พูดถึงวัด ผมเป็นหนี้บุญคุณวัดมากเหลือเกิน การอบรมบ่มเพาะเรื่องหลักๆในชีวิต ที่ทำให้เป็นคุณสมบัติติดตัวมาหลายอย่างก็เกิดจากวัด ทั้งที่ถูกอบรมสั่งสอนโดยตรง และแอบฟัง แอบโต้แย้ง แอบเรียนรู้และสะสมมา
แต่หลายปีผ่านมา มีประโยคหนึ่งที่ผมสะดุดใจทุกครั้งเมื่อได้ยิน คือคำพูดที่ว่า " จะขอเข้าวัดเพื่อปฏิบัติธรรม " พอมีทุกข์ใจอะไรขึ้นมา เพื่อนฝูงหลายคนจะใช้วิธีดังกล่าว คล้ายๆกับว่าเมื่อเจอเหตุบางอย่างเกิดขึ้น ณ ที่หนึ่ง แล้วทำให้มีปัญหา มีความทุกข์ เขากลับขอเวลาออกไปเสียจากที่นั้น เพื่อแก้ปัญหา ก็เลยทำให้คิดต่อได้ว่า แล้วเมื่อไรมันจะสำเร็จ ในเมื่อเหตุเกิดที่หนึ่ง แต่พอจะแก้ กลับไปอยู่เสียในที่อีกแห่งหนึ่ง
ที่กล่าวมาใช่ว่าจะปฏิเสธการเข้าวัดเพื่อฟังธรรม และฝึกตนนะครับ สภาพแวดล้อมในวัดดีๆ ช่วยได้มาก อันนั้นไม่โต้แย้งครับ แต่พึงระวังไว้บ้างก็ดี เพราะเดี๋ยวนี้มีอะไรประหลาดๆเกิดขึ้นในหลายวัด ทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ที่ทำเอาผู้คนหลั่งไหลไปรวมกันด้วยความหลง เพราะหลายวัดดังกล่าวเช่าสถานีวิทยุของทหารกระทำการโฆษณา มอมเมาแบบไม่ลืมหูลืมตาก็มีอยู่ ใครอยากรู้ให้เปิด AM หมุนหาคลื่นไปเรื่อยๆก็จะเจอ แต่ก่อนมาหลอกหลอนเอาตอนดึกๆ ระยะหลังนี่กลางวันแสกๆก็ยังหลอกกันครับ
ที่ว่าหลงนั้นมีหลายแบบครับ เช่น
ผมคิดถามตัวเองตลอดมาว่า เมื่อไหร่หนอ วัดที่มีอยู่มากมายและกระจายอยู่ทั่งประเทศ จะได้ทำหน้าที่ให้ครบถ้วน ได้มีส่วนใช้พลังสร้างสรรค์สังคม ให้อุดมด้วยปัญญาเสียที .. ทั้งการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ อาคารสถานที่ และกิจกรรมที่จัดที่ทำกันในวัด .. ลองคิดดูเถิด ด้วยพลังปัจจัยที่ญาติโยมถวายอย่างมากมายมหาศาล ด้วยพลังศรัทธาอันเหลือเฟือ และพื้นที่อันมากมายของวัดทั้งหลายในประเทศนี้ .. หากจัดการดีๆ ความืดมัวน่าจะค่อยๆจางไปจากสังคม ... วัดที่กล้าหาญพอที่จะบอกญาติโยมว่า "ปฏิบัติธรรม ไม่ต้องมาที่วัดก็ได้" แบบที่ท่านอาจารย์เคยพร่ำบอกที่สวนโมกข์ ก็น่าจะมีจำนวนมากขึ้นได้
เกือบลืมบอกไปว่าแรงบันดาลใจให้ผมเขียนบันทึกนี้ ก็เพราะได้ไปปลดปล่อยความคิดต่อท้ายบันทึกหนึ่งไว้ว่า ...
ขอบคุณครับ
เรื่องราวใน บันทึกนั้น ของ ท่านผู้นี้ เป็นอย่างไร เชิญคลิกตามไปดูได้เลยครับ
สวัสดีค่ะ
***อยากให้ช่วยกันคิดทำวัดให้เป็นศูนย์รวมแห่งการพัฒนา...เพื่อทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นพุทธสาสนิกชนจะได้รับการพัฒนาให้มีความมั่นคงในชีวิตเสียที
ท่านอาจารย์ Handy ที่เคารพครับ เห็นด้วยครับกับการปฏิบัติธรรมไม่จำเป็นต้องไปวัดครับ และดังที่ท่าน JJ ว่าวัดอยู่ที่ใจ(สำนวนหนังกำลังภายใน) พระอยู่ในบ้าน สติมา ปัญญาเกิด(ตอนท้ายนี้เหมือนเคยได้ยินท่านพระพยอมว่าครับ) ผมกลัวว่าไปวัดแล้วอาจไม่ได้ปฏิบัติธรรมครับ เพราะท่านอาจจะเดินชนตู้บริจาคครับจนได้รับบาดเจ็บไดครับ...
ปัญหาโลกแตกอีกอย่างหนึ่งเลย พระไม่สอนแก่นของพุทธศาสนา แต่เน้นสอนเปลือก พิธีกรรม เครื่องรางของขลัง หวย หรือ อะไรก็ไม่รู้ ทั้งๆที่พุทธศาสนาเรา น่าจะสุดยอดหนึ่งในศาสนาทั้งหลาย แค่ปฏิบัติศีล 5 ให้ได้ รับรองว่าสังคมสงบ น่าอยู่ แน่นอน.. หลายคนจึงไม่เข้าวัด ไม่ง้อวัด เพราะรู้สึกอย่างที่หลายท่านว่า ทำไงดี...?
สวัสดีค่ะ
เรื่องของคนค่ะ เลยมีเรื่องมากมาย
ขอบคุณที่ให้แนวคิด
สวัสดีครับ