บทเรียนแรกเมื่อกลับมาถึงบ้านหลังไปรับการอบรมนพลักษณ์ประจำปี ๕๒


ความสุขภายในอันลึกล้ำที่ได้มาฟรีๆ

บ่ายวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ย.52 เมื่อจบการอบรม 5 วัน ในหัวข้อ ความสุขและสุขภาวะของคนทั้ง 9 ลักษณ์ (Happiness & Health in the 9 Types) ผมขับรถกลับบ้านอย่างสบายๆ ขับช้าเป็นพิเศษ ขับไปเรื่อยๆ อยู่เลนกลางตลอด ไม่กำหนดเวลาว่าจะต้องถึงบ้านกี่โมง ก็รู้สึกมีความสุขไปอีกแบบ สุขอยู่กับการขับรถขณะขับ เกิดความมั่นใจขึ้นมาว่าผมไม่ชนกับอะไรอย่างแน่นอน

กลับมาถึงบ้าน แฟนออกไปธุระยังไม่กลับ ผมเก็บของจากรถเสร็จแล้วก็เปลี่ยนชุดจะออกกำลัง แฟนกลับมาทักทายกันก็เลยยังไม่ได้ออก เธอเอารูปครอบครัวที่ไปอัดมาให้ดูด้วยกัน

พอดูหมดทุกรูป ผมอยากดูบางรูปซ้ำอีก ขณะเดียวกับที่เธอก็อยากดูบางรูปซ้ำเช่นกัน
ขณะทีผมกำลังยื่นมือออกไปจะแย่งพลิกอัลบั้มไปที่รูปผมก่อน ผมก็เห็นมือตัวเองที่กำลังพุ่งออกไปนั้น แล้วก็เลยหยุดมือที่ยื่นค้างอยู่เช่นนั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆ วางมือตนเองลง ผมเกิดความรู้สึกดีที่เห็นอะไรบางอย่างในตนเอง ซึ่งทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคงไวกว่าที่เธอจะรู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรเกิดขึ้นในตัวผม แต่สำหรับผมทั้งหมดนั้นมันเหมือนยาวนาน มันอาจเร็วกับเวลาภายนอกชั่วแค่เสี้ยววินาที แต่มันเหมือนนานในตัวผม มันเป็นความสุขภายในที่ผมสัมผัสได้เฉพาะตนเอง

แล้วผมก็ดูรูปที่เธออยากดูซ้ำก่อน ฟังเธอพูดถึงรูปนั้น ฟังอย่างเปิดใจฟังจริงๆ หูเปิด ตาเปิด จมูกเปิด ผมรู้สึกมีความสุขกับการที่ได้ใส่ใจฟังเธอ ทำให้ผมได้เข้าใจความหมายที่เธอมีต่อรูปนั้น ทำให้ได้เข้าใจว่ารูปนั้นมีคุณค่าต่อเธออย่างไร

ทำให้ผมผู้หลงรักตัวเอง มักสนใจอยู่แต่เฉพาะเรื่องราวที่สนุกๆ มันๆ ของผม ได้สัมผัสกับความสุขที่ได้ "อยู่กับคนอื่น" จริงๆ ด้วยใจขึ้นมาบ้าง

ทำให้ผมไดัเรียนรู้ว่า ความสุขจากการได้รักเพื่อนมนุษย์และสรรพสิ่งในโลกที่แท้แล้วก็เริ่มจากการรักคนที่อยู่ตรงหน้าเราในขณะนั้นๆ นั่นเอง  Cry

ทำให้ผมได้เรียนรู้อีกครั้งว่า  "ความสุขภายในที่ลึกล้ำและได้มาฟรีๆ"  ที่ท่านสันติกโรเน้นทุกวันในการอบรมครั้งนี้นั้นหมายความว่าอย่างไร

หากผมเอาแต่ใจตนเอง ไม่เห็นว่ากำลังทำอะไรตามใจตนเองอย่างที่เคยชิน ผมคงจะพลาดโอกาสดีๆ เช่นนี้ เหมือนที่เคยพลาดมาแล้วทั้งชีวิต

ผมตั้งใจที่จะไปร่วมงานนี้อีกในทุกๆ ปี ไปร่วมงาน Home Coming ของผองเพื่อนนพลักษณ์ เป็นการไปเฉลิมฉลองการเติบโตในรอบปีที่ผ่านมา ไปทำ self-reflection ผ่านกิจกรรมจับคู่ถามซ้ำ กิจกรรมกลุ่มย่อยตามลักษณ์ คละลักษณ์ และกิจกรรมขึ้น Panel สัมภาษณ์กลุ่มตามศูนย์ และตามลักษณ์ ในลีลา traditional narration ของสำนักเฮเลน พาล์มเมอร์ และเดวิด แดเนียล ไปเรียนรู้ร่วมกันเพื่อก้าวเดินต่อไปในเส้นทางสายจิตวิญญาณ โดยมีอาจารย์สันติกโรและอาจารย์โจน ไรอัน เป็นผู้ช่วยชี้นำทาง

ขอขอบพระคุณอาจารย์ทั้งสอง

ขอขอบคุณอาจารย์ธนา และอาจารย์หมูที่ช่วยกันแปลอย่างตั้งอกตั้งใจดีมากๆ
รู้สึกรักอาจารย์ธนามากเลยเมื่อตอบข้อสงสัยของผมที่ว่าทั้งฟังแล้วแปลกลับไปกลับมาได้ทั้งสองภาษาทั้งวันได้โดยไม่หลุด กับคำพูดเพียงสั้นๆ ว่า Just be with it
ครับผม คนลักษณ์เจ็ดอย่างผมคงต้องฝึกฝนตนเองอีกเยอะจึงจะ "เพียงแค่อยู่กับมัน" กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในขณะนั้นๆ

ขอบคุณด้วยความทึ่งในตัวคุณหมูผู้ดูเหมือนจะเงียบๆ ขรึมๆ ขึ้นมานำพวกเราทำกิจกรรมภาคกลางคืน ภาพกิจกรรมไดอาล็อกเป็นกลุ่มๆ รอบกระทงดอกไม้ที่มีเทียนไขปักอยู่ด้วยในทุกกระทง เมื่อไฟในห้องสัมมนาใหญ่ปิดมืดลง แสงจากเปลวเทียนที่ลุกโชนได้ช่วยปลุกจิตวิญญาณแห่งความสุขจากการได้ฟังคนอื่นและฟังตนเองอย่างสงบของผมให้ตื่นขึ้น

รวมทั้งความตื่นตาตื่นใจและตื่นเต้นกับ "กราฟยักษ์" ที่คุณหมูและพวกใช้พื้นที่ทั้งห้องสัมมนาให้เราทุกคนเข้าไปเลือกนั่งเพื่อพล็อตจุดของตนเองแล้วก็ได้เห็นภาพรวมของกราฟวัดระดับความเข้าใจว่าพวกเราก้าวหน้าไปแค่ไหนในหมู่สัมมนาสมาชิก (คิดได้ไง!)

ขอบคุณคุณตั๋ม อาจารย์หยอย คุณวิเชียร อาจารย์ไก่ คุณหนิง คุณเนา คุณนุช(อัญชลี) คุณเปี๊ยก และทีมงานสมาคมนพลักษ์คนอื่นๆ ที่ดูแลงานนี้ดีมากๆ
(โดยเฉพาะห้องประชุมที่กว้างขวาง ถูกใจ ลงตัว และอาหารที่มีผักเยอะทุกมื้อ)

ขอบคุณคุณวิเชียรที่กรุณาสำเนาดนตรีชี่กงของหนุ่มนิรนามให้

ขอบคุณ คุณ ห สระเอีย ไม้โท ย ยักษ์ ในสระข้างห้องสัมมนาตัวนั้น ที่ว่ายน้ำผ่านไปมาช้าๆ อวดความนิ่งและสงบเย็นของมัน ให้พวกเราได้เพลินตาเป็นระยะๆ พร้อมกับสอนอะไรบางอย่างแก่เราแต่ละคน

ขอบคุณเพื่อนนพลักษณ์ทุกคนที่เข้าร่วมอบรมครั้งนี้ด้วยกันจากส่วนลึกของหัวใจ

รักทุกคนครับ

สุรเชษฐ เวชชพิทักษ์
๓๐ พ.ย. ๕๒

หมายเลขบันทึก: 317170เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2009 11:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

บางที..สิ่งที่เราพยายามค้นหา หรือตามหามันอยู่ตลอดชีวิต..แท้ที่จริงแล้ว..มันก็คือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา..นั่นเอง

เพียงแต่ถ้าเราหยุดวิ่ง..หยุดตามหา และเปิดใจ รับรู้ รับฟัง มากขึ้น เราก็จะพบว่าความสุขมันอยู่แค่เอื้อม มันอยู่ใกล้กับเราแค่นี้เอง..เพียงแต่เราไม่เคยหยุด..พินิจ..พิจารณา..จึงทำให้มองข้ามไปและมองไม่เห็น..กับบางคน บางเรื่องเราก็ปล่อยมันผ่านไปอย่างน่าเสียดาย จนไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ ขอให้เก็บเกี่ยวความสุขกับคนที่เรารักให้มากที่สุด ก่อนที่จะสายไป..

โห ป่าป๊า โดน///

ผิงผู้หลงรักตัวเองคงต้องฝึกเปิดตา เปิดหู จมูก ฟังคนที่อยู่ตรงหน้าบ้างเช่นกัน

แนวคิดเกี่ยวกับความสุข ลองแวะเยี่ยมดูนะครับ ที่ Link

http://gotoknow.org/blog/findhappiness/315289

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท