Holistic Corner : ตัวอย่าง สิ่งที่พบได้บ่อย ใน pcu คือ สุขภาพแบบผสมผสาน และนักสื่อสารสุขภาพ ธรรมชาติ


ขณะที่เราดูแล คนไข้ เรื่องหนึ่ง ๆ เราพบว่า มีเรื่องราวของระบบสุขภาพที่เกี่ยวข้อง มากกว่า โรคที่เราเพ่งมองดูเสมอ  แล้วก็สามารถพบได้ ง่าย และบ่อย มากที่ pcu และชุมชน ทำให้เรามีเรื่องเรียนรู้ไม่รู้จบสิ้น ขึ้นอยู่กับว่า เราเรียนรู้ หรือไม่   ดังเรื่องเล่าต่อไปนี้

เมื่อวาน ผมตรวจ คนไข้ที่ pcu บัววัด ตรวจเสร็จ  นั่งคุยกับพี่แดง หัวหน้า pcu คุณ บรรจง เจ้าพนักงานมาธารณสุข  แล้วก๊พี่นาง พยาบาล pcu     เรื่อง เราจะ plan ไปเยี่ยมบ้าน ผู้พิการในเขต อย่างไรกันดี  มีพี่คนหนึ่ง แกชื่อ พี่สมบูรณ์   เดินมา นั่งเล่น คุยด้วย  บอกว่าแผลที่ถูกงูกัด เมื่อหลายเดือนก่อน หายเกือบสนิท แล้ว 

พี่สมบูรณ์ เอาแผลที่เท้าให้ดู  เมื่อหลายเดือนก่อน แกถูก  งูอะรูมิไร้  กัดที่เท้า ขวา    ( งูอะรูมิไร้  ภาษาภาคกลางเรียก งูอะไรมิรู้ )  ตอนแรกนึกว่าปูหนีบ ดูอีกที เป็นรอยเขี้ยว 2 เขี้ยว ก็เลยคิดว่างูกัดนี่หว่า pcu ส่งตัวรักษาที่ รพ.วารินชำราบ แล้วเลยไปรักษาที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์   ตอนกลับมาที่บ้าน มีแผลขนาดใหญ่  มาก ก็ทำแผลที่ pcu บัววัด นี่แหละครับ ไม่เคยกลับไป รพ.อีกเลย

  แผลเมื่อหลายเดือนก่อน

 

แผลเมื่อวาน  จาก ฝีมือ เจ้าหน้าที่ pcu บัววัด

มันก็น่าจะจบด้วย ความภูมิใจเพียงเท่านี้   ระหว่างที่คุยกัน แกชี้ให้ดู บอกว่า " มันกัดตรงนี้นะหมอ ตรงที่กัดไม่เป็นไร มันมาเขียวพอง ใต้แผล แต่ก็แปลก มันหยุดกับที่ ไม่ลามขึ้นมาข้างบน"

  

ผมก็บอก   น่านนะซี   แกบอกต่อว่า " ดีนะเนี่ย ผมเอาใบ รางจืด มาเคี้ยว กินด้วย โป๊ะแผลด้วย  มันคง หยุดพิษงู  "

ปกติผมอ่อนด้อย เรื่องสมุนไพรมากครับ  ( กำลังเรียนรู้อยู่ ) จังหวัดทำตัวชี้วัด ว่า pcu ต้องมีสมุนไพร 5 อย่าง ใช้ใน pcu  ยาสมุนไพรที่ สั่งมา แพงมากครับ แถมผม มองไม่เห็นว่า การมีสมุนไพร 5 อย่าง แปลความหมายที่ดีได้อย่างไรบ้าง  ถามคนมาประเมินบอกแต่ ว่าเป็น KPI ต้องมี  หามาให้เห็นก็แล้วกัน  ไม่งั้นไม่ผ่านเกณฑ์    ผมเลยไม่ค่อยสนใจ  kpi พรรค์นี้เท่าไหร่  ตอนนี้ก็เลยไม่มี สมุนไพรสำเร็จรูป  ให้เขาเห็นต่อไป  ตกเกณฑ์ของเขาจ้อย ( แต่ไม่ใช่เกณฑ์ของเรา )

ผมถามพี่บูรณ์ ว่ารางจืด เขาเอาไปทำอะไรกัน   ( ผมไม่รู้จักจริง  ๆ ครับ อย่านึกว่าหมอจะรู้ไปหมด ไม่รู้ก็ถามเอา  )  แกบอก แม่ยายให้เอามาปลูก 2 ปีแล้ว  บอกว่าแก้พิษ สารพัดพิษ   เมื่อปีก่อน  หมาถูกวางยา เดิน โซเซ น้ำลายฟูมปาก  แกรอจนมัน สลบ ( เดี๋ยวมันกัดเอา ) เอาใบรางจืด ตำกับน้ำ กรอกปาก ครึ่งชั่วโมง มัน ตื่นขึ้นมา เดินกระดิกหางเฉย    

