ซูชิ ไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด


...เรื่องซูชินี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นแง่มุมบางแง่ของชีวิตที่ว่า "ของแพงอาจจะไม่ดีอย่างที่คิด"... ชีวิตของปลาทะเลช่างคล้ายกับชีวิตของคนบางคน(ไม่ใช่ทุกท่าน)คือ ยิ่งแก่ยิ่งมีพิษมาก ปลาทะเลที่มีอายุยืนมักจะสะสมสารพิษและโลหะหนักไว้ในตัวมาก...

 Sushi   เราๆ ท่านๆ คงจะรู้จักซูชิกันดี หลายๆ ท่านอาจจะคิดว่า ซูชิดีกับสุขภาพ เพราะมีซูชิหน้าปลาทะเล และมีสาหร่ายทะเลห่อรอบอย่างเรียบร้อย

เรื่องซูชินี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นแง่มุมบางแง่ของชีวิตที่ว่า “ของแพงอาจจะไม่ดีอย่างที่คิด”

Sushi

อาจารย์เอลิ แซดเลอร์ (www.gotmercury.org) ท่านทำการสำรวจซูชิจากภัตตาคารชั้นนำ 6 แห่งในลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา นำมาตรวจสอบระดับสารปรอทพบว่า เนื้อปลาในซูชิสูงเกินมาตรฐาน

คณะกรรมการอาหารและยา สหรัฐอเมริกา (FDA) กำหนดว่า ปลาทูน่าควรมีระดับสารปรอทต่ำกว่า 0.383 ส่วนในล้าน (ppm) เนื้อปลาในซูชิมีระดับสารปรอทสูงประมาณ 0.721 ส่วนในล้าน (ppm) เกินมาตรฐานไป 88 %

Sushi

ภัตตาคารญี่ปุ่นถือว่า ปลาที่จะนำมาทำซูชิได้ดีที่สุดได้แก่ ปลาตัวใหญ่และมีอายุมาก โดยเฉพาะปลาทูน่าพันธุ์ตาโตและครีบน้ำเงิน-เหลือง (big-eyed tuna, blue and yellow-finned tuna)

ชีวิตของปลาทะเลช่างคล้ายกับชีวิตของคนบางคน(ไม่ใช่ทุกท่าน)คือ ยิ่งแก่ยิ่งมีพิษมาก ปลาทะเลที่อายุยืนมักจะสะสมสารพิษและโลหะหนักไว้ในตัวมาก

Sushi

สัตว์ทะเลที่มีอายุขัยสั้น เช่น กุ้ง ปลาแซลมอน ฯลฯ มีระดับสารปรอทน้อยกว่าปลาทูน่าสายพันธุ์ที่นิยมนำมาทำซูชิ

สารปรอทมีส่วนทำลายสมองทารกในครรภ์ นอกจากนั้นยังทำให้ความจำระยะสั้นในผู้ใหญ่เสื่อมไปชั่วคราว นิสิตนักศึกษาจึงไม่ควรกินซูชิในช่วงใกล้สอบ

Sushi

คำแนะนำ:

  • อาหารทะเลราคาปานกลางทั่วไปไม่ได้ใช้ปลาตัวโต หรือปลาที่มีอายุยืนมากอย่างซูชิ การกินอาหารทะเลสัปดาห์ละ 2 ครั้งนับว่า ปลอดภัยสำหรับคนทั่วไป
  • การกินปลาทะเลอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งช่วยให้ได้รับโปรตีนคุณภาพสูงจากปลา แร่ธาตุ เช่น เซเลเนียม สังกะสี ฯลฯ ไอโอดีน น้ำมันปลาซี่งเป็นน้ำมันที่ดีมากเป็นพิเศษสำหรับสุขภาพสมอง เส้นเลือด และหัวใจ

แหล่งข้อมูล:

หมายเลขบันทึก: 17962เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2006 09:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

หน้ากลัวมากนะคะ สารปรอท มารับความรู้จากท่านอาจารย์แล้วนะคะ / สุวรรณา

นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
  • ขอขอบคุณครับ...
 งั้นกินซูชิหน้าอื่นก็ได้ใช่มั๊ยคับ
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
  • ขอขอบคุณอาจารย์ "007" ครับ...
  • ซูชิหน้าอื่นน่าจะปลอดภัย
  • อีกอย่างหนึ่ง...
    การกินปลาทะเลมีประโยชน์หลายอย่าง
    ถ้าเป็นปลาที่มีจำหน่ายทั่วไปราคาปานกลาง
    ส่วนใหญ่จะใช้ปลาที่มีอายุไม่มาก ตัวไม่โต
    การสะสมสารพิษมีน้อย
  • การกินซูชิหน้าปลานานๆ ครั้ง
    ก็ยังนับว่าปลอดภัยถ้าไม่กลัวแพง
  • ขอขอบคุณ
    และขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านมีสุขภาพดี
การกินปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่น่าจะปลอดภัยที่สุดในแง่โภชนาการ แต่ต้องระมัดระวังดังบทความของคุณหมอคะ และถ้าจะให้ดีก็กินปลาที่อยู่ในทะเลไทยก็ได้ หรือ ปลาน้ำจืดบ้านเราก็น่าจะดีกว่าและปลอดภัยมากกว่านะคะ และถ้าอยากรู้ว่าปลาทะเลไทยมีประโยชน์ด้านไหนบ้างก็อยากให้เข้าไปดูที่ http://gotoknow.org/archive/2006/03/13/17/09/06/e18687 ก็ได้คะ อยากจะแลกเปลี่ยนความรูกับทุกคนคะ
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
  • ขอขอบคุณอาจารย์จ๊ะจ๋าครับ...
  • คำแนะนำของอาจารย์มีประโยชน์มาก
    นอกจากนั้นยังมีการเชื่อมโยง (linkage)
    ให้ด้วย
  • อย่างนี้เรียกว่า "ลปรร.(แลกเปลี่ยนเรียนรู้)"
    กันอย่างแท้จริง...
  • ขอขอบคุณ

อยากเรียนถามคุณหมอค่ะ  ตอนนี้ดิฉันทำอาหารให้ลูกทานอายุ 10 เดือน กว่า ๆ มีส่วนประกอบดังนี้ค่ะ

- ข้าวกล้อง+ข้าวหอมมันปู+ข้าวขาวหอมมะลิ หุ้งสุกแล้วจากนั้นตักมาใส่น้ำแล้วตั้งไฟเคี้ยวจนละเอียดพอได้ที่

- ทำน้ำซุป มีส่วนประกอบ คือกระดูกหมู  ตับ  หัวใจ

- ฟักทองสุกนึ้ง

- บวบต้ม (จะต้มรวมไปกลับน้ำซุปค่ะ)

- ไข่ต้ม

- ปลาช่อนต้ม หรือบางครั้งจะเป็นปลาทับทิม ค่ะ

*ทุกอย่างไม่มีการปรุงแต่งรสชาติค่ะ  การเตรียมอาหารจะเตรียมครั้งละมาก ๆ แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น  ถ้านำมาให้ลูกทานในแต่ละมื้อ ก็จะนำของที่เตรียมไว้มาบดพอหยาบ ทำให้เข้ากัน แล้วอุ่นทุกครั้ง  

ขอเรียนถามอาจารย์หมอค่ะ

- อาหารที่แช่เย็น แล้วนำมาอุ่นทุกครั้ง คุณค่าทางอาหารหายไปรึเปล่าค่ะ 

- ทานเหมือนเดิมทุกมื้อแบบนี้ ทำให้เกิดผลข้างเคียงอย่างไรบ้างค่ะ

- ปลาทะเล เด็ก 10 เดือน ควรทานได้รึยังค่ะ

- ทานข้าวกล้องตั้งแต่ 4 เดือน จนปัจจุบันมีผลกับเด็กรึเปล่าค่ะ

- ส่วนอาหารว่างในแต่ละมื้อ จะเป็นกล้วยน้ำว้าสุกขูด กับ น้ำส้มค้นค่ะ เพราะลูกชอบทานกล้วย มาก ๆค่ะ ทานทุกวันมีผลอะไรรึเปล่าค่ะ

ต้องขออภัยท่านอาจารย์หมอ ด้วยนะค่ะคำถามอาจจะมากไปค่ะ

ขอขอบพระคุณค่ะ

 

นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
  • ขอขอบคุณอาจารย์ mom และท่านผู้อ่าน...
  • ขอตอบปัญหาของอาจารย์อย่างนี้ครับ...
    (1). การนำอาหารที่แช่เย็นมาอุ่นทุกครั้งมีส่วนทำให้คุณค่าทางอาหารลดลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ลดมาก ถ้าเป็นไปได้... ควรแบ่งมาอุ่นเฉพาะส่วนที่จะกิน วิธีนี้จะทำให้ส่วนที่เหลือไม่ถูกอุ่นซ้ำกันหลายครั้ง
    (2).ก. อาหารที่นำมาแช่เย็นในช่องเย็นถ้าไม่ผ่านการตักแบ่งมาก่อนไม่ควรเก็บเกิน 7 วัน ถ้าตักแบ่งมาก่อน...ไม่ควรเก็บเกิน 3 วัน เพื่อป้องกันเชื้อโรคเติบโต และเกิดโรคอาหารเป็นพิษ
    (2).ข. ควรล้างมือด้วยสบู่ก่อนเตรียมอาหาร หรือตักแบ่งอาหารให้เด็ก เพื่อป้องกันโรคติดต่อ เช่น หวัด ฯลฯ และลดโอกาสเกิดโรคอาหารเป็นพิษ
    (3). สูตรอาหารที่อาจารย์ mom ทำน่าจะดีมาก อย่างไรก็ตาม...การกินอาหารซ้ำรายการกันทุกวันอาจทำให้เด็กเบื่อได้ นอกจากนั้นการสับเปลี่ยนชนิดของอาหารยังมีส่วนทำให้เด็กได้รับสารอาหารหลากหลายขึ้น
    (4). เด็กอายุ 10 เดือนกินปลาทะเลสุกได้ ปลอดภัย เนื้อปลาย่อยได้ง่าย ถ้าเป็นปลาทะเลจะดีกับสมองมากเป็นพิเศษ
    (5). กล้วยน้ำว้าสุกเป็นอาหารที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นพืชที่ทนศัตรูพืช และไม่นิยมใช้ยาฆ่าแมลง ทำให้เด็กหลับง่าย ควรล้างกล้วยทั้งลูกก่อนปอกเปลือกด้วยน้ำสบู่ เพื่อลดโอกาสติดเชื้อที่อยู่บริเวณผิวนอกของผลไม้
    (6). น้ำส้มคั้นเป็นอาหารที่ดี ควรล้างส้มทั้งลูกด้วยสบู่โดยใช้ฟองน้ำล้างจานถูเบาๆ เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ
  • การเล่านิทานให้เด็กฟังมีส่วนทำให้เด็กฉลาด และมีสุขภาพดีขึ้น ถ้าสวดมนต์ให้เด็กฟังได้จะดีมากเลย...
  • ถ้าเป็นไปได้... ควรระวังไม่เปิดรายการโทรทัศน์ที่เสี่ยงอันตรายต่อเด็ก เช่น หนังอิจฉาริษยา หนังทะเลาะวิวาท หนังสงคราม ข่าว 4 จังหวัดภาคใต้ ข่าวที่มีคนด่ากันไปด่ากันมา
  • ขอขอบคุณอาจารย์ mom และท่านผู้อ่าน
  • ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดี และมีส่วนสร้างชาติด้วยการปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้เป็นคนดี มีศีลธรรม... ขออนุโมทนา

ขอขอบพระคุณอาจารย์หมอ อย่างสูงค่ะ

นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์
  • ขอบคุณครับ...

จะไม่ทานชูชิแล้ววววว

T^T

น่ารกลัวๆๆๆๆ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท