ผมเป็นคนใจง่าย ใครบอกอะไรก็ทำ อิอิ แฟนๆบล็อกเขาบอกให้เขียนเรื่องลิขิตกามเทพ ก็ตามใจหาเรื่องย่อมาอ่านเพื่อจะได้มาวิเคราะห์ข้อกฎหมายให้อ่านในสไตล์อัยการชาวเกาะ สรุปโน่นนิดนี่หน่อยก็ได้มาเป็นอย่างนี้แหละครับ ผมเอาชื่อนักแสดงใส่มาให้ด้วยจะได้ติดตามได้ง่ายหน่อยว่าใครเป็นใคร)
พินิจนัย(กฤษฎา พรเวโรจน์ คนนี้เป็นพระเอก) ลูกชายพ่อเลี้ยงเมืองตากกำพร้าแม่ มีแม่บ้าน จินดา(กาญจนา จินดาวัฒน์) เลี้ยงดูและมีสุจิตรา(วัลวิภา โยคะกุล) กับสาวิตรี (ดารณีนุช โพธิปิติ)น้องสาวแม่ที่พยายามจะเสนอตัวให้พ่อเลี้ยงบดินทร์ (พ่อของพินิจนัย)แต่พ่อเลี้ยงบดินทร์ไม่เคยสนใจ พินิจนัยดูเป็นคนเงียบขรึมเพราะเภรี(สกาวใจ พูนสวัสดิ์ คนนี้เป็นนางอิจฉา)แฟนเก่าสาวกรุงเทพฯหักอก
พ่อเลี้ยงบดินทร์กลัวลูกเป็นเกย์ กับ ภูษิต(ธัญวิสิฏฐ์ เสียงหวาน) เพื่อนสนิท จึงนัดกับ จันทร์เพ็ญ(ดวงตา ตุงคมณี) เพื่อนสมัยเรียนจะไปดูตัวลูกสาวให้มาเป็นคู่ของพินิจนัย แต่พินิจนัย รู้ข่าวเลยชวน ภูษิต หนีเข้ากรุง เทพฯ
กานพลู(แอน ทองประสม นางเอกอยู่แล้ว) อาศัยอยู่กับ จันทร์เพ็ญ ป้าแท้ๆที่เลี้ยงดูราวคนรับใช้ และถูกโขกสับจาก ภัสสร(โชติรส แก้วพินิจ) และ พรรณทิพา (ทัศนาวลัย องอาจอิทธิชัย)ลูกสาวของป้า มีเพียง พิบูลย์ (ศุภมร โคว์นิน)ที่คอยปกป้อง กานพลูมีคนรักชื่อ ภาดา อิอิ มันน่าจะชื่อแมงดา แฮ่ะๆ(อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล คนนี้เป็นตัวโกง) เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง ทั้งสองทำงานอยู่บริษัทเดียวกันซึ่งมีเภรี เป็นลูกสาวของเจ้าของ ภาดา ไต่เต้าด้วยการมีอะไรกับ เภรี พอ กานพลู รู้เรื่องจากการ์ดเชิญที่ถูกออกแบบอยู่ในคอมพิวเตอร์ก็เสียใจมาก จะฆ่าตัวตาย โชคดีที่บุตราซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมาช่วยเหลือไว้ ทั้งสองไปเที่ยวผับดื่มกันจนเมา และกานพลูเกือบถูกข่มขืน พินิจนัย ที่ไปเที่ยวกับ ภูษิต ช่วยเหลือเอาไว้ได้ และพากลับไปด้วย
รุ่งเช้า กานพลู คิดว่าตนโดนข่มขืนจึงด่าทุบตีชายหนุ่ม(เรื่องนี้นางเอกปัญญาอ่อน ถูกข่มขืนหรือไม่ตื่นเช้าขึ้นมายังไม่รู้นี่นะว่าตัวเองผิดปกติอะไรตรงไหนบ้าง แล้วบอกว่าเป็นสาวบริสุทธิ์ เฮ้อ..เวรกรรม ) พินิจนัย ไม่ทัน ได้อธิบายนางเอกก็หนีขึ้นแท๊กซี่กลับไปก่อน บดินทร์มาหาจันทร์เพ็ญ ตอนลากลับเจอ กานพลู กระเซอะกระเซิง กลับมาก็เกิดปิ๊งทันที สู่ขอกานพลูเป็นภรรยา
ถึงวันนัดหมายแต่งงาน จันทร์เพ็ญ พา กานพลู มายกให้ บดินทร์ ถึงบ้าน พินิจนัย พบ กานพลู ก็มีปากเสียงกัน และกานพลูก็ถูกพินิจนัยข่มขืนเพราะพินิจนัยเข้าใจว่ากานพลูคือผู้หญิงที่พ่อไปสู่ขอให้มาแต่งงานกับตน แต่พิธีแต่งงานก็ผ่านมาจนถึงเวลาเข้าหอ กานพลูโวยวายไม่ยอมนอนกับบดินทร์ ต้องเรียกอีหนูมานอนแทน ส่วน กานพลู หนีไปนอนกับ จินดา จนกระทั่งวันที่ 7 บดินทร์ หัวใจวาย (เรื่องย่อบางฉบับว่า “ตายคาอกอีหนู” แต่ในละครที่ผมดูไม่ได้มีอะไรกัน อยู่ๆก็หัวใจวาย เพียงแต่อีหนูแทนที่จะรีบโทรศัพท์หาหมอก็มัวแต่ร้องไห้ แล้วบดินทร์สมควรตายไหมเนี่ย..) หลังงานศพ กานพลู ได้ส่วนแบ่งมรดกคนละครึ่งกับ พินิจนัย(เรื่องนี้น่าสงสัยพอจดทะเบียนปุ๊บ ผัวตายได้สมบัติครึ่งหนึ่งเลยเหรอ เรื่องนี้ต้องขยายครับ) ชายหนุ่มประชดเรียก กานพลู ว่าคุณแม่
กานพลู กับ พินิจนัย ไปงานแต่งงาน เภรี กับ ภาดา ด้วยกัน ภาดา ตะลึงในความร่ำรวยของแฟนเก่า เภรี ก็รู้ ความจริงว่า พินิจนัย คือเศรษฐีตัวจริงภาดา ทำท่าขอคืนดีกับ กานพลู พินิจนัย หึงหวง กานพลู ออกนอกหน้า
จินดา บอกความจริงว่า กานพลู ไม่เคยนอนกับ บดินทร์ แต่ พินิจนัย ไม่เชื่อ เลย วางแผนมอมเหล้าจนทั้งคู่ได้เสียกัน (เมาไม่ได้เรื่องทั้งคู่ คนเมาไม่รู้เรื่องที่ไหนจะมีเพศสัมพันธ์ได้ โม้เป็นนิยาย เออ..ก็มันเป็นนิยายนี่นะ...อิอิ)
กานพลู ตั้งท้อง แต่ทุกคน เข้าใจว่าท้องกับ บดินทร์ แต่ พินิจนัย เข้าใจว่าท้องกับ ภาดา(พระเอกเรื่องนี้ก็ไม่ฉลาดอีกคนนึงแล้ว ทำไมตูต้องมาดูเรื่องคนโง่...นะเนี่ย....)
เภรี วางแผนดักยิงกานพลู พินิจนัย ช่วยเอาไว้ทัน กานพลู หกล้มจนคลอดลูกสาวก่อนกำหนดต้องอยู่ในตู้อบ (ไม่เหมือนชีวิตจริงดาราเดี๋ยวนี้เลย แต่งปุ๊บ ๖-๗เดือนก็มีลูกแล้ว เด็กแข็งแรงด้วยน้ำหนักส่วนใหญ่จะอยู่ที่ ๒,๘๐๐ กรัมขึ้นไป อิอิ)
กานพลู ตัดสินใจหนีไปเพื่อความสบายใจของ พินิจนัย ที่คิดว่า กานพลู จะมาชุบมือเปิบอ้างเป็นลูกของบดินทร์ พินิจนัยรู้ความจริงจากภาดาว่า กานพลูไม่เคยมีอะไรกับ ภาดา และรู้ความจริงว่าแม้กับบดินทร์กานพลูก็ไม่เคยมีอะไรมาก่อน และเด็กนั่นคือลูกของตนเองยิ่งรู้สึกเสียใจมาก(สมควรเอาไม้หน้าสามเคาะกะโหลกตัวเอง มากกว่า)
ภาดา ลอบยิงกานพลูแต่พินิจนัยเข้าช่วยจนถูกยิง อาการสาหัส จินดา ขอร้องให้ กานพลู มาดูแลจนอาการดีขึ้น กานพลู พา พินิจนัย กลับไปที่บ้านไร่ที่ซื้อไว้ เขาได้พบลูกน้อย และใช้ชีวิตอยู่ในไร่ด้วยกันอย่างสงบตลอดไป
เอาเรื่องย่อมาเป็นน้ำจิ้มก่อนอ่านวิเคราะห์ข้อกฎหมาย ซึ่งก็เป็นเรื่องยากเหมือนกันเพราะไม่รู้จะเอาอะไรมาวิเคราะห์ เพราะพยายามไม่ให้ซ้ำข้อกฎหมายของเก่า เดี๋ยวท่านจะเบื่อเสียก่อน
เอาน่า...ลองติดตามดูแล้วกันนะครับว่าเราจะได้เรื่องอะไรที่เป็นสาระบ้าง....
สวัสดีค่ะ อาจารย์
สวัสดีค่ะท่านอัยการ
สวัสดีค่ะ
ผมไม่ได้ดูก็ไม่เป็นไร มีท่านเล่าไว้ให้อ่าน คนอะไรมีแก่ใจเจือจาน ขอบคุณท่านอัยการจริง ๆ
สวัสดีค่ะ คุณอัยการ
ท่านอัยการ
บังเอิญว่าหนูไม่ค่อยได้ดูหนัง ส่วนใหญ่ที่ว่าง คือ นอน
ขอบคุณในความเอื้อเฟื้อที่ทำให้รู้ว่า มีละครเรื่องใหม่แล้ว
แต่อ่านแล้วก็ยัง งงๆ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน หรือเปล่า (หรือว่าหนูไม่รู้เรื่องเอง) เอาเป็นว่าจะรออ่านข้อกฏหมายดีกว่าค่ะ
ตามมาอ่านอีกคนค่ะ
สวัสดีครับ
สวัสดีครับป้าแดง
แหม...ดูซะหน่อยเหอะ เดี๋ยวไม่ได้อารมณ์เวลาอ่านวิเคราะห์ข้อกฎหมายนะ อิอิ
สวัสดีครับคุณหญ้าบัว
กำลังเริ่มเขียนตอนสองอยู่ครับ ดูละครแล้วอย่าคิดมากครับ ดูแล้วให้มันสนุกกับละครแต่อย่าดูไปเครียดไป เพราะถ้าดูอย่างนั้นแล้วทำร้ายตัวเองเดี๋ยวมะเร็งถามหา แต่ดูแล้วเอาเรื่องดีๆในละครมาเป็นข้อคิดดีกว่าครับ
สวัสดีครับน้องฝุ่น
เรื่องนี้ยุงชุมน้อยกว่าพฤกษาสวาทครับ ฮ่าๆๆ
ขอบคุณครูชา เปิงบ้าน มาเยี่ยมเรือนชานยอใหญ่
ขอบคุณที่มีน้ำใจ ติดตามต่อไปขอบคุณ อิอิ
สวัสดีครับคุณกระติก
อ่านเรื่องย่อก็รู้เพียงคร่าวๆ อยากรู้เรื่องละเอียดต้องดูที่ช่องสามนะจ๊ะ...ถ้าเขียนให้รู้เรื่องก็จะกลายเป็นเรื่องยาวไม่ใช่เรื่องย่อ อิอิ...คอยตามตอนสองนะครับจะวิเคราะห์ให้อ่านแต่ละตอนครับ
สวัสดีครับคุณเพชรน้อย
ขอบคุณที่ติดตาม อดใจอีกนิดนะครับกำลังเขียนตอนสองอยู่ครับ
ขอบคุณ ที่ติดตามนะครับ
เขียนให้ตามขอ กำลังเขียนตอนสอง อย่าลืมติดตามนะครับ
สวัสดีครับคุณเกษตรยะลา
แฟนละครตัวจริงเหมือนกันนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ
คุณ อัยการเขี้ยวจัง
ทวงขนาดนี้ เลยเอามาฝาก
อิอิ
สวัสดีคะ ท่านอัยการ
เพิ่งได้ดูละคร และงง งง แล้วเห็นบันทึกของท่านอัยการ เลยแน่ใจว่า...บันทึกแรกต้องได้อ่านเรื่องย่อ แน่ แน่ แล้วก็จริงซะด้วย ดีใจจัง
แล้วจะรออ่านบันทึกต่อไปคะ
ขอบคุณมากคะ
---^.^---
สวัสดีครับหมอกุ้ง
โฮก....ชื่นใจเดี๋ยวอ่านตอนสองต่อเลยนะ อิอิ
สวัสดีครับคุณพิมพ์ดีด
ดูละครแล้วงง ก็มาอ่านที่นี่ครับ แต่พอเขียนไม่ให้งง คนอ่านจะว่ายาวครับ อิอิ เอ้า..อ่านต่อภาคสองเลยครับ
สวัสดีครับคุณสุดทางบูรพา
นึกว่าเลิกดูละครซะแล้ว อิอิ ไหนๆมาแล้วก็ตามไปอ่านตอนสองต่อเลยนะครับ