บรรจง  เจ้าหน้าที่ สาธารณสุขของเรา บอก จริง ๆด้วย อีโจโจ้ หมาหนูถูกวางยาเมื่อปีก่อน ก็เอากรอกปากมัน  ไม่ตายมาถึงทุกวันนี้  เพื่อนร่วมรุ่นนั้น ตายไปหมดทุกตัว

ผมถามบรรจง ว่า รู้จักได้อย่างไร เธอบอกว่า คนข้างบ้านบอกให้เอามาปลูก แก้พิษ   ( ผมนึกในใจ อ้าว นึกว่า บรรจงบอกให้ชาวบ้านปลูก ตามหน้าที่   ที่ไหนได้ ชาวบ้าน บอกให้เราปลูกเสียเอง ดีเหมือนกัน ) 

พี่แดง บอกว่า เขาเอามาอมใต้ลิ้น  เวลากินเหล้าแล้วไม่เมา  ผมถามว่าพี่เคยไหม แกบอกไม่เคย เขาเล่ามาอีกที

สุดท้ายอดรนทนไม่ได้ บอกพี่บูรณ์ พาผมไปดูหน่อย ขับรถไปดู ที่บ้านแก เห็นต้น รางจืดเป็น ๆ ครับ

  ที่บ้านแกปลูกสมุนไพร จริง ๆ ครับ

แถวบ้านแก ปลูกสมุนไพรกันหลายบ้านเลยครับ  ผมเดินดู ก็จริงตามที่แกบอก   ข้างบ้าน ชื่อพี่อนงค์  ก็ปลูกหลายอย่าง    แกเดินไปเด็ดใบ สังกรณี มาให้ดู บอกนี่ ยาย บับพาให้มาปลูกก็เป็นสมุนไพร

ตัวดำ ๆ ชื่อไอ้ตูบ ( ชื่อตูบจริง ๆ ครับ ไม่ใช่สรรพนาม ) ตัวนี้แหละครับที่ เคย ชักกระตุก น้ำลายฟูมปากจากยาเบื่อ รางจืดช่วยชีวิตมันไว้  ผมอยากรู้จัก ยายบับพา เพราะแกเป็นคนแนะนำให้ ชาวบ้านมาปลูก คนละต้น สองต้น  พี่บูรณ์ เลยพาไปรู้จัก

ถามว่าแกเป็นหมอพื้นบ้านเหรอ แกบอกไม่ได้เป็น พ่อใหญ่เริญ บอกมาอีกที   ว่าแล้วก็พาเดินไปหลังบ้าน  บอกนี่ได้มาใหม่ รักษาริดสีดวงทวาร  ผมถามเอามาทำยังไง แกบอกว่า ก็เอาบี้ ๆ แล้วจิ้มในก้น บางคนบอกว่าหาย บางคนบอกไม่หาย ( ผมเลยเดาเอาว่าคงมีคนที่แกบอกไปแล้วหลายคน )  ถามว่ามันชื่ออะไร แกบอก ชื่ออะไรก็ไม่รู้

แกเดินไปเด็ดใบ ต้น อะรูมิไร้ (   ต้นอะไรมิรู้ )  มาบี้ ๆ ใส่จมูก ผมถามว่ามันหอมเหรอ แกบอก ริดสีดวงจมูกไง  ( อ้าว เมื่อกี้ บอกริดสีดวงทวารนี่นา )  

ผมกลับไปทำงานต่อที่  รพ. เริ่มคิดอะไรได้บางอย่าง

ที่เจอวันนี้  ถึงแม้ จะดูบอก กันต่อ ๆ มา เป็นเรื่องของชาวบ้าน ( แต่เขา ก็ปลูก ก็ ใช้ จริง ๆ มาหลายปีแล้ว )  บางครั้งก็ได้ผลจริง ๆ  วันนี้ และ วันข้างหน้า มันก็งอกเงยของมันเองได้จริง ๆ   ผมรู้สึกมีเหตุผล ดีกว่า ยาสมุนไพร บรรจุเสร็จ ที่แสนแพง และต้องมี ให้ครบ 5 อย่าง  ถ้าไม่ครบ ก็ตกเกณฑ์ เป็นไหน ๆ


เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง

1. เรื่องราวนี้ เกิดในช่วงสั้น ๆ ประมาณ ครึ่งชั่วโมง และ เกิดได้บ่อย ๆ  จนเป็นเรื่องธรรมดา ใน pcu  แต่การเกิด เรื่องราวอย่างนี้ เกิดได้ยากกว่าใน โรงพยาบาล   ทำให้เห็นถึง  สิ่งที่เกิดขึ้นในระบบ primary care  เรียบง่าย เข้าถึงได้ง่าย ผสมผสาน ต่อเนื่อง องค์รวม  แต่ใช่ว่าจะดีกว่า secondary and tertiary care นะครับ เพียงแต่มันเกื้อกูลกัน คนละบริบทกัน

เรื่องนี้ เริ่มต้นที่ แผลงูกัด  แต่ จบลงที่  เรื่อง สมุนไพรใกล้ตัวชื่อรางจืด

2. อ.โกมาตร บอกว่า   ชุมชน  ไม่ใช่ภาชนะที่ว่างเปล่า  ผมเห็นหลายโครงการ ทีเดียว นั่งเขียนในที่ประชุม  มองว่าประชาชนไม่มีความรู้อะไรสักนิด เราคือผู้ที่มีความรู้  ชุมชน เป็นส่วนว่าง ๆ  ที่ต้องเติมเข้าไป ( แถมเติมสิ่งที่เราอยากให้เติมเสียด้วยซี่ )   ก็เลยเกิด ยาสมุนไพร บรรจุเสร็จ 5 อย่าง  เอาแค่ว่า มี 5 อย่างให้เห็น ในตู้ก็พอ  คาดหวังว่า ชาวบ้านเวลาป่วย ก็มาซื้อยาสมุนไพร  ที่ pcu ไปกิน  ขณะที่ บ้านเขาก็ปลูกอยู่เต็ม ใช้มาก่อน โครงการนี้จะมีเสียอีก

 ผมรู้สึกว่าให้สมุนไพรเขาอยู่ที่เดิม  ที่เขาเคยอยู่ นั่นแหละดีแล้ว อยู่กับดิน อยู่กับบ้าน ใช้ที่บ้านนั่นและ คือบริบทของเขา  อย่าไปทำแข่งกับยาฝรั่งดีกว่า เพียงแต่ว่าโจทย์ของเรา คือ ทำอย่างไรให้มันงอกงาม งอกเงิย ในบริบทของเขา

3.  เรื่องนี้เราเห็น  นักสื่อสารสุขภาพ เต็มไปหมด และที่เป็นความจริงก็คือ ชาวบ้านกลับเป็นนักสื่อสารสุขภาพให้  เจ้าหน้าที่เรา ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นพี่แดงหัวหน้า pcu หรือ บรรจง เจ้าหน้าที่ของเรา ที่ปลูกรางจืดตามเพื่อนบ้าน รักษา อีโจโจ้ จนหายนะ ( ผมนึกนะว่า วันที่ โจโจ้ กิน สตริกนิน บรรจงคงหอบเอามา pcu  ให้ iv ( ให้ iv หมาเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ )    แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อ มันอาจตายไปแล้วก็ได้ )  

แสดงว่าการสื่อสารสุขภาพ ของคนข้างบ้านบรรจง บรรลุวัตถุประสงค์

ที่สำคัญมาก ๆ งานนี้ หมอเวชปฏิบัติครอบครัว ประธานทีมพัฒนา เครือข่ายระบบบริการ cup วารินชำราบ ( ผมเอง ) ได้รับการสื่อสารสุขภาพ จากชาวบ้านหลายคนด้วย โดยปริยาย  ผมได้แต่ ถามกับ ฟัง แค่นั้นครับ คนพูด คือ พี่บูรณ์ ยายบับพา พี่อนงค์ เพราะผมก็ไม่รู้จักรางจืด ดีไปกว่าแก

การสื่อสารสุขภาพ คงต้องมีทั้งให้ และรับ กันไป มันน่าจะดีกว่า ใส่อย่างเดียว ไม่เคยรับ

เรื่อง รางจืด   ริงเท็จอย่างไร ผมก็ต้องไปค้นหาต่อเอาเองครับ ฝาก  site รางจืดมาให้อ่านเล่นครับ

http://www.ku.ac.th/e-magazine/jan49/know/rang.htm

http://www.thaihof.org/heal/bugyar/rangjoud.html

agriman.doae.go.th/home/kpi006/0223rangjurd.pdf 

http://www.thaipost.net/index.asp?bk=tabloid&post_date=11/Feb/2550&news_id=137798&cat_id=220400

หมายเลขบันทึก: 90159เขียนเมื่อ 13 เมษายน 2007 13:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 01:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

คุณหมอคะ สรุปว่า ที่pcuคุณหมอ ใช้ใบรางจืดด้วยไหมคะ

เรื่องสมุนไพรไทย ส่วนใหญ่ หมอไม่กล้าใช้

เคยทำเรื่องการรักษาพยาบาลมา  เคยขอให้หมอ สั่งยาสมุนไพรขององค์การเภสัชให้คนไข้ หมอไม่อยากสั่งให้ค่ะ

บางที คนไข้ก็ต้องการๆรักษาแบบองค์รวมเหมือนกัน บางทีได้ ประโยชน์ด้านจิตใจ เช่นการไปหา คนที่มีความรู้เรื่องจักระ ให้เขาช่วยอีกแรง ก็เห็นมีมาก คนเข้าคิวกันแน่น แต่ตัวเอง ไมเคยลองค่ะ

http://gotoknow.org/blog/goodliving/84680

ที่ pcu  ไม่มีใช้แบบ บรรจุเสร็จ เลยครับ 

แต่ ชาวบ้านเขาได้ใช้กันที่บ้านทั่วไปเลยครับ ผมไปดู บ้านบัววัด หมู้ 3 ปลุก ต้นรางจืดไว้ใช้กัน หลายบ้าน   เอามาตากแห้งชงเป็นชาได้เลย  เวลา สุนัข เจอพิษ หรือ เวลาไม่อยากให้เมา  เขาเอามา บดผสมน้ำ หรือเคี้ยวกินเลยครับ   ชาวบ้านเขาทำกันอย่างนี้มานานแล้วครับ  เลยไม่ต้องใช้แบบทำสำเร็จรูปเลย ครับ

สวัสดีครับ

  • ชอบรูบแบบการเล่าเรื่องของพี่หมอจิ้นนะครับ
  • อีกไม่นานคงมีคนขอเชิญพี่หมอไปเล่าเรื่องราวที่งดงามและน่าประทับใจมากมายเช่นนนี้แน่นอนเลยครับ
  • รู้สึกผมได้คลิ๊กหลายจุดครับ  บางทีสิ่งที่เราทำอยู่มากมายเป็นประจำจนไม่รู้สึกว่ามันมีคุณค่าอะไรมาก  แต่เมื่อพิจารณาดูดีๆแล้วก็ทำให้รู้สึกเป็นกำลังใจหล่อเลี้ยงตนเองต่อไปได้อย่างดีเลยครับ
  • ขอบคุณคำแนะนำเรื่องกล้องครับ
P

งานของพวกเรา เป็นเรื่องราวที่ สนุก และมีคุณค่ามากครับ  ถ้าเรามองเห็น   สมควรมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันบ่อย ๆ

สวัสดีค่ะ

หนูเห็นแผลที่โดนงูกัด หนูเคยเห็นลักษณะนี้ในรายการคนค้นคน ช่อง 9 วันอังคารค่ะ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ลักษณะรอยแผลคล้ายโดนงูกะปะกัดค่ะ แผลจะเปื่อยและเหม็นเน่าค่ะ หมอรักษาพิษงู แห่งพรหมคิรีค่ะ

แต่ใช้สมุนไพรเหมือนกันค่ะ

เราน่านำสิ่งที่ดีๆ ที่ชาวบ้านมี มาปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น เพื่อชีวิตที่พอเพียง 

 

ไม่มีรูป
หนูน้ำแข็ง

 

แถวนี้ งูกะปะ เยอะเหมือนกัน  เวลาถูกัด จะมีเลือดออกผิดปรกติ  แผลเน่าเปื่อยได้ คาดว่าคนนี้ก็โดนงูกะปะกัดนะครับ

ผมไม่รู้ว่า รางจืดจะช่วยเรื่อง พิษงูหรือไม่ แต่ยังไงก็ตาม ถ้าโดนกัดก็รีบไปพบแพทย์ เพื่อไม่ประมาทก็ดีครับ

หมอวีรพัฒน์ รพ หาดใหญ่

มีหมอเอกชัย  ปัญญาวัฒนานุกูล เคยอยู่ รพ กาบเชิง สุรินทร์  ตอนนี้เบื่อระบบราชการ ลาออกไปหลายปีแล้ว

รักษางูกัด ทุกชนิด ด้วยโลดทะนงแดง  ใน รพ ไม่ตายสักราย

http://www.dtam.moph.go.th/alternative/viewstory.php?id=547

คุณหมอ ลองดูซิครับ

ผมเสนอ model   เราควร empowerชุมชน  เช่น ไปเรียนรู้ ไปเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน   ในการผลิตยาสมุนไพร ในชุมชน แล้ว รพ อาจจะรับซื้อมาใช้กับ ผป

รพ อื่น จะใช้วิธี รับสมุนไพร จาก ชาวบ้าน มาผลิต แต่ชาวบ้านพัฒนา หรือ เก่ง ช้า  มีแต่ รพ ที่เก่งก้าวหน้าไปคนเดียว

หากเราให้ชุมชนเป็นฐานการผลิต  ชุมชนจะเข้มแข็งยิ่งขึ้น

กรุณาเข้าชุมชน แล้ว empower อย่างแนบเนียบ ไม่รู้ตัว  เรียก indirect learning

ที่ หาดใหญ่  มีอยู่วัดหนึ่ง พระทำยาหอม ขายให้ชาวบ้าน ราคาถูก กว่าซื้อในตลาด    ยาหอม ใช้เกสรบัว  วัดมีดอกบัวมากเหลือ จึงใช้วัตถุดิบ ในชุมชน   ผมจึงแนะนำชาวบ้านว่า ไปหา ยาหอม ที่วัดใช้ ไม่ต้องมา รพ ก็ได้   

ครูแพทย์แผนไทยสอนไว้ ยืนยันว่ารางจืดใช้ได้ดี น่าส่งเสริมให้ใช้แพร่หลาย
ไม่มีรูป
หมอวีรพัฒน์ รพ หาดใหญ่

 

สวัสดีครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับสำหรับคำแนะนำ ที่ดี ๆ แล้วผมก็ คิดตามว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ  ตอนนี้กำลังเรียนรู้  เรื่องเหล่านี้อยู่พอดีเลยครับ

empower อย่างแนบเนียบ ไม่รู้ตัว  เรียก indirect learning

P
นาย เอกชัย รัตนมณี
เมื่อ จ. 07 พฤษภาคม
เท่าที่ผมถามดู ก็ใช้กันแพร่หลายพอสมควร ชาวบ้านก็เอามาใช้ได้ดีครับ

สมุนไพรไทยอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน

สมุนไพรไทยมีเพื่อคนไทยทุกคน

ไม่ได้แค่มีเพื่อคนในชนบท

ยาไทยไม่ได้แข่งกับยาฝรั่ง แต่ยาฝรั่งต่างหากที่ผลิตมาเพื่อแข่งกับยาไทย

ยาไทยรักษาโรคได้ทุกโรคไม่แพ้ยาฝรั่ง ขึ้นอยู่กับวิธีใช้ และลางเนื้อชอบลางยา

ยาไทยไม่ใช่แค่บอกต่อๆกันมาเป็นปี แต่บอกต่อๆกันมาเป็นร้อยๆปี และมีหลักฐานบันทึกไว้อย่างชัดเจนในคัมภีร์ยาต่างๆ

ที่มีหลักการและวิธีใช้ไม่ว่าจะเป็นรสยา สรรพคุณยา ยาตำรับ ฯลฯ ไม่ใช่สักแต่ว่าบอกต่อๆกันไปเรื่อยๆ

ยาไทยสามารถอธิบายด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์คือ สารสำคัญที่พบในตัวยา

ถ้าชาวบ้านเค้ามีสมุนไพรอยู่ที่บ้าน แล้วเค้ารักษาตัวเองได้ เค้าก็คงไม่ไปซื้อยาที่ บ้านเค้าก็มีหรอก

แน่นอนว่ารูปแบบของยาบรรจุเสร็จ ประสิทธิภาพเทียบไม่ได้กับการใช้ยาสมุนไพรแบบวิธีเดิม(ยาหม้อ ยาลูกกลอน ฯลฯ)แต่อย่างไรก็คือยาไทยที่รักษาโรคได้โดยไม่ต้องซื้อหาจากต่างประเทศให้สิ้นเปลือง

สำหรับในชนบทความรู้เรื่องการใช้ยาสมุนไพรที่มีให้กับชาวบ้าน มีประโยชน์และสำคัญกว่าการจ่ายยาสมุนไพรแบบบรรจุเสร็จ

ถ้าความคิดเห็นนี้เป็นการดูหมิ่นหรือมีถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมก็ขออภัยมา ณ ที่นี้

นี่เป็นความคิดเห็นที่ต้องการให้คนทั่วๆไปรับรู้และเข้าใจยาไทย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท