คราวที่แล้วอ่านเรื่องย่อขนาดยาวกันไปแล้ว หลายท่านบอกว่าขี้เกียจดูละครแล้ว อ่านเรื่องย่อผมจบก็รู้เรื่องหมดแล้ว เพราะยิ่งดูก็ยิ่งรำคาญพระเอก อิอิ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆผมเอาเรื่องนี้มาเขียนก็ไม่ค่อยได้ดูเพราะมันเน่าได้ใจ อย่างที่คุณสุดทางบูรพาว่า.... 

               วันนี้ก็เลยมาวิเคราะห์ข้อกฎหมายในละครกันดีกว่า  ความจริงแล้วในละครเรื่องนี้มีข้อกฎหมายไม่เท่าไหร่ ที่เห็นก็มีพระเอก(ประจิม)ทะเลาะกับหลาน(วิกสิต)เพื่อแย่งชิงนางเอก(อ่อน)แล้วชกกัน ก็เป็นความผิดเรื่องทำร้ายร่างกาย  หรือประจิมตบสตีที่ถามเรื่องอ่อนแล้วปกปิดหรือปล่อยให้อ่อนหนีไป ซึ่งก็เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายอีกเช่นกัน ที่เหลือในเรื่องส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องใช้วาจาเชือดเฉือนกัน กับมีเรื่องนันทวันแฟนเก่าประจิมที่หันกลับมาคืนดีกับประจิมแล้วอ้างว่าท้องกับประจิมเพื่อให้ประจิมแต่งงานด้วยแถมยังทำท้องปลอมหลอกทุกคนในบ้าน เออ...พูดถึงตรงนี้เราแวะมาวิเคราะห์ข้อกฎหมายในเรื่องนี้ดีกว่าครับ ฉ้อโกง

                คำว่า”ฉ้อโกง”นั้น กฎหมายอาญา มาตรา 341 บัญญัติว่า  “ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” 

               ถ้าเราจะแยกองค์ประกอบของกฎหมายก็จะแยกได้ดังนี้ครับ

                ๑.ผู้ใด

                ๒.หลอกลวงผู้อื่น

                ๓.การหลอกลวงนั้น ได้แสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง

                ๔.ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผ็ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ

                ถ้าเอามาเทียบกับนันทวันที่หลอกทุกคนในบ้านว่าตัวเองท้องกับประจิม มาดูกันครับ

                ผู้ใด ก็คือ นันทวัน

                หลอกลวงผู้อื่น คนที่ถูกหลอกคือ ประจิม คุณนายอรรถประกาศ(แม่ประจิม) ประภัสสร(พี่สาวประจิม) แล้วก็อ่อน นางเอกผู้ยอมทุกอย่าง   ส่วนสตีก็รู้ความจริง วิกสิตก็รู้ความจริงไม่ถูกหลอก

                การหลอกลวงนั้นทำอย่างไร บอกทุกคนว่าท้อง เป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ และปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง  ก็คือ ไม่ได้บอกให้ทุกคนรู้ว่าตนไม่ได้ท้อง ที่ท้องป่องเพราะเอาผ้าไปจุกไว้

                เห็นไหมครับเข้าองค์ประกอบเป๊ะ....(ขอแทรกดนตรีประกอบ รายการคนหัวหมอหน่อยนะครับ ช่วยนึกภาพไปด้วยจะได้อารมณ์ อิอิ)

                คราวนี้มาดูองค์ประกอบข้อสุดท้าย การหลอกลวงนั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ แต่ตามในละครนันทวันยังไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป และยังไม่ได้อยากได้อะไรที่เป็นทรัพย์สิน แต่สิ่งที่นันทวันอยากได้คือตัวประจิม ถูกไหมครับ โดยหวังว่าถ้าได้ประจิมเป็นผัว เอ๊ย...ลูกทุ่งไปหน่อย เป็นสามีครับเป็นสามี....ตัวเองก็จะสุขสบายเพราะประจิมเป็นคนรวย  ก็ต้องมาถามกันต่อว่าประจิมเป็นทรัพย์สินไหมครับ  ประจิมเป็นคนครับไม่ใช่ทรัพย์สิน ดังนั้นจึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานฉ้อโกงครับ แป่ววววว.......

                เป็นอันว่าเราเอาผิดกับนันทวันไม่ได้ในกรณีที่หลอกทุกคนว่าท้องนะครับ

                แต่ละครเรื่องนี้ยังไม่จบ เมื่อคืนผมอ่านหนังสือ ดูละครมั่งอ่านหนังสือมั่ง เห็นตัวอย่างตอนต่อไปนันทวันใช้ปืนยิงประจิม แต่รู้สึกจะโดนหัวไหล่ประจิมไม่ตาย แสดงว่าในเรื่องย่อที่ผมยกมาคราวที่แล้วว่าไม่รู้ประจิมถูกยิงหรือรถคว่ำ เพราะสองฉบับไม่เหมือนกัน เราได้คำตอบจากตัวอย่างแล้วนะครับว่าถูกยิง ฮึๆๆ ผมว่าหลายคนคงจะนึกให้ประจิมถูกยิงที่ปาก…อิอิ...เรามาดูการพยายามกระทำความผิด กันหน่อยไหมครับ

            กฎหมายอาญา     มาตรา 80 บัญญัติว่า “ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด          ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น”

                เรามาดูกัน นันทวันเอาปืนออกมายิงประจิม  เป็นการลงมือกระทำความผิดแล้ว

                กระทำไปตลอดแล้วหรือไม่ ก็ตอบได้ว่ากระทำไปตลอดแล้ว ยกปืนจ้องเล็ง นิ้วเหนี่ยวไกปืน กระสุนปืนพุ่งออกไปแล้ว

                การกระทำนั้นบรรลุผลหรือไม่ ถ้าประจิมตายตามที่นันทวันต้องการก็ต้องถือว่าการกระทำนั้นบรรลุผล แต่เมื่อประจิมไม่ตายก็ต้องถือว่าการกระทำนั้นไม่บรรลุผล   ดังนั้นนันทวันจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่าประจิม ครับ  โทษหนักกว่าฉ้อโกงอีก สะใจไหมล่ะ....เพราะความผิดฐานฆ่าผู้อื่นต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี แต่ตามกฎหมายจะลงโทษในการพยายามกระทำความผิดสองในสามของโทษจริงครับ  หลายคนจะงงว่าอ้าว แล้วโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตจะลดยังไง  ลดได้โดยคำนวณโทษอยู่ที่ ๕๐ ปีก่อนครับแล้วจึงมาคำนวณลดโทษสองในสามครับ  ก็จะเหลือ ๓๓ ปี ๔ เดือน ครับ

                วันนี้ แค่หอมปากหอมคอก่อนนะ ตอนแรกว่าจะเฉ่งพระเอกก่อน แต่ผมว่าผู้ชมก็กำลังหมั่นไส้นันทวัน ผมก็เลยเอามาขึ้นเขียงเสียก่อน คิกคิก...