ ทั้งนั้น เหอ เหอ
หวัดดีตอนบ่ายนู๋หน่อย ชอบๆๆ อ่านเเล้หนุกหนาน.... ได้อารมณ์ดี นอกจากจะเก็บภาพสวยๆฝาก แล้วยังเก็บพฤติกรรม อารมณ์ ความรู้สึกอีกนะ จะรออ่านตอน 4 เด้อ
เจ๊ปูของน้องหน่อย
หวัดดีจ้า..พี่หน่อย..
ตามาเยี่ยมทุกบันทึกของเดอะแก๊งค์เลยนะเนี่ย..
ภาพงาม..นางแบบยิ่งงามจ้า..อิอิ...
คิดฮอดหลายเด้อค่ะเด้อ..อยากมีทริปต่อไปเร็วๆจัง..ฮู่
^^
สวัสดีเจ่ปู น้องแอ้ว
จริงๆ ไม่อยากกลับมาทำงานเลย อยากไปต่อ ตอนนี้เครื่องร้อนแล้ว
ทริปต่อไปที่ไหนดี จะหนาวแล้วนะ
รอให้ชายน้อยจัดคงอดไปแน่ สงสัยพวกเราต้องจัดกันเองแร้วม้างงง 555
555 แอบหัวเราะคุณบอยทีหลัง
ที่เพิ่งรู้ว่าแพเค้าเอาตะเกียงมาให้ตอนเช้าที่หน้าห้องแต่ละห้อง
ตี 5 เกือบ 6 โมง ที่แกมาใช้ห้องน้ำหน่ะ จะมะงุมมะงาหลาอย่างไร...
ถ้าเวลาในการเที่ยวไม่เร่งรัดนัก รอบหน้าจะอาสาพาไปชมถ้ำดาวดึงส์ด้วย และกำลังจะทำล่องแพไม้ไผ่หรือเรือคายักที่แม่น้ำน้อย ยังงัยก็เรียนเชิญนะครับ
สวัสดีค่ะ แพกิ่งไผ่อิงธาร ไหนๆ ก็มาแล้ว ขอเก็บค่าโฆษณาเลยได้มั๊ยคะ 555
(อ๊ะเค้าล้อเล่นน๊า) ว่างๆ จะแวะไปเที่ยวอีกค่ะ ประทับใจมากมาย
ถึง ตุ๊กกะโต่น
หน่อยเป็นคนเอาตะเกียงไปแหล่ะ 555 ลืมไปว่าคุณบอยต้องอาบน้ำ
แต่ว่า อาบแบบมืดๆ น่ะดีแล้ว เผื่อตัวเองแอบดู จะได้ไม่เห็นอารายงาย..