ภาษาที่มักสร้างความเข้าใจผิดได้ง่าย เป็นภาษาที่ทำร้ายสังคม เพราะทำให้คนฉลาด กลายเป็นคนโง่ไปได้ เพราะคิดไม่ชัดตามภาษาไปด้วย


 

มีศัพท์เทคนิคหลายคำ ที่เราไม่ค่อยใช้เวลาทำความเข้าใจอย่างจริงจัง จนความหมายเบลอ

ส่วนหนึ่ง ก็น่าเห็นใจ เพราะใช้วิธีการผูกคำที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

บางคำ ก็ใช้กันต่อ ๆ จนกลายเป็นคำที่คนคิดว่า ข้ารู้ ข้าเห็น อิอิอิอิ (แต่จริง ๆ ไม่รู้ อ่ะอ่ะอ่ะ)

อย่างเช่นคำว่า สายตายาว

วัยรุ่นหลายคน ก็ยังคิดว่า ตัวเองสายตาสั้น พอแก่ตัวลง จะเอาสายตาสั้นแทนสินทรัพย์ ไปหักกลบสายตายาวที่เป็นหนี้สิน เจ๊ากันพอดี ก็ไม่เกรงอกเกรงใจคนแก่สายตายาว หัวเราะเยาะหรือล้อเลียนเป็นที่สนุกสนาน

พอถึงวัยสี่สิบ เจอกับตัวเอง ก็ค่อยซึ้งว่า อ้าว หนี้สินทั้งคู่หรอกเรอะ คือสายตาสั้นและสายตายาว มาเคียงบ่าเคียงไหล่กัน

เพราะสายตาสั้น แปลว่า มองไกลไม่ชัด

และสายตายาว แปลว่า มองใกล้ไม่ชัด

คนที่สายตาสั้นและสายตายาว ก็เลยมองไม่ชัดทั้งใกล้และไกล

โสน้าน่า ^ ^

 

อีกตัวอย่าง คือคำว่า แตกต่างทางสถิติ

ผมเคยเขียนถึงรายละเอียดไว้ในเรื่องเกี่ยวกับคำนี้โดยเฉพาะ ในเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนสถิติด้วยภาพ ต้องขอเชิญตามไปอ่านรายละเอียดเองนะครับ ไม่อยากลงรายละเอียดซ้ำซาก

นี่ก็ทำนองเดียวกัน

คือสมมติว่า จะบอกว่า คำว่า แตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ เป็นการใช้คำที่ถูกต้อง ผมขอค้าน

ครั้นจะบอกว่า  แตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ เป็นการใช้คำที่ผิด ก็พูดยาก เพราะมีคนนิยมใช้กันมากจนเกือบจะกลายเป็นมาตรฐานสากลไปแล้ว

แต่ที่คงไม่สามารถปฎิเสธได้คือ การใช้คำว่า  แตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ เป็นการใช้ภาษาที่สร้างความสับสนให้คนจำนวนมาก

แตกต่างยังไงฟะ ดันไม่มีนัยสำคัญ ?

 

คนเราคิด ใช้ภาษาแทนเท้าในการเดินไปในความคิด

เจอภาษาเลื่อนลอยที่มีความหมายสับสน ความหมายขัดแย้งกันเองในที ภาษาที่ไม่สื่อ ก็เหมือนการเดินในหมอก คือตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน ก็ไม่รู้ ตัวเองกำลังจะไปที่ไหน ก็ไม่รู้

 

ใช้ภาษาที่มักสร้างความเข้าใจผิดได้ง่าย เป็นการทำร้ายสังคม เพราะทำให้คนฉลาด กลายเป็นคนโง่ไปได้ เพราะคิดไม่ชัดตามภาษาไปด้วย

ผมเคยพูดถึงเรื่องการวิเคราะห์มหภาคในสมการความโง่

ลองมาดูกันนะครับ

โง่ = โง่โดยโครงสร้าง + โง่โดยสภาพแวดล้อม + โง่โดยตัวของมันเอง + บังเอิญโง่

ภาษาที่มีปัญหา ทำให้คนโง่โดยโครงสร้าง

"โง่โดยโครงสร้าง" คือการที่โครงสร้างเอื้ออำนวยให้โง่ เป็นการโง่เชิงระบบ

สื่อมวลชนบิดเบือน ก็ทำให้สังคมโง่โดยโครงสร้าง เพราะสังคมเห็นคนละอย่างกับปรากฎการณ์จริง

ไม่ตางจากการที่ขาไปพาดท่อไอเสียร้อน แล้วประสาทดันรับรู้ไปว่า เป็นความเย็นกำซาบ ชื่นใจ ชื่นใจ 

สื่อมวลชนบิดเบือน ก็คือระบบประสาทรับรู้ของสังคมเกิดวิกลจริต เกิดแบบนี้กับคน ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน ฟุ้งซ่านอาละวาดได้ แต่เกิดแบบนี้กับสังคม เขานิยมเรียกเสรีภาพสื่อ

การใช้ภาษาที่ชวนสับสน ก็เป็นความโง่โดยโครงสร้างด้วย เพราะใคร ๆ ก็ต้องใช้โดยไม่ทันรู้ตัว

นึกถึงภาพลูกหมาวิ่งไล่งับหางตัวเองนะครับ นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเวลาคนฉลาดใช้ภาษาที่ความหมายไม่ชัดเจน และคนมักเข้าใจผิด

หนักกว่านั้น คือคนฉลาดที่ใช้คำที่ตัวเองรู้ความหมายดีนั่นแหละ แต่สร้างความเข้าใจผิดให้สังคม โดยเอาช่องโหว่ของความหมายที่สังคมเข้าใจเพียงรางเลือน มาใช้ เพื่อหาประโยชน์จากตรงนั้น

 

หมายเหตุท้ายเรื่อง:

1. โง่โดยสภาพแวดล้อม เดี๋ยวนี้มีศัพท์หรู เรียก digital divide

2. โง่สองอย่างหลังที่เหลือ  ขอข้ามไปไม่เอ่ยถึง ไม่งั้นเดี๋ยวมีคนมากล่าวหาว่าผมฝักใฝ่ทางการเมืองจังวุ้ย ^ ^

 

หมายเลขบันทึก: 255514เขียนเมื่อ 14 เมษายน 2009 20:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 21:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

โดนต้อนรับบันทึกนี้เลยค่ะ ภาษาเป็นพิษ ทำเหตุซะแว้ว สงสัยพรุ่งนี้ต้องให้รดน้ำขอพรแม่เผื่อจะเฮงขึ้นค่ะ ^ ^

ตรงไปตรงมา ฮา ๆ ดี แต่เป็นความจริง :)

ขอบคุณครับ

แล้วคนแกล้งโง่

เพื่อหวังผลประโยชน์จากการตีความหมายผิดๆ ละครับ

อยู่ประเภทไหนครับ

คุณ P  Little Jazz

  • ...
  • โถโถโถ ขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตัวนะ

 

P  Wasawat Deemarn

  • ...
  • ถ้าเป็นรายการมีสาระ ผมจะขวานผ่าซากครับ
  • ส่วนรายการไร้สาระ จะนิยมอ้อม ๆ หลายสิบโค้งครับ เน้นบันเทิงอย่างแน่วแน่
  • รายการนี้มีสาระครับ แต่ไม่อยากให้หนัก


P  ดร. แสวง รวยสูงเนิน

  • ...
  • แหม ถามแบบนี้ ก็ตอบได้หวานคอแร้งเลยสิครับ
  • ก็ "คนฉลาดแกมโกง" ไงครับ

 

  • คิด ๆ ดู น่าจะลองทำ ทำเนียบคำศัพท์ "หยั่งว่า" ซะหน่อย
  • เอ่อ... ไม่ใช่หมายถึง XXX แบบ 1 pixel นะครับ
  • หมายถึง คำที่อยู่ในข่ายที่พูดถึงในเนื้อเรื่อง
  • ลองเสนอคำที่ว่ามาหน่อยกันดีไหมครับ
  • ขอแต่คำศัพท์ ไม่เอาคำอธิบายหรือเหตุผล ไม่อยากเป็นกระทู้ร้อนแรงประจำวันครับ
  • เสนอว่า ท่านละไม่เกิน 3 วลี จะได้กลั่นกรองออกจากใจได้เข้มข้นหน่อย
  • เชิญนะครับ...

"ฉลาดทึกทัก" ; P น่าจะเข้าข่ายพวกที่คิดว่าเป็น Guru แต่อันที่จริงเป็น Gumairu ค่ะ

ขออนุญาตฝากไว้สัก 2 คำค่ะ

" โง่บ้าๆ" และ "สะมะเห่ย"

ไว้มาเสนอคำ "หยั่งว่า"

วันนี้ขอเรียกคนสายตามองอะไรลำบากเมื่ออายุถึงวัย..ว่า

"สายตาคนวัยมีประสบการณ์" ค่ะ

 

จวนแล้วเหมือนกัน ;P

คนฉลาดที่ใช้คำที่ตัวเองรู้ความหมายดีนั่นแหละ แต่สร้างความเข้าใจผิดให้สังคม โดยเอาช่องโหว่ของความหมายที่สังคมเข้าใจเพียงรางเลือน มาใช้ เพื่อหาประโยชน์จากตรงนั้น

ว่าโดยย่อก็คือ คนโง่เป็นเหยื่อของคนฉลาด

คุณ กวิน

...จริง ๆ แล้ว มีแนวโน้มว่า...

  • คนโง่ มักเป็นเหยื่อของ คนฉลาด
  • คนฉลาด มักเป็นเหยื่อของ คนบ้า
  • คนบ้า มักเป็นเหยื่อของ คนโง่

**2. โง่สองอย่างหลังที่เหลือ  ขอข้ามไปไม่เอ่ยถึง ไม่งั้นเดี๋ยวมีคนมากล่าวหาว่าผมฝักใฝ่ทางการเมืองจังวุ้ย ^ ^

อย่างคำว่า disagree to disagree จึงเลือกสีเข้าข่ายมั้ยคะ

**         **             **

  • อีกคำที่พอนึกออก tender ในเพลง love me tenderและ เวลาตรวจร่างกายคนไข้ ที่ปวดท้อง แล้วเราจดว่า abdomen: soft, not tender
  • สร้างความสับสนดีจังค่ะ ขอคุยระหว่างพักเขียนงานค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท