มัทนา
มัทนา (พฤกษาพงษ์) เกษตระทัต

แนะนำภาพยนตร์สารคดี Promises | คำสัญญา


“We hate some persons because we do not know them, and we will not know them because we hate them.” ---------- Charles Colton
  • เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ผู้เขียนนั่งรถเมล์กำลังจะไปหาอ.โจแอน อ.ที่ปรึกษา (thesis committee member) ที่บ้าน บนรถเมล์คันนั้นมีเด็กประถมปลายกลุ่มใหญ่ ...
  • กำลังจะไปทัศนาศึกษากัน นร.ที่นั่งสองแถวหลังมี 6 คนนั่งเล่นหยอกล้อ หัวเราะกันสนุกสนาน อ.พี่เลี้ยงก็นั่งอยู่ใกล้ๆ
  • ภาพที่เห็นทำให้ผู้เขียนประทับใจมากๆเพราะ เด็ก 6 คนนั้น เป็นแขกอินเดีย 1 คนเอเชียตะวันออก 1 แขกตะวันออกกลาง 1 คนขาวผมทอง 1 คนขาวผมแดงอีก 1 แล้วก็เป็นเด็กฝรั่งที่เป็นดาวน์ซินโดรมอีก 1
  • ผู้เขียนเล่าให้อ.โจแอนฟัง อ.บอกว่านี่แหละเสน่ห์ของแวนคูเวอร์ โจแอนพูดต่อว่า ขอให้เด็กพวกนี้ได้เข้าใจในมิตรภาพแบบนี้อย่างลึกซึ้งก่อนที่จะโดนผู้ใหญ่ โดนสื่อในทีวี กรอกความคิดจับพวกเค้าแยกกันเหลือเกิน โลกนี้มันมีความจริงที่ช่างโหดร้ายอยู่ โจแอนพูดเศร้าๆ แต่แล้วก็ยิ้มแล้วก็พูดทีเล่นที่จริงว่า ครูอยากให้พวกนี้แต่งงานปนกันไปให้หมดเลย! ให้มันเป็นญาติกันให้หมด จะได้เลิกไอ้เส้นแบ่งบ้าๆบอๆเหล่านั้นซักที
  • ผู้เขียนยิ้มเห็นด้วย แต่เราสองคนรู้ดีว่า ความหวังของเราคงเป็นไปได้ในบางส่วนของโลกนี้เท่านั้น
  • ผู้เขียนกลับมาบ้าน มาเปิดหนังสือเล่มนึงดู เพราะจำได้ว่าเคยอ่านเจอว่า...
  • "There is one race..the human race...There is no gene for race"  - Nancy Burson
  • ชาติเดียวที่แบ่งแยกทางพันธุกรรมได้คือ มนุษยชาติ ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหนๆ ก็ยีนเดียวกันหมด!

ภาพยนตร์สารคดีที่จะมาแนะนำวันนี้ก็ตรงตาม theme นี่เลยค่ะ ชื่อเรื่อง Promises

http://www.promisesproject.org/poster.jpg%20copy

[ภาพจาก promisesproject.org]

คนทำหนังสารคดีเรื่องนี้ชื่อ B.Z. Goldberg เป็นคนอเมริกันที่มีบรรพบุรุษมาจากอิสราเอล

B.Z. เดินทางไปทั้งเมืองด้านที่เป็นยิวและปาเลสไตน์ พยายามพาเด็ก 7 คนจากครอบครัวหลายๆแบบทั้งเคร่งศาสนาทั้งไม่เคร่ง ทั้งยิว ทั้งอิสลามให้มาเล่นกันเป็นเพื่อนกันให้ได้ เพราะหวังว่าเด็กรุ่นใหม่จะเป็นความหวังทำให้อนาคตดีขึ้น ให้ความขัดแย้งลดลง

ในหนังเราจะได้เรียนรู้ว่าเด็กทั้ง 7 คนนี้โตมาในสิ่งแวดล้อมที่ต่างหรือเหมือนกันแค่ไหน

เราจะได้เรียนรู้ว่าเค้าถูกสอน หรือ ถูกกล่อม หรือ ถูกบีบบังคับให้เป็นในสิ่งที่เค้าเป็นให้คิดในสิ่งที่เค้าคิดมากน้อยแค่ไหน

ได้เห็นความเป็นเด็ก และ ความไม่เป็นเด็กในเวลาเดียวกัน เค้าตามถ่ายเด็ก 7 คนนี้อยู่ 4 ปี ตั้งแต่เด็กอายุ 9 ขวบจนอายุ 12


The Children

  • Yarko & Daniel. Secular Israeli twin boys living in Jerusalem.

  • Faraj. A Palestinian refugee boy living in the Deheishe Refugee Camp in the West Bank.

  • Sanabel. A Palestinian refugee girl in the Deheishe Refugee Camp in the West Bank.

  • Shlomo. An ultra-orthodox Jewish boy in the Jewish Quarter of the Old City of Jerusalem.

  • Mahmoud. A Palestinian boy living in East Jerusalem.

  • Moishe & sister Raheli live in the Beit El Settlement in the West Bank

 


http://www.documentaryfilms.net/wp-content/uploads/2007/06/promises2.jpg http://www.documentaryfilms.net/wp-content/uploads/2007/06/promises3.jpg

[ภาพจาก documentaryfilms.net]

  • เด็กเหล่านี่เป็นเพื่อนกันได้จริงๆค่ะ แต่มาตามดูกันต่อไปว่าใน 4 ปีนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง
  • รับรองได้ว่าเป็นสารคดีที่จะทำให้คุณเข้าใจเหตุการณ์ความซับซ้อนในพื้นที่ส่วนนั้นของโลกได้มากขึ้น ส่วนจะทำให้เศร้าหรือมีความหวังก็ต้องดูเองค่ะ! : )
  • ชมหนังตัวอย่างได้ที่นี่ค่ะ

 

ปล. บันทึกนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากอนุทินคุณซูซานเรื่องอิสราเอลค่ะ

หมายเลขบันทึก: 188119เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2008 00:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 00:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

สวัสดีค่ะคุณหมอ

เมื่อกี้เพิ่งเข้าไปตามลิงค์เรื่อง Promises ที่คุณหมอมัทให้ไว้ในอนุทินค่ะ อยากทราบรายละเอียดของเรื่องนี้พอดี เลยรีบเข้ามาอ่าน อีกอย่างเห็นชื่อเรื่องใช้คำที่น่าสนใจเลยติดใจ และเป็นคนนึงที่นับถืออิสลามเลยยิ่งอยากดูมากขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าที่เมืองไทยจะมีหรือไม่ค่ะ

ขอบคุณนะคะที่แนะนำ

เรย์

สวัสดีค่ะน้องหมอมัท

พี่ชอบภาพท้ายรถเมล์ที่น้องบรรยายมากเลยค่ะ เห็นความสุขของเด็กๆ ล่องลอยอยู่จริงๆ

ถ้าจำไม่ผิดที่เมืองไทยก็มีโครงการเอาเด็กมุสลิมทางใต้ มาอยู่กับครอบครัวมุสลิมในเมือง แล้วก็มี documentary สั้นๆ ที่เอาเด็กสองครอบครัวเช่น เด็กในเมืองมาอยู่สลับกับเด็กอีสาน หรือ เด็กพุทธมาอยู่กับซิกซ์ อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ แต่เป็นการอยู่ระยะสั้นๆ เช่น สัปดาห์ สองสัปดาห์ (เด็กอยู่ด้วยกันนะคะ คนหนึ่งเป็น host อีกคนเป็น guest) เรียนรู้ร่วมกัน น่ารักมากค่ะ เด็กๆ เขาเข้ากันได้ดีเสมอแหละค่ะ

แต่สารคดีที่น้องพูดถึงนี้มีการ follow up ด้วย น่าสนใจมากค่ะ

เดี๋ยวจะลองไปหามาดูบ้าง จะบอกว่าเส้นเขตแดนที่เราเห็นน่ะมีเฉพาะบนแผนที่ บนพื้นดินจริงๆ ไม่มีหรอก เส้นสมมุติขึ้นทั้งนั้น สร้างขึ้นเพื่อแบ่งแย่งคนบนโลกนี้ให้เกลียดชังกัน ไม่ต้องดูไปไกลถึงตะวันออกกลางหรอก แค่กับเพื่อนบ้านเราก็พอแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมต้องสอนให้สั่งสมความเกลียดชังกัน การแบ่งแยกมันสร้างขึ้นด้วยผู้ใหญ่ทั้งนั้น

เคยเห็นเด็กยากจนเล่นกับเด็กรวย เห็นกับตา เล่นกันหนุกหนานอยู่ตั้งนาน พอพ่อแม่มาเห็นรีบพาลูกตัวเองแยกไปทันที ให้ไปเล่นกับเด็กอีกกลุ่มที่ดูฐานะเท่าเทียมกัน ไม่รู้ว่ากลัวมีเชื้ออะไรติดหรือไง นี่ก็เป็นตัวอย่างของความรังเกียจ แต่ไม่ใช่ทางเชื้อชาติหรือศาสนา อันนี้เป็นการรังเกียจที่ฐานะ คนเรามันกินการแบ่งแยกเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็นหรือไง ถึงได้เป็นกันขนาดนี้ เซ็งเป็ด

เลิกเซ็งเป็ดเพราะนึกได้เรื่องนึง บันทึกนี้ทำให้คนนับถืออิสลาม พุทธและคริสต์มาคอมเม้นท์ต่อกันได้อย่างเหลือเชื่อ แปลกแต่จริง เสียดายน้องหมอมัทเจ้าของบันทึกคงไม่ได้นับถือซิกส์ พราหมณ์ หรือยูดาห์ ไม่งั้นก็ได้อีกหนึ่งศาสนา 555

น่าสนใจมากเลยนะคะ

และเป็นสารคดีที่ยาวนาน ตามถ่ายทำ

คงมีภาพสวยๆ และแง่มุมดีๆ

  • มาชมสารคดี Promises  ครับ
  • ว่าแต่ Promises เรื่องอะไรครับ
  • แล้วมีคนผิดคำสัญญาหรือเปล่าครับ :)

คุณเรย์ พี่ตุ๋ย พี่ซูซาน

มุสลิม พุทธ คริสต์ เจ๋งจริงๆ : )

งั้นมัทเป็น pantheist ให้ เจษฏฺนั่งอยู่ตรงนี่ก็เป็นคาทอลิก

ที่เมืองไทยคงพอหาดูได้ แต่คงไม่ถูกกฎหมายค่ะ ถ้าอยู่เมืองนอกแนะนำให้ไปร้านอินดี้แล้วก็เช่ามาดูหรือพวก netflix น่าจะมีค่ะ มัทก็เช่ามาดูก่อน แล้วชอบมากเลยซื้อเก็บไว้เลยใครรอได้จะให้ยืมตอนกลับไปเมืองไทยค่ะ

ปัญหาทางใต้ของบ้านเราก็ซับซ้อน แต่คงไม่มากไปกว่าปัญหาทางปาเลสไตน์ มัทอยากให้ผู้ที่สนใจลองหามาดู หรือหาอ่านบทความที่เกี่ยวกับหนังสารคดีเรื่องนี้ทาง internet ก็ยังดีค่ะ ขนาดอ่านยังอยากร้องไห้เลย

 

ดีใจมากเลยค่ะที่พี่หน่อยแวะมา : )

มัทเพิ่มหนังตัวอย่างไว้ในบันทึกแล้ว ลองดูไปพลางๆก่อนนะคะ

มัทดูแค่นี้ก็น้ำตาจะไหลแล้ว เพราะคิดต่อไปถึงตัวหนังภาคเต็ม

คุณกวิน: ตอบให้ไม่ได้ค่ะ : ) ต้องดูเอง

คุณเรย์ พี่ตุ๋ย พี่ซูซาน มุสลิม พุทธ คริสต์ เจ๋งจริงๆ : )

งั้นมัทเป็น pantheist ให้ เจษฏฺนั่งอยู่ตรงนี่ก็เป็นคาทอลิก

-----------------------------------------

เดี๋ยวลูกชายซึ่งบอกกับใคร ๆ ว่าเป็นคนที่ยังไม่ตัดสินใจนับถือศาสนาอะไร (ขอศึกษาก่อน)กลับบ้าน จะเปิดบันทึกนี้ให้เขาอ่านดู

(น้องภูสวดมนต์กลางคืนแบบพุทธ สวดมนต์เจ้าแม่กวนอิมด้วย..ตามแม่,สวดขอบคุณพระเจ้ากลางวันเมื่อประถมหนึ่ง,สอง,สามเพราะเรียนโรงเรียนคริสต์ ไปโบสถ์บ้างประปรายเพื่อไปเล่นกับเพื่อนสนิทที่เป็นคริสต์ และเคยไต่ถามแม่เรื่องพระอัลหล่า เพราะอ่านหนังสือพบ )

ศาสนา ลัทธิ เชื้อชาติ ทุกอย่าง..ในโลกนี้น่าจะมีทางหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในเรื่อง"ความดีงาม"นะคะ

 

พี่หมอเล็กคะ: มัทกับเจษฎ์ก็เคยคุยกันไว้ว่าถ้ามีลูกจะให้ลูก baptize ตามพิธีคาทอลิกเพราะย่าของหลานจะมีความสุข พระเจ้าแบบไบเบิ้ลแปลตรงตัวนั้นมีจริงรึเปล่าเราไม่รู้ แต่เรารู้ว่าย่าของหลานมีจริงแน่ๆ hahahahaha ตอนที่แต่งงานพิธีคริสต์ยุ่งยากมากแต่เราก็คิดกันแบบนี้ค่ะ : ) มัทกับเจษฎ์ก็จะสอนหลักธรรมลูกด้วย ให้เข้าทั้งโบสถ์ทั้งวัด คริสต์ที่เข้าใจโลกแบบพุทธก็มีมากค่ะ พุทธที่เข้าใจถึงสิ่งที่ใหญ่กว่าเราก็มีมาก

ถ้ามีคนถามมัทเรื่องนี้แบบจริงจัง มัทจะบอกว่ามัทเป็น pantheist ที่ศึกษาพุทธรมและฝึกเจริญสติเพราะมัน "make sense" มันตอบข้อสงสัยที่มัทมีอยู่ได้ชัดเจนที่สุด มัทก็คิดว่าการเชื่อในพระเจ้าแบบที่ไม่ใช่แค่รูปชายแก่ๆมีอำนาจมองเราอยู่จากบนฟ้าแต่เป็นพลังอันยิ่งใหญ่บางอย่าง การเชื่อใน God ที่ไม่ใช่ god หรือ เทวดา นั้นมีประโยชน์มากเช่นกัน ทำให้เรารู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่มากๆที่เชื่อมสรรพสิ่งทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทำให้เรารู้สึกว่าเราตัวเล็ก (คล้ายๆกับการที่คนที่เดินอยู่กลางป่ากลางภูเขาที่อลังการใกล้ชิดธรรมชาติมากๆมักจะพูดว่าเหมือนมี God's presence)

มัทเชื่อว่าน้องภูจะเป็นคนดีได้ ไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไรค่ะ (เพราะพ่อแม่เลี้ยงมาดีด้วย) : )

มาขยายความเรื่อง patheist นิดหน่อยค่ะ (คลิก)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท