เราๆ ท่านๆ อาจจะสงสัยว่า กินน้ำมันปลาดีหรือไม่ และจะกินอย่างไรดี เช่น วันละกี่เม็ด ฯลฯ
เว็บไซต์เม็ดสเคป ซึ่งสนับสนุนการศึกษาต่อเนื่องของแพทย์ในสหรัฐอเมริกานำเรื่องน้ำมันปลากับมลภาวะมาตีพิมพ์ ขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ...
นักวิจัยสหรัฐอเมริกาและแคนาดาพบว่า การกินน้ำมันปลาวันละ 2 เม็ด (2 กรัม) น่าจะช่วยป้องกันภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะในคนสูงอายุที่ได้รับมลภาวะจากฝุ่นละอองในอากาศได้
อาจารย์ ดร.เฟอร์นานโด โฮลควิน จากศูนย์กลางการควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกาทำการศึกษาในคนสูงอายุ 50 คนที่ได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็ก(เท่ากับหรือน้อยกว่า 2.5 ไมครอน / 1 ไมครอนเท่ากับ 1 ใน 1,000 ของ 1 มิลลิเมตร)
การศึกษาพบว่า กลุ่มที่ได้รับน้ำมันปลามีสุขภาพหัวใจดีกว่ากลุ่มที่ได้น้ำมันถั่วเหลือง
น้ำมันปลามีส่วนช่วยลดการอักเสบของอวัยวะหลายอย่าง รวมทั้งเส้นเลือด ลดภาวะเลือดแข็งตัวมากเกิน ทำให้เยื่อบุเส้นเลือดขยายตัวได้ดี และลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
อาจารย์ ดร. เฟอร์นานโดแนะนำให้กินปลาทะเลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และกินน้ำมันปลาวันละ 2 เม็ด (2 กรัม)
สมาคมโรคหัวใจสหรัฐอเมริกาแนะนำให้คนที่มีสุขภาพดีกินปลาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เทียบเท่าเนื้อปลา 2 ส่วนบริโภค หรือประมาณ 100 กรัม(เท่าฝ่ามือ) 2 มื้อ และใช้น้ำมันพืชเพื่อให้ได้กรดไลโนเลนิค ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสายโอเมก้า-3 เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันคาโนล่า ฯลฯ น้ำมันจากถั่วหรือเมล็ดพืชอื่นๆ
คนที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันควรกินน้ำมันปลาวันละ 1 เม็ด คนที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์สูงควรกินน้ำมันปลาวันละ 3 เม็ด (2-4 เม็ด)
คนที่มีไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงควรกินอาหารหวาน-มันให้น้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรระวังน้ำหวาน เช่น ชาเขียวใส่น้ำตาล ฯลฯ น้ำอัดลม อาหารและขนมสำเร็จรูป งดเหล้า เบียร์ ไวน์ และแอลกอฮอล์ทุกชนิด และออกกำลังให้มากขึ้น เช่น เดินเร็วอย่างน้อยวันละ 30 นาที ใช้บันไดแทนลิฟต์ ฯลฯ
คนที่มีโคเลสเตอรอลในเลือดสูงควรกินอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูงให้น้อยลง เช่น อาหารทะเล(ยกเว้นปลาทะเลกับปลิงทะเล) สมอง เครื่องใน ไขมันสัตว์ ฯลฯ
สมาคมโรคหัวใจสหรัฐฯ แนะนำว่า น้ำมันจากปลาทะเลมีส่วนช่วยลดการตายเฉียบพลันจากภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ภาวะเลือดแข็งตัวมากเกิน ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ลดการเติบโตของคราบไขในเส้นเลือด (plaque) หรือลดโอกาสเกิดเส้นเลือดอุดตัน ช่วยรักษาสุขภาพเส้นเลือด และช่วยลดความดันเลือด
ฝุ่นละอองในอากาศที่มากเกินมีอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจ(มีส่วนทำให้เสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ) เส้นเลือด(มีส่วนทำให้เสี่ยงต่อภาวะเส้นเลือดหดตัวมากเกิน รวมทั้งเพิ่มความดันเลือด) และปอด(เสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ โรคถุงลมโป่งพอง และมะเร็งปอดในระยะยาว)
เราๆ ท่านๆ มีส่วนช่วยกันลดฝุ่นละอองในอากาศได้ โดยรณรงค์ให้ลดการใช้ฟืนทำอาหาร และการเผาขยะ ซึ่งทำกันมากในภาคเหนือ และไม่น่าประหลาดใจที่เชียงใหม่กับลำปางมีอุบัติการณ์ของมะเร็งปอดมากที่สุดในประเทศ
ฝุ่นละอองในอากาศมาจากการเผาไหม้ของรถยนต์และโรงงาน การตรวจสภาพรถเก่า และการตรวจจับควันดำจึงมีส่วนช่วยลดมลภาวะในอากาศได้แหล่งข้อมูล:
คนเคยเป็นลมชัก ทานน้ำมันปลาใด้รึเปล่าคะ ช่วยตอบด้วยนะคะ ขอบคุณ
ขอขอบคุณ... คุณ 1. ni d
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมากๆ คือ เนื้อดิบ หมูดิบ ซึ่งอาจมีไข่พยาธิตืดหมู หรือไข่พยาธิตืดวัวปนเปื้อน และอาจมีพยาธิขึ้นสมอง (เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชักได้