9 วิธีป้องกันปวดหัว


 

...

 [ flickr ]

ภาพประกอบ > Thank [ flickr ] & [ mermaid99 ]

..........................................................................

โรคปวดหัวที่พบบ่อยในคนเราได้แก่ ปวดหัวจากไข้หวัดหรือไซนัส (โพรงรอบจมูก) อักเสบ,  ปวดหัวจากไมเกรน (ลมตะกัง), และปวดหัวจากกล้ามเนื้อคอ-หัวตึงตัว (tension heache)

มูลนิธิโรคปวดหัวแห่งชาติสหรัฐฯ (National Headache Foundation) และโรงพยาบาลเซนต์ แอกเนส สหรัฐฯ  แนะนำวิธีป้องกันปวดหัวไว้ 9 วิธีดังต่อไปนี้

...

  • (1). ประคบน้ำอุ่นที่คอด้านหลัง และระวังอย่าใช้น้ำร้อนจัดจนเกิดแผลน้ำร้อนลวก
  • (2). นวดหรือกดจุดไปตรงตำแหน่งที่เริ่มต้นปวด (trigger point)

...

  • (3). ฝึกคลายเครียด เช่น หายใจช้าๆ ไม่เกิน 10 ครั้ง/นาที 5-15 นาที
  • (4). หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ถูกกับตัวเรา เน้นอาหารที่กินแล้วปวดหัว ที่พบบ่อยได้แก่ กล้วย เนยแข็ง เนื้อสำเร็จรูป (มักจะใส่ดินประสิว) เช่น เนื้อรมควัน ฯลฯ

...

  • (5). กินอาหารตรงเวลา... การกินอาหารไม่ตรงเวลาเพิ่มเสี่ยงน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งอาจทำให้ปวดหัวได้
  • (6). สังเกตอาการปวดหัวและความตึงเครียด... เมื่อรู้สึกเครียดให้พัก ฝึกอยู่กับปัจจุบันขณะ และเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น ถ้านั่งนานให้ลุกขึ้นนั่งลงหลายๆ ครั้ง, เดินเร็วๆ 5-10 นาที ฯลฯ

...

  • (7). นอนให้พอ และไม่นอนดึกเกินไป
  • (8). ออกกำลัง-ออกแรงเป็นประจำ

...

  • (9). ระวังการกระทบร้อนหรือเย็นทันที เช่น ไม่ควรตั้งแอร์ให้เย็นเกิน (ต่ำกว่า 25 C / องศาเซลเซียส) หรือตากแดดจ้า โดยพกพาร่ม หรือหมวกพับได้ติดตัว และใช้ป้องกันแดดจ้าเสมอ
  • (10). หลีกเลี่ยงอาหารบางอย่าง

...

 

ควรสังเกตตัวเองเพื่อเลือกได้ว่า ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทใด (ข้อ 3-5 พบทำให้ปวดหัวเฉพาะในบางคน ถ้าไม่ปวดหัว... ไม่จำเป็นต้องงดครับ)

อาหารที่อาจทำให้ปวดหัวในคนบางคนได้แก่

  • ก. อาหารหมักหรือดอง 
  • ข.แอลกอฮอล์
  • ค. กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เช่น ชา เครื่องดื่มกระตุ้นกำลัง ฯลฯ  > กระตุ้นให้ปวดก็ได้ หรือถ้าดื่มเป็นประจำ... หยุดทันทีก็ปวดได้เช่นกัน
  • ฆ. บุหรี่
  • ง. ผงชูร

...

 

...

การใช้ผงชูรสให้ดีกับสุขภาพ (ถ้ากินแล้วไม่ปวดหัว) คือ เมื่อใ้ช้แล้ว ควรลดเกลือให้น้อยลง เช่น ลดซอส ซี่อิ๊ว น้ำปลา เกลือ ฯลฯ ประมาณ 1-2 เท่าของปริมาณผงชูรส

คนไทยและคนเอเชียชอบเติมน้ำตาลในการปรุงอาหาร... การใช้ผงชูรสเล็กน้อย + ใช้น้ำซุป น้ำสต๊อค (น้ำต้มเนื้อ กระดูก หรือผัก) แทน แล้วลดการใช้น้ำตาลลงประมาณ 2-3 เท่าของปริมาณผงชูรสน่าจะดีกับสุขภาพเช่นกัน

...

ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

... 

 > Thank [ Thank St Agnes Hospital ]; Thank [ flickr ] & [ mermaid99 ] 

ที่มา                                                                      

  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า >   > 20 มิถุนายน 2552.
  • ข้อมูลทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแลท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.

หมายเลขบันทึก: 269601เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2009 23:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 09:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท