วาวแสงแห่งความหวัง


ความสมานฉันท์จะก่อเกิดด้วยกับความสามัคคีร่วมมือร่วมใจกัน

วาวแสงแห่งความหวัง...

 

            อัสลามเก็บข้าวเก็บของภายในห้องหับ มุมแล้วมุมเล่าข้าวของทุกชิ้นตลอดสี่ปีถูกเก็บลงกระเป๋าเป้ใบเดียวที่ติดตัวมาตั้งแต่วันที่ความฝันพลันเป็นจริง แววตาเปล่งประกายฉายแววแห่งความหวังแววตาจับจ้องมองดูภาพถ่ายความอุดมสมบูรณ์ของบ้านที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น กรุ่นไอของความสดชื่นจากแมกไม้นานาพันธุ์ที่รายล้อมพื้นที่รอบบ้าน ภาพถ่ายใบสุดท้ายถูกเก็บลงพร้อมใบปริญญาสาขาพัฒนาสังคมเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง อัสลามแบกเป้สะพายหลังเดินออกจากหอพักคณะอย่างช้าๆกวาดสายตารายรอบมุมต่างๆของตึกคณะด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ ถึงทุกๆฉากทุกๆตอน ที่อาจารย์พร่ำสอน ตราตรึงในห้วงเวลานำพาเลือดแดงสูบฉีดเต็มสองแก้มแทบปริล้นด้วยความภาคภูมิ

            วันนึงฉันจะกลับมา เพื่อคว้าใบปริญญามหาบัณฑิตที่ตึกนี้อีกครั้ง  อัสลามพรึมพรำอยู่ในใจแล้วเดินลับไป กับความฝันอันยิ่งใหญ่ของภาพหมู่บ้านโต๊ะแดง...

           

เพียงก้าวแรกที่ย่ำลงพื้นดินของโต๊ะแดง อัสลามรู้สึกถึงความเงียบเหงา วังเวง  กดทับหนักอึ้งอยู่ทุกอณูบรรยากาศ เพลิงแดดลุกไหม้อยู่เหนือโต๊ะแดง บนยอดต้นไม้สูงใหญ่ป่าพรุโต๊ะแดง และแทบทุกตารางนิ้วในหมู่บ้าน กรุ่นไอกลิ่นอายของความสดชื่นถูกกลืนกิน ราวกับว่าโต๊ะแดงจะแผดแสงแรงกล้านำพาความร้อนลุ่มคล้ายกองไฟที่สุมในดวงใจอย่างไม่มีวันดับ

อัสลามพยายามสูดลมหายใจเข้าหวังจะได้กรุ่นไอของความสดชื่นที่เคยสัมผัส ก่อนเดินทางจากไปร่ำเรียนหนังสือจากหมู่บ้านแห่งนี้ สูดแล้วสูดเล่า แต่กลับเจอเพียงร่องรอยของกรุ่นไอความสดชื่นที่รวยรืนคล้ายลมหายใจเฮือกสุดท้ายจะสิ้น แต่กรุ่นไอที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ยังคงสัมผัสถึงอะไรบางอย่างที่พอมีหวัง พลันสายตาหันไปกระทบแววแสงจากป้ายโครงการหมู่บ้านสีเขียวทางเข้าหมู่บ้านเมื่อสี่ปีก่อน อัสลามจับจ้องมองดูข้อความบนป้าย ที่ตัวอักษรระยิบระยับขับเคลื่อนตามแสงกระทบสายตาของอัสลาม ซึ่งมีใจความว่า... พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ  ฉันจะเป็นป่า  ป่าที่ถวายความจงรักภักดี พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ  ฉันจะสร้างป่า 

ลมเย็นๆพัดมาวูบสั้นๆ แล้วอัสลามก็เห็นความเคลื่อนไหวบางอย่าง

พวกชาวบ้านนั่นเองกำลังจับกลุ่มคุยกัน ใต้ถุนบ้านผู้ใหญ่ริมถนนซิเมนต์สายเดียวทางเข้าหมู่บ้านโต๊ะแดง บ้างก็ยืนพิงเสาใต้ถุนบ้าน บ้างก็นั่งบนแคร่ไม้ไผ่ แต่ทำไมสายตาท่าทางของแต่ละคนถึงได้ดูคล้ายราวกับว่าเคียดแค้นแสนจะกลืนกินช้างได้ทั้งตัว อัสลามนึกฉงนปนความสงสัยคับข้องใจ ตรงหรี่เข้าไป อัสลามมูอาลัยกุ้ม ทุกคน

วาอาลัยกุ้มมุสลามฯ (ผู้ใหญ่ขานรับเสียงทักทายของอัสลาม) ทุกคนหันหันหน้าพร้อมกัน ตามต้นเสียงทักทายที่ผู้ใหญ่ตอบรับ อ้าว! อัสลามเอ็งกลับมาเมื่อไหร่ (ลุงแดงเอ่ยทัก) ผมกลับมาถึงเมื่อกี้เองลุง ว่าแต่ว่ากำลังคุยอะไรกันอยู่หรือครับท่าทางจะสนุกดุเดือดกันน่าดู อ๋อ! คือว่า...

เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วมีชาวบ้านออกไปกรีดยางตอนประมาณใกล้รุ่งใกล้ๆป่าพรุโต๊ะแดงทางฝั่งตะวันออกโน่นอ่ะ แล้วชาวบ้านก็เห็นมีผู้คนจำนวนหนึ่งทั้งชุดแดงชุดเหลืองพยายามตัดไม้ในป่าพรุ กันอย่างขมักเขม้น โดยมีคนยืนคุมพวกคนเหล่านั้นใส่ชุดสีกากี รูปร่างคล้ายๆคนมีสีที่เข้ามาให้ความรู้เรื่อง การฟื้นฟูผืนป่า เมื่อหลายวันก่อน ชาวบ้านเห็นแล้วไม่สบายใจ เกรงว่าหากปล่อยไว้อย่างนี้วันนึงเราจะไม่มีแหล่งเรียนรู้ แหล่งทำมาหากินให้ลูกหลาน เมื่อคนรุ่นนึงสูญสิ้นไป ทำไมลุงถึงใช้คำว่า สูญสิ้น หล่ะครับลุง (อัสลามร้องถามด้วยความสงสัย) เหมือนมีใครเป็นอะไร แกเข้าใจถูกแล้วอัสลาม เอ็งลองถามผู้ใหญ่ดูแล้วกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อัสลามหันหน้าไปทางผู้ใหญ่ ร้องถามว่า ว่าไงครับผู้ใหญ่  ผู้ใหญ่ทำหน้าสลดคล้ายคนหมดหวัง คือมันยังงี้อัสลาม..

หลังจากที่ชาวบ้านพบเห็นพวกคนดังกล่าวดั่งที่ลุงแดงแกบอก ก็เอาเรื่องมาบอกข้า ข้าก็เลยเรียกชาวบ้านในระแวกหมู่บ้านโต๊ะแดงของเรามาประชุมกันว่าจะเอายังไง สุดท้ายได้ข้อสรุปว่า เราจะตั้งเวรยามเฝ้าระวังป่าพรุโต๊ะแดงทุกค่ำคืน แต่รำพังการเฝ้าระวังเพียงฝั่งทิศตะวันออกของป่าพรุโต๊ะแดงเพียงฝั่งเดียวเราคงรักษาป่าไว้ไม่ได้ จึงได้ขอความช่วยเหลือจากลุงแดง ให้เกณฑ์กำลังพลคนจากชุมชนของลุงเขาซึ่งอยู่ฝั่งทิศตะวันตกของป่ามาช่วยดูแลด้วย ก็ได้รับความร่วมมือจากชุมชนของลุงแดงเป็นอย่างดี แต่เรื่องบัดสีก็เกิดขึ้นในหมู่บ้านโต๊ะแดงของเรา เพราะมีคนในหมู่บ้านของเราเอาแผนที่เราระดมความคิดกันไปบอกพวกคนเหล่านั้น ทำให้เมื่อ ๒ วันที่แล้ว ฟาฮัด กับ  น้าหวัง ถูกลอบยิงเสียชีวิตขณะเดินราดตระเวณตรวจตรารักษาป่าพรุโต๊ะแดงทั้งสองฝั่ง จนทำให้ชาวบ้านไม่กล้าออกไปกรีดยาง และนับวันป่าพรุโต๊ะแดงของเราก็ถูกทำลาย ด้วยการเผาป่า แผ้วถาง ตัดเอาไม้สำคัญๆที่บรรพบุรุษเฝ้าทะนุถนอม ปกปักรักษาไว้ให้ลูกหลานได้เชยชม แต่วันนี้กลับเหลือเพียงความตรอมตรมภายในจิตใจของพวกเรา รักษามันไม่ได้ ก็ยังปกป้องมันไม่ได้อีก ข้าหล่ะอายใจตัวเองจริงๆ เพราะเมื่อครั้งนึงในวัยเด็กปู่ข้าเคยเล่าให้ฟังว่า

 มิใช่เพียงแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นที่ทรงให้ความสำคัญกับผืนป่า โดยเฉพาะป่าพรุโต๊ะแดงของเรา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ก็ทรงห่วงใยและใหัความสำคัญมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า  ดังจะเห็นได้จากพระราชเสาวนีย์เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่พระราชทานไว้ความว่า  พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ  ฉันจะเป็นป่า  ป่าที่ถวายความจงรักภักดี พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ  ฉันจะสร้างป่า  แกก็เห็นแล้วมิใช่หรือข้อความตรงทางเข้าหมู่บ้านเราอ่ะ พระองค์ทรงเน้นความสำคัญของป่าไม้อันเป็นทรัพยากรของชาติในความหมายของป่า...พระองค์มิได้มุ่งเน้นเฉพาะประชากรไม้ที่มีลักษณะสูงใหญ่เท่านั้น แม้เพียงต้นหญ้าหรือต้นไม้เล็กๆ เมื่อทรงเห็นว่ามีคุณค่าก็จะรับสั่งให้อนุรักษ์ไว้ ทรงมีพระวิริยะอุตสาหะ และปฏิบัติพระราชกรณียกิจ  เพื่อให้เป็นแบบอย่างแก่คนไทยทุกคนได้ตระหนักถึงหน้าที่ที่ทุกคนต้องร่วมกันปกป้องรักษาทรัพยากรธรรมชาติ  ซึ่งเปรียบเสมือนลมหายใจในการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต ทุกชีวิตบนโลกให้ยั่งยืน ทั้ง คิดสร้าง  คิดรักษา  คิดใช้ประโยชน์ให้ถูกต้อง แต่วันนี้เรากลับปกปักรักษาอะไรไม่ได้เลย มันน่าอายไหม๊หล่ะ ข้าคิดจะลาออกจากการเป็นผู้ใหญ่เพราะข้าละอายแก่ใจตัวเองที่ไม่สามารถช่วยอะไรลูกบ้านของข้าได้เลย และที่สำคัญแหล่งทำมาหากินของพวกเขาก็กำลังถูกทำลายลงเรื่อยๆ แล้วต่อไปพวกเขาจะเป็นอยู่ยังไง จะต้องออดมื้อกินมื้ออย่างงั้นหรือ ข้าทนไม่ได้หรอกที่จะเห็นลูกบ้านเป็นอย่างนี้ น้ำตาผู้ใหญ่ค่อยไหลรินอาบรดสองแก้ม (ผู้ใหญ่ก้มหน้าปาดน้ำตาแห่งความเจ็บปวดที่กำลังไหลริน)

ไม่หรอกผู้ใหญ่! ทุกคนจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น ผู้ใหญ่คิดหรือว่า ทว่าผู้ใหญ่ลาออกแล้วผู้ใหญ่จะมีความสุข ความทุกข์ของชาวบ้านภายในจิตใจจะหายไป ป่าพรุโต๊ะแดงจะไม่ถูกทำลาย ความตายจะไม่มาเยือน ลองคิดซิ! ใช่ๆ! ลุงแดงร้องขึ้น อัสลามมันพูดถูก อย่างน้อยเราก็ยังคงมีความสมานฉันท์หลงเหลืออยู่บนพื้นที่แห่งนี้ แม้จะมีหนอนบ่อนไส้ก็ไม่เห็นเป็นไร ยังไงความสมานฉันท์ของเราจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้าง เราลองมาหาวิธีกันใหม่ดีกว่าว่าจะทำยังไง

 เห็นไหม๊ผู้ใหญ่! ลุงแดงแกเป็นคนส่วนน้อยในหมู่บ้านเราก็จริง แต่สิ่งที่อยู่ในหัวของแกกลับไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะคำว่า สมานฉันท์ นี่ไงจะช่วยปกปักรักษาผืนป่า ป่าพรุโต๊ะแดงของเราไว้ และผมมองว่าถึงแม้มันอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด แต่มันก็เป็นทางออกหนึ่งในตอนนี้ที่เราสามารถทำมันได้ และน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแห่งการเริ่มต้น ณ วันนี้ (อัสลามเสริมขึ้น)

แล้วแกมีความคิดยังไงบ้างหล่ะอัสลาม (ผู้ใหญ่เงยหน้าเอ่ยถามด้วยแววแสงศรัทธาแห่งความหวัง) ไหนลองเสนอมา จะดีหรือครับผู้ใหญ่! ข้าก็เห็นจะมีแต่แก ณ ตอนนี้ที่จะเป็นทางออกของหมู่บ้านเพราะข้าเชื่อว่า เวลาสี่ปีที่แกไปร่ำเรียนมาคงนำพาวิชาที่จะมาปราบพวกอวิชาทั้งหลายแหล่ได้บ้าง โฮ! เอาอย่างนั้นเลยหรือ ผมจบแค่เกียรตินิยมอันดับหนึ่งเองนะผู้ใหญ่ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง! ชาวบ้านที่นั่งรอคอยความหวังอยู่ใต้ถุนบ้านอุทานพร้อมกัน พลันมองเห็นแสงสว่างอยู่ตรงหน้า ข้าว่าอย่าช้าอยู่เลยแกมีอะไรในหัวของแก แกบอกพวกเรามาเถอะ ข้าเชื่อว่าทุกคนยินดีที่จะรับฟังความคิดดีๆเด็กดีมีปริญญาของแกอัสลาม (ผู้ใหญ่พูดขึ้น) ได้ครับผู้ใหญ่!(อัสลามขานรับ)

ผมก็มีแต่หนังสือเล่มนี้ครับที่ผมคิดว่าพอจะเป็นเครื่องมือต่อกรกับพวกทำลายป่าได้ และคิดว่าน่าจะเป็นทางแก้ที่ยั่งยืนด้วยครับ หนังสืออะไร! (ลุงแดงเอ่ยถาม) พลิกฟื้นผืนป่าด้วยพระบารมี ครับลุง ถ้าทุกคนทำได้อย่างในหนังสือเล่มนี้ ไม่ใช่จะเพียงการปกปักรักษาป่าพรุโต๊ะแดงของเราเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญจะเป็นการพลิกฟื้นป่าพรุโต๊ะแดงของเรา ให้คนโง่เขลาพวกนั้นที่คิดทำลายป่า ไม่กล้ามาทำอะไรกับป่าพรุของเราอีก โฮ่!ยังงั้นเลยหรือ มันว่ายังไงบ้างหล่ะในหนังสือเล่มนี้ของแกอัสลาม (ชาวบ้านคนนึงเอ่ยถามขึ้น) มันยังงี้ครับ... เราต้องนำสามแนวทางที่มีอยู่ในหนังสือเล่มนี้มาแปรเปลี่ยนเป็นภาคปฏิบัติที่เขียนเป็นทฤษฎีให้ได้ ด้วยการอนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อม    ฟื้นฟูสภาพป่าและการปลูกป่า   พัฒนาเพื่อให้ชุมชนอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน หากพวกเราทำได้เพียงเท่านี้วิถีชีวิตแบบเดิมๆของชาวบ้านทุกคนในพื้นที่ก็จะค่อยกลับคืนมา แม้มันอาจจะอยู่ภายใต้ห้วงเวลาที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่เราจะไปต้องกลัว เพราะอย่าลืมว่าความสมานฉันท์ของคนในพื้นที่จะช่วยรังสรรค์สิ่งดีๆให้กลับคืนมา มิใช่แค่ผืนป่า พวกมันตัด พวกเรารักษา พวกมันทำลาย พวกเราฟื้นฟู สู้กับมันด้วยการพัฒนาชุมชนของเราอยู่ร่วมกับป่าอย่างกลมกลืนเสมือนกับป่าคือครอบครัวหนึ่งของชุมชนเรา เมื่อชุมชนของเราเข้มแข็งทุกชุมชน ผู้คนสมานฉันท์กัน แล้ววันนั้นพวกเสื้อเหลือง เสื้อแดง หรือพวกเสื้อสีกากีก็จะไม่กล้าเข้ามารุกรานหมู่บ้านของเรา โดยเฉพาะป่าพรุโต๊ะแดงแห่งนี้...  พลันอัสลามพูดจบ ก็พลันไปเห็นหลังไวไวของชายชุดดำหลังกำแพงบ้านผู้ใหญ่ เอ๊ะ!นั่นใครอ่ะ (อัสลามเอ่ยขึ้นพลางชี้ไปหลังกำแพงบ้านผู้ใหญ่)

ชาวบ้านวิ่งไล่กรวดไปแต่ไม่ทัน พลันแต่เห็นชายชุดดำคล้ายกับวิ่งหางจุกตูดลับไปทางเข้าหมู่บ้านโต๊ะแดง ทุกคนเดินกลับมายังบ้านผู้ใหญ่ บ้างก็กอดคอกันเดินมาด้วยรอยยิ้ม บ้างก็วิ่งกลับมาด้วยความดีใจ พร้อมการยืนรอคยการกลับมาของชาวบ้านและอัสลามของผู้ใหญ่และลุงแดงด้วยใบหน้าขาวแดงอมชมพู

หวังว่าต่อจากนี้ป่าพรุโต๊ะแดงของเรา หมู่บ้านโต๊ะแดงของเราจะกลับฟื้นคืนชีวิตของทุกสรรพสิ่งอีกครั้ง (ผู้ใหญ่เอ่ยขึ้น) ข้าก็หวังเช่นั้น (ลุงแดงเสริมขึ้น) โดยมีอัสลามยืนยิ้มอยู่ข้างๆ

 

อาทิตย์เลือนแสงลง ทิวทัศน์สองข้างทางเริ่มสลัวราง ฟ้าฝนหลั่งรินรดชุ่มผืนป่า แมกไม้นานาชูช่อแตกกอ อากาศเย็นสบายขึ้น แสงแดดที่เคยรู้สึกแผดเผา กลับเหลือเพียงร่มเงาความร่มเย็น ฝูงนกริมขอบฟ้า ถลาลมบินกลับรังยังป่าพรุโต๊ะแดง ส่งเสียงแซ่ซ้องร้องรื่นคลื่นเพลงบรรเลงแว่วเสียงแห่งความหวัง... (อัสลามถ่ายภาพเก็บไว้ตราตรึงในหัวใจ ราวกลับว่า เหมือนเวลาที่ผ่านมาป่าพรุโต๊ะแดงไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น และแปรเปลี่ยนเลย)

            ใช่แล้ว! ฟ้าหลังฝนย่อมมีรุ้งสีสดงดงามฉายแสงวาวแววอยู่ไกลๆ...

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 246769เขียนเมื่อ 6 มีนาคม 2009 20:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:24 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

วันนี้โขคดีค่ะที่ได้อ่านบันทึกนี้

วันอาทิตย์นี้ขออนุญาตนำข้อคิดไปใช้งานวันอาทิตย์นี้นะคะ

"อนุรักษ์ป่าและสิ่งแวดล้อม    ฟื้นฟูสภาพป่าและการปลูกป่า   พัฒนาเพื่อให้ชุมชนอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน"

จะร่วมกันตีโจทย์ให้กระจาย

ร่วมกันวิเคราะห์แนวทางการอยู่กับผืนป่าชายเลน ฟื้นฟูสภาพป่าและการปลูกป่า

ใครตัดเราปลูก ใครขุดเราเติม

ขอบคุณค่ะ

 

ยินดีหรือครับ

1. krutoi

พอดีเขียนไว้นานแล้วแต่เก็บไว้เลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเป็นประโยชน์สักเท่าไหร่หากเก็บไว้ครับ ดีใจมากครับที่อาจารย์เห็นคุณค่าครับ ยินดีให้ใช้เพื่อการเสริมสร้างสิ่งดีๆครับ

...วาวแสงแห่งความหวังพร้อมพลังแห่งศรัทธา...

...ช่วยฟื้นคืนฝืนป่าด้วยคุณค่า "สมานฉันท์"...

อ่านแล้วคิดถึงบ้านเกิดของตัวเองค่ะ จำได่ว่าตอนเด็กๆเลยเข้าป่าลึก เพื่อหาน้ำผึ้งและดักนกอาบน้ำที่ลำธารกับคุณพ่อ ปัจจุบันไม่มีป่าให้ผึ้งอยู่ ไม่มีลำธารให้นกอาบ ไม่มีที่พจนภัยที่เหมือนที่นั้นอีกแล้ว

ทำไม พึ่งนำเสนองานชิ้นนี้ละค่ะ เป็นงานทีดีมากๆเลยค่ะ อันนี้ดีจริง

(ยะหา)

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านบันทึกค่ะ

ได้ความรู้สึกที่ดีๆ

ขอบคุณ

คุณไม่แสดงตน

ความจริงอยากนำเสนอเรื่องนี้นานแล้วครับแต่ยุ่งๆเลยลืมไปครับ

ขอบคุณฐาปนี

คุณฐาปนี ปุยสุวรรณ

และ

คุณ mena

สำหรับการแวะเข้ามาเรียนรู้ครับ

อ่านแล้วรู้สึกดีจัง...

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับคุณ

P 9. เด่น

ดีใจครับที่ทำให้ใครหลายคนยิ้มได้ครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